ขอโทษทำป่วน-เหตุเมา ศรีวราห์บุกรวบที่นนท์ สอบอีก4-ร่วมทริปหื่น สรุป”สืบศักดิ์”บริสุทธิ์ คืน”ผวจ.แม่ฮ่องสอน”
ที่แท้ ส.อบต.บ้านใหม่เมืองนนท์แอบอ้างเป็นผู้ว่าฯซื้อประเวณี คดีกามเด็กหญิงที่แม่ฮ่องสอนชัดแล้ว ศรีวราห์นำทีมรอง ผบช.ภาค 5 รองผบช.ภาค 1 บุกจับถึงบ้านกำนัน หลังนัดแล้วไม่มา เจ้าตัวสารภาพสิ้นอ้างทำไปเพราะเมา ตร.เค้นเพิ่มหาตัวสมาชิกหื่นอีก 4 คนร่วมซื้อกาม พร้อมให้สตง.ตรวจสอบเบิกจ่ายงบฯผิดกฎหมายด้วย ด้านปลัดมหาดไทยเปิดแถลงผลสอบสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ไม่พบเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทุกกรณีและสั่งยุติเรื่อง เตรียมส่งกลับคืนไปทำหน้าที่ผู้ว่าฯ ต่อไป
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 พ.ค. ที่สภ. บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากภูธรภาค 5 เดินทางมา เพื่อติดตามความคืบหน้า และรอการเข้าแสดงตัวของผู้ต้องหาในการกระทำความผิดกรณีซื้อบริการ มี พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.นนทบุรี นำพนักงานสอบสวนมารอเพื่อที่จะสอบปากคำสมาชิกอบต.บ้านใหม่ และเจ้าหน้าที่ร่วมเดินทางไปดูงานที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามที่ได้ออกหมายเรียกเพื่อให้มาสอบปากคำ
จนกระทั่งเวลา 09.30 น. ปรากฏไม่มีสมาชิก อบต.หรือผู้บริหาร อบต.บ้านใหม่ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน พล.ต.อ. ศรีวราห์พร้อมคณะจึงได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 43/3 หมู่ 3 ซึ่งเป็นบ้านของนายพนม พึ่งสำราญ กำนันตำบลบ้านใหม่ และพบตัวนายชูชาติ พ่วงจีน อายุ 56 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ หมู่ที่ 7 อ.บางใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีแอบอ้างเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พรากผู้เยาว์ ซื้อบริการเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยนายชูชาติรับสารภาพว่าซื้อบริการกับเด็กจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ แอบอ้างเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้แจ้งกับนายชูชาติว่ามีพยานหลักฐานเป็นสมาชิก อบต.บ้านใหม่ที่ร่วมเดินทางยืนยันว่านายชูชาติแอบอ้างเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายชูชาติจึงยอมรับสารภาพว่า แอบอ้างเป็นผวจ.แม่ฮ่องสอน เพราะความเมา เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาสอบปากคำและแจ้งข้อหาซื้อบริการเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งแนวทางการสอบสวนพบว่ามีส.อบต.บ้านใหม่จำนวน 4 คน ร่วมซื้อบริการเด็กหญิงด้วย
จากนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์เดินทางไปที่ที่ทำการ อบต.บ้านใหม่ เพื่อตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายในการเดินทางไปดูงานที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื่องจากแนวทางการสอบสวนพบว่าเบิกจ่ายงบฯ ไม่ถูกต้อง ก่อนจะนำเอาเอกสาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต.บ้านใหม่ มาสอบสวน โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบปากคำ
ที่ สภ.บางแม่นาง นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผวจ.นนทบุรี และพล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้เดินทางกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากทางนายวสุ ผันเงิน นายก อบต.บ้านใหม่ พร้อมสมาชิก อบต. พนักงานขับรถ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูล ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้นำสมาชิกเข้าห้องสอบสวนที่เตรียมไว้สอบปากคำทันที
ที่ห้องทำงานของ พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สภ.บางแม่นาง นายวสุ พร้อมด้วยทนายความ เจ้าหน้าที่อบต.ที่ทำงบฯ เบิกจ่าย ได้เข้ามานั่งรออยู่ ก่อนที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ พร้อมเจ้าหน้าที่ สตง. เดินเข้ามาในห้อง ซึ่งระหว่างที่อยู่ในห้องทางพล.ต.อ.ศรีวราห์ และนายวสุ ได้โต้เถียงกันด้วย ก่อนที่ พล.ต.อ. ศรีวราห์ จะเชิญตัวทนายความออกนอกห้อง โดยใช้อำนาจหัวหน้าพนักงานสอบสวน โดยระหว่างการสอบถามในประเด็นการเบิกจ่ายการเดินทางไปดูงานที่แม่ฮ่องสอน โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ สอบถามกรณีที่สมาชิกอบต. จำนวน 2-3 คน ไม่ได้เดินทางไป แต่มีการ เซ็นชื่อเบิกจ่ายค่าห้องพัก และเกิดการโต้เถียงกันระหว่างนายวสุและพล.ต.อ.ศรีวราห์ โดยมีนายนิสิต เข้าร่วมฟังด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียด
ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ นายนิสิต พล.ต.ต. ภานุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุศักดิ์ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.ส.4 นำตัว นายชูชาติ ผู้ต้องหาในคดีเพื่อให้มีการค้าประเวณีรับตัวบุคคล ซึ่งตนรู้อยู่ว่ามีผู้จัดหา ชักพา หรือล่อไป หรือสนับสนุนให้มีการค้าประเวณี โดยได้กระทำต่อบุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปี และพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาตรา 9 และ ป.อาญา มาตรา 319 จึงได้แจ้งข้อหาและจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เหตุเกิดที่ ธนโชติรีสอร์ท เลขที่ 141/1 ถ.ขุนลุมประพาส ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2559 เวลากลางคืน
พล.ต.ต.ชยพลกล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าว มีการจับกุมดำเนินคดีกับผู้ต้องหาของ บช.ภ.5 จำนวน 18 คน ตำรวจ 9 คน พลเรือน 1 คน พ่อเล้าแม่เล้า 8 คน และ ปคม.จำนวน 8 คน พล.ต.อ.ศรีวราห์ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ลงมาควบคุมคดี ได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนในที่สุดได้ข้อเท็จจริงสรุปได้ความว่ามีสมาชิก อบต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้จัดโครงการฝึกอบรมและศึกษาดูงานเพิ่มเติมประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของคณะผู้บริหารและสมาชิกสภา ของ อบต.บ้านใหม่ ระหว่างวันที่ 21-24 ก.ย.2559 มีกำหนดการศึกษาดูงานที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.แม่ฮ่องสอน การเดินทางใช้รถยนต์เป็นพาหนะ และในวันที่ 22 ก.ย. 59 คณะสมาชิก อบต. ได้เข้าพักที่ธนโชติรีสอร์ท เลขที่ 141/1 ถ.ขุนลุมประพาส ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยในช่วงเวลากลางคืน มีการจัดหาหญิง จำนวน 4 คน มาให้บริการทางเพศแก่สมาชิก อบต. ที่ต้องการ อันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งผู้จัดหาและผู้ใช้บริการทางเพศ
ด้านนายชูชาติกล่าวว่า ตนยอมรับว่าได้ซื้อบริการจริง และแอบอ้างเป็น ผวจ.แม่ฮ่องสอน เนื่องจากความเมา และเด็กที่มาให้บริการได้ถามตนว่าทำงานอะไร ตนจึงบอกไปว่า เป็น ผวจ.แม่ฮ่องสอน ตนต้องขอโทษนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอนด้วยที่ทำให้ท่านได้รับความเสียหาย เพราะความเมาจึงได้พูดไปแบบนั้น
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่าผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง หากประสงค์จะแจ้งความกลับขอให้แจ้งมาที่ตน จะดำเนินการให้ตั้งแต่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนไม่เคยพูดหรือตอบโต้ใดๆ และไม่เคยติดต่อมาที่ตน ซึ่งขณะนี้ยืนยันได้ว่าหลักฐานทั้งหมดไม่มีความเกี่ยวข้องกับผวจ.แม่ฮ่องสอน และตำรวจไม่เคยบอกว่าผู้ว่าฯ มีความผิด เพียงแต่บอกว่ามีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งการชั่งน้ำหนักพยานดูแล้วไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ขณะนี้ได้สั่งการให้ พล.ต.ท. พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภาค 5 ให้เร่งรัดทำสำนวนสั่งไม่ฟ้องผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนและเสนอพนักงานอัยการไปตาม ป.วิอาญา
ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าผลการสอบข้อเท็จจริง ผวจ.แม่ฮ่องสอน ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ว่า ประธานคณะกรรมการสอบฯ รายงานว่าจากผลการสอบ ผวจ.แม่ฮ่องสอนและบุคคลในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้เสียหาย ไม่พบหลักฐานที่จะต้องดำเนินการทางวินัย ผวจ.แม่ฮ่องสอน ส่วนคดีอาญาขอให้เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หากมีความคืบหน้าในส่วนของคดีอาญา ก็จะนำส่วนนี้มาดำเนินการสอบทางวินัยต่อไป
เวลา 15.15 น. นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ฐานะประธานคณะกรรมการสอบฯ ร่วมแถลงผลสอบข้อเท็จจริงกรณีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อบริการเด็กหญิงใน จ.แม่ฮ่องสอนว่า จากที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ ได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสอบทั้งพยานในพื้นที่ พยานแวดล้อม พยานผู้รู้เห็นและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรวม 29 ปาก เบื้องต้นนายสืบศักดิ์ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนที่ที่มี การกล่าวอ้างว่านายสืบศักดิ์ได้เดินทางไป จ.แม่ฮ่องสอนวันที่ 22-23 ก.ย.2559 นั้น นายสืบศักดิ์ได้นำพยานหลักฐานว่าวันเวลาดังกล่าว ได้เข้ารับการอบรมอยู่ที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ตนยังได้สั่งให้คณะกรรมการไปตรวจสอบรายชื่อของผู้ที่เดินทางในเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไป จ.เชียงใหม่ และจาก จ.เชียงใหม่ไป จ.แม่ฮ่องสอน ก็ไม่พบรายชื่อของนายสืบศักดิ์เดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว
นายกฤษฎากล่าวต่อว่าส่วนที่มีการกล่าว หาว่ามีการจัดเด็กไปให้บริการในงานเลี้ยงต้อนรับ ผวจ.แม่ฮ่องสอนที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในวันที่ 1 ต.ค.59 นั้น คณะกรรมการได้ลงพื้นที่ไปสอบสวนผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทุกคนต่างให้การตรงกันว่าการจัดเลี้ยงต้อนรับนั้น จัดที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ไม่ใช่ที่รีสอร์ต และภายในงานเลี้ยงมีเพียงการผูกข้อมือตามประเพณี ไม่มีการจัดเลี้ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใด และจากการสอบปากคำเด็กหญิง 2 รายซึ่งเป็นผู้เสียหาย ปรากฏว่าเด็กหญิงทั้งสองคนยืนยันว่าไม่ใช่นายสืบศักดิ์ที่ซื้อบริการ ตอนที่เจ้าหน้าที่ให้ชี้ตัว เด็กหญิงทั้งคู่ก็ไม่ได้ชี้ภาพนายสืบศักดิ์แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ตนพิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสอบวินัย ผวจ.แม่ฮ่องสอน จึงขอสั่งยุติเรื่องดังกล่าวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เมื่อถามว่าจะส่งตัว ผวจ.กลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่ จ.แม่ฮ่องสอนอีกหรือไม่ นายกฤษฎา กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้ตนได้มอบหมายให้นายสืบศักดิ์มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย โดยดูแลเรื่องแผนงบประมาณจังหวัดประจำปี?60 และ 61 ซึ่งขณะนี้งานยังติดพันอยู่ คาดว่าประมาณ 2 สัปดาห์จะเสร็จ จากนั้นจะมีคำสั่งให้นายสืบศักดิ์กลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่ จ.แม่ฮ่องสอนตามเดิม เพราะตามกฎหมายแล้วนายสืบศักดิ์ยังคงมีตำแหน่งเป็น ผวจ.แม่ฮ่องสอนอยู่
เมื่อถามว่าได้แจ้งเรื่องดังกล่าวกับนายสืบศักดิ์แล้วหรือไม่ นายกฤษฎากล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ทางฝ่ายกฎหมายตรวจสอบเรื่องเอกสารอยู่ คาดว่าประมาณอีก 1-2 วันจะสามารถแจ้งเรื่องนี้เป็นลายลักษณ์อักษรได้ แต่ได้แจ้งไปทางวาจาแล้วเพื่อให้นายสืบศักดิ์เกิดความสบายใจ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ เพราะ ผวจ.ต้องทำงานมากมาย ดังนั้นระหว่างที่มีการสอบสวน ท่านต้องใช้ความอดทนอย่างมาก ขอให้ทุกฝ่ายเห็นใจท่านด้วย แต่คนเป็น ผวจ.ถึงอย่างไรก็ต้องอดทนและเข้มแข็ง
เมื่อถามถึงกรณี อบต.บ้านใหม่ จ.นนทบุรี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ นายกฤษฎากล่าวว่า ขณะนี้เป็นเรื่องของตำรวจ เพราะอยู่ในช่วงสอบสวน ทั้งนี้ ตามกฎหมาย อบต.บ้านใหม่ ไม่ใช่ข้าราชการพลเรือน จึงอยู่ภายใต้กฎหมายท้องถิ่นซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดกำกับโดยตรง หากมีการกระทำความผิด ผวจ.นนทบุรีเป็นผู้ดำเนินการ
เมื่อเวลา 14.10 น. นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ช่วยราชการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบเรื่องที่มีสมาชิก อบต.บ้านใหม่รับสารภาพว่าเป็นผู้ซื้อบริการหญิงที่ค้าประเวณี แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้สึกอะไร นานแล้ว เฉยๆ แล้ว ตอนนี้ก็สวดมนต์อยู่ที่วัดสุทัศน์ เป็นชาวพุทธก็มาสวดมนต์ อย่างไรก็ตาม คิดว่าถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว โล่งใจขึ้น ส่วนที่ผ่านมาถือว่าเป็นเคราะห์ใหญ่
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. นายสืบศักดิ์ แถลงภายหลังปลัดกระทรวงมหาดไทยออกมาระบุว่าไม่พบความผิดเรื่องการซื้อบริการเยาวชนใน จ.แม่ฮ่องสอนว่า ขอให้เป็นไปตามที่ปลัดกระทรวงชี้แจงว่าไม่มีมูล ส่วนความรู้สึกนั้นขณะนี้เรื่องจบแล้ว จบก็คือจบ เมื่อตนกลับแม่ฮ่องสอนแล้วทุกส่วนราชการจะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ที่ผ่านมาก็ดำเนินการมาตลอด แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ต้องเข้มงวดขึ้น ต้องทำให้ประเทศชาติดีขึ้น โดยข้าราชการทุกภาคส่วนห้ามเข้าไปเกี่ยวข้องโดยเด็ดขาด ปัญหานี้เกิดจากการมีรายได้น้อย รวมถึงปัญหาบุคคลไร้สัญชาติกว่า 4 หมื่นคน ฉะนั้นการแก้ปัญหาจะต้องทำให้คนมีรายได้ มีอาชีพ มีถิ่นที่อยู่ รวมถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน เพื่อแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ จึงขอเชิญชวนองค์กรเอกชนเข้าร่วมกับผวจ.เพื่อแก้ปัญหาใน จ.แม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ ตนจะไม่ฟ้องร้องใครเพราะเรื่องจบแล้วก็คือจบ และการปรองดองจะเกิดขึ้นได้ คนไทยต้องสามัคคีกัน อีกทั้งต้องยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็เพราะสื่อมีส่วนผิดด้วย
“ผมขอแถลงข่าวเพียงวันนี้เท่านั้น สื่อไม่ต้องโทร.หาผมอีก ผมจะไม่ออกทีวีทุกช่องเพราะออกมาเยอะแล้ว เรื่องจบแล้วก็คือจบ และจะขออนุญาตผู้บังคับบัญชาลาพักร้อน เพราะหลายวันนี้ต้องเตรียมข้อมูล ส่วนเรื่องระบบราชการที่ใครทำอะไรผิดก็ว่ากันไป และไปแก้ไขเอา ทุกคนมีสิทธิ์ผิดพลาดได้ แต่เมื่อผิดพลาดแล้วอยากให้กรณีผมเป็นกรณีตัวอย่างที่ต้องกลับไปดูตัวเองทุกหน่วย เมื่อผิดพลาดเราก็ต้องอภัยให้กัน เพราะเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ผมไม่ขอโทษใคร ถ้ามีใครทำอะไรผิดพลาดก็ไปแก้เอา ผมเองก็จะต้องรอคำสั่งกลับไปที่ จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อไปดูแลประชาชนและส่วนราชการต่อไป” นายสืบศักดิ์กล่าว
