ผัวเมีย เหยื่อจ่าคลั่ง เล่านาทีชีวิต ถูกสาดกระสุนใส่ ทะลุประตูรถหน้าห้างเทอร์มินอล 21 เชื่อบารมีเกจิดังปักษ์ใต้ช่วยรอด เข้าพบยุติธรรมจังหวัดสุราษฎร์ฯ ขอรับการเยียวยา

วันที่ 14 ก.พ. ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายทองปาน น้อยสุวรรณ์ อายุ 57 ปี และ นางวรรณา ทิพย์รักษา อายุ 56 ปี สองสามีภรรยาชาวจ.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางมายื่นเรื่องขอเยียวยาของยุติธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสำนักงานประกันสังคมจังหวัด พร้อมกับพาดูร่องรอยกระสุนปืนที่บริเวณประตูรถกระบะที่ยิงทะลุทั้งสองฝั่ง และบาดแผลที่โดนสะเก็ดกระสุนเข้าที่หัวเข่าขวาของนางวรรณา หลังได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์จ่าทหารคลั่งกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นางวรรณา กล่าวว่า ตนและสามีถูกจ้างวานจากคนรู้จักให้ขนของไปส่งที่จ.ยโสธร โดยใช้รถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีน้ำเงิน ทะเบียน บม6365 สุราษฎร์ธานี เมื่อถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 ซึ่งตอนแรกเห็นรถยนต์จอดอยู่บนเกาะกลางถนนตามที่ปรากฏในคลิปที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งดิฉันนึกว่าเป็นเหตุรถชนกัน ขณะนั้นตนดูโทรศัพท์มือถืออยู่ด้วยจึงไม่ได้สนใจอะไร

สองสามีภรรยา เหยื่อจ่าคลั่ง กราดยิงที่โคราช

สองสามีภรรยา เหยื่อจ่าคลั่ง กราดยิงที่โคราช

“จู่ ๆ ได้ยินเสียงดังขึ้น ดิฉันคิดว่าโทรศัพท์ของตัวเองระเบิด จึงรีบวางโทรศัพท์ พอสามีตัวเองหันไปดูที่ประตูก็เห็นว่าโดนยิง หลังจากนั้นมีเสียงดังขึ้นอีกหลายครั้ง จึงรีบบอกสามีให้รีบขับออกจากที่เกิดเหตุ ก่อนสามีบอกว่าเจ็บแขน และถามดิฉันว่าเป็นอะไรหรือไม่ ดิฉันตอบว่าไม่เป็นไร พอขับมาประมาณ 30 นาที ดิฉันบอกสามีว่าเจ็บขา จึงลองจับขาปรากฏว่าเลือดเต็มขา” นางวรรณา กล่าว

นางวรรณา กล่าวต่อว่า สามีจึงขับรถเข้าไปจอดบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในอ.พิมาย ก่อนจะลงไปซื้อยาแก้ปวดในร้านสะดวกซื้อ และพนักงานได้ช่วยโทรศัพท์แจ้งกู้ภัยเพื่อให้มารับตัวไปส่งโรงพยาบาลพิมาย ก่อนจะทำการรักษาอาการอยู่ 2 วัน และเดินทางกลับมาจ.สุราษฎร์ธานี กระทั่งวันนี้ได้เดินทางมาทำเรื่องเพื่อขอรับการเยียวยา

ผู้บาดเจ็บโชว์เหรียญ หลวงพ่อพัฒน์ นารโท อดีตเจ้าอาวาสวัดพัฒนาราม อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

ผู้บาดเจ็บโชว์เหรียญ หลวงพ่อพัฒน์ นารโท อดีตเจ้าอาวาสวัดพัฒนาราม อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

นางวรรณา กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวเชื่อว่าการรอดชีวิตในครั้งนี้ เพราะบารมีของ หลวงพ่อพัฒน์ นารโท อดีตเจ้าอาวาสวัดพัฒนาราม อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งเมืองปักษ์ใต้ และได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนชาวเมืองสุราษฎร์ธานี และภาคใต้มาอย่างยาวนาน ที่ห้อยคออยู่ตลอดเวลา ซึ่งก่อนออกเดินทางก็ได้บนบานศาลกล่าวไว้ ให้แคล้วคลาดปลอดภัย ทำให้เกิดการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยจากเหตุการณ์สะเทือนใจครั้งนี้

ทางด้าน น.ส.ยุพดี สุขแสง หัวหน้ากลุ่มอำนวยความยุติธรรมและนิติการ สำนักงานยุติธรรมสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า หลังจากรับเรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งขั้นตอนการขอรับค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา ผู้เสียหายสามารถยื่นเรื่องรับค่าตอบแทนได้ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดใกล้บ้าน กรณีดังกล่าวผู้เสียหายบ้านอยู่พื้นที่สุราษฎร์ธานี ส่วนสถานที่เกิดเหตุอยู่ที่โคราช อำนาจการพิจารณาจ่ายต้องเป็นคณะอนุกรรมการในจังหวัดที่เกิดเหตุ โดยทางยุติธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานีดำเนินการส่งเรื่องหลักฐานทั้งหมดให้ทางจังหวัดที่เกิดเหตุพิจารณา ว่าต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง เท่าไร โดยใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 21 วัน แต่สำหรับกรณีนี้อาจจะล่าช้าไปบ้างเนื่องจากการจัดส่งเอกสารข้ามจังหวัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน