“แอนนา รีส”ร่ำไห้โฮขอโทษ หลังเมาอาละวาด ขว้างปาสิ่งของภายในผับย่านห้วยขวาง ก่อนที่จะซิ่งรถหรู บีเอ็มฯ แซด 4 พุ่งชนรถลูกค้าในร้านเสียหาย จนตร.ต้องพามาควบคุมสติอารมณ์ที่สน. แต่สุดท้ายก็ไม่หายเมา ต้องจับเข้าไปสงบสติอารมณ์ภายในห้องควบคุมผู้ต้องหา ตรวจพบแอลกอฮอล์ในเลือดถึง 141 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตร.แจ้งข้อหาเมาขับ เจ้าตัวระบุเครียดเรื่องส่วนตัว ต้องดูแลน้องที่เป็นเด็กพิเศษ พร้อมยื่น 2 หมื่นประกันตัว ชั้นพนักงานสอบสวน เผยยังอยู่ระหว่างรอลงอาญา คดีชนตร.ตาย ด้านอดีตผจก.ระบุ เจ้าตัวออกจากวงการบันเทิงไปนานแล้ว เพราะไปมีสามีเป็นนักธุรกิจในภาคใต้ แม่บอกลูกไม่ดื่มเหล้านานแล้ว แต่เมื่อวานเปิดเทอมป.โท และมีเพื่อนโทร.มาตาม

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 22 พ.ค. ร.ต.ท.อลงกต ทับชม รอง สว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุมีผู้หญิงเมาสุราอาละวาดทำลายทรัพย์สิน ก่อนขับรถพุ่งชนรถคันอื่นเสียหาย เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถผับแห่งหนึ่ง ถนนวัฒนธรรม แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.ห้วยขวาง

ที่เกิดเหตุพบรถสปอร์ตหรู ยี่ห้อบีเอ็ม ดับเบิลยู แซด 4 สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กภ 4176 กทม. หน้ารถมีรอยเฉี่ยวชนบริเวณกันชน โดยมีน.ส.แอนนา แฮมบาวรีส หรือ “แอนนา รีส” อายุ 30 ปี อดีตดาราสาว อยู่ในอาการเมา ตะโกนโวยวาย พูดจาไม่รู้เรื่อง จึงเชิญตัวมาที่สน.ห้วยขวาง เพื่อสอบปากคำ

โดยพนักงานของผับที่เกิดเหตุ ให้การว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นลูกค้ามาใช้บริการประมาณ 3 ทุ่ม จนกระทั่งเที่ยงคืน ก็เกิดอาการเมาสุราอาละวาด ขว้างปาสิ่งของภายในร้าน ก่อนขึ้นรถคันดังกล่าว จะหลบหนีและชนท้ายรถมิตซูบิชิ สเปซวากอน ของลูกค้าเสียหาย ภายในลานจอดรถ

ร.ต.ท.อลงกตกล่าวว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่นำอดีตดาราสาวมาสอบสวน แต่ไม่สามารถสอบปากคำได้ เนื่องจากมีอาการเมาสุราไม่มีสติ พูดจาไม่รู้เรื่อง ควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงนำตัวเข้าห้องควบคุมขัง และจะสอบปากคำอีกครั้ง หลังจากน.ส.แอนนา มีสภาพอาการดีขึ้น เบื้องต้นแจ้งข้อหา เมาแล้วขับ ส่วนในกรณีทรัพย์สินที่เสียหายทั้งภายในร้านและลานจอดรถนั้น เบื้องต้นยังไม่มีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความ แต่กรณีดังกล่าวสามารถไกล่เกลี่ยค่าเสียหายกันได้ทันที โดยไม่ต้องแจ้งความ ทั้งนี้นำตัวน.ส.แอนนาส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือในช่วง 09.00 น. ของ วันที่ 22 พ.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก “แอนนา รีส” ถูกควบคุมตัว ก็มีอาการเมาหนัก ร้องโวยวาย พูดจาไม่รู้เรื่อง และเมื่อเห็นผู้สื่อข่าว ก็ออกมาพูดจาด่าโวยวายต่อหน้าเจ้าหน้าที่

สำหรับ “แอนนา รีส” เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีขับรถเบนซ์พุ่งชนรถเก๋งของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2558 เป็นเหตุให้ร.ต.ท.นภาดล วงษ์บัณฑิต รองสวป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ช่วยราชการจราจรกลาง กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เสียชีวิตคารถขณะจอดรถนอนพักผ่อนอยู่ริมถนนคู่ขนาดมอเตอร์เวย์ ก.ม.1 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. พื้นที่สน.ประเวศ โดยวันเกิดเหตุหลังขับรถชน แอนนา รีส เดินทางกลับที่พัก ก่อนมามอบตัวในเวลาต่อมา จนไม่ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์

ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เดินทางมาที่สน.ห้วยขวาง เพื่อตรวจสอบคดีดังกล่าวด้วยตนเอง พร้อมระบุว่า น.ส.แอนนา ยังอยู่ในอาการมึนเมา ไม่สามารถสอบปากคำได้ โดยการวัดปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 141 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากที่กฎหมายกำหนดไม่ให้เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยก่อเหตุขับรถยนต์ชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2558 ในพื้นที่สน.ประเวศ ซึ่งศาลตัดสินจำคุกไม่เกิน 1 ปี รอลงอาญา 2 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท โดนพักใบอนุญาตขับขี่

จากนั้นพล.ต.ท.ศานิตย์ ให้เจ้าหน้าที่นำตัว “แอนนา รีส” มาพูดคุย ทันที แอนนา ออกมาจากห้องควบคุมและเจอญาติก็ร่ำไห้ตลอดเวลา ก่อนเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตัวเองมีหลายเรื่องหลายปัญหาเข้ามา จึงทำให้รู้สึกแย่ ประกอบกับน้องของตนเป็นเด็กพิเศษ ตนจึงดูแลน้องจนน้องดีขึ้นแต่ทำให้ตนกลับเป็นคนแย่ลง ตนยอมรับว่าดื่มสุราจริง แต่ยืนยันว่าไม่ได้เสพยาเสพติด

เบื้องต้นทางญาติแอนนายื่นประกันตัววางหลักทรัพย์เป็นเงิน 20,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เนื่องจากได้ผัดฟ้องไปก่อน เพราะต้องรอพยานหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมประกอบสำนวนกับต้องรอผลการตรวจสารเสพติด ซึ่งได้นำตัวน.ส.แอนนาไปตรวจหาสารเสพติดที่ร.พ.ตำรวจ

ขณะที่อดีตผู้จัดการส่วนตัวของ แอนนา รีส เปิดเผยว่า ติดต่อกับแอนนาไม่ได้มาสักพักแล้ว เพราะมือถือของแอนนาหายบ่อย ไม่มีเบอร์โทรศัพท์กัน เรื่องที่เกิดขึ้นได้โทรศัพท์คุยกับแม่ของน้อง ก็บอกว่าติดต่อไม่ได้เหมือนกัน เพราะแอนนาไม่ได้เอามือถือไป แต่ก่อนหน้านี้แอนนาไม่ได้ดื่มเหล้า หรือไปเที่ยวนานแล้ว ตั้งแต่เกิดคดีครั้งก่อน จนเมื่อวานเปิดเทอมวันแรกหลังจากเรียนปริญญาโท ช่วง 20.00 น. ก็มีเพื่อนโทรศัพท์มาชวนไปข้างนอก ก็ออกจากบ้านไป แม่ของน้องมารู้เมื่อช่วงเช้า ก็ให้ทนายความไปจัดการแล้ว

อดีตผู้จัดการส่วนตัวเผยอีกว่า แอนนาออกจากวงการบันเทิงไปนานแล้ว หลังจากที่มีครอบครัว เพราะสามีเขาไม่ให้ทำงานในวงการ แต่ขอให้ไปเรียนปริญญาตรีให้จบ เมื่อจบแล้วก็ให้เรียนต่อปริญญาโท เพื่อจะออกมาช่วยธุรกิจทางบ้านของครอบครัวสามี ซึ่งที่ผ่านมาก็ช่วยงานด้านธุรกิจมาตลอด ทั้งที่กทม. และภาคใต้ เพราะสามีเขาทำธุรกิจที่ภาคใต้

ทั้งนี้แอนนาผูกข้อมือกับสามีตั้งแต่อายุ 27 ปี แต่ก็ไม่ได้จัดงานแต่งงานใหญ่โต เพราะสามีเขาอายุมากกว่าเยอะ แต่ที่ผ่านมาก็อยู่กับสามีตามปกติ ไม่ได้มีปัญหากัน

ด้านครอบครัวของร.ต.ท.นภาดล ที่ถูกแอนนาขับรถชนเสียชีวิตเมื่อปี 2558 โดยนางฉันทนา วงษ์บัณฑิต ภรรยา ร.ต.ท.นภาดลเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมาจะ 2 ปีแล้ว แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ จากเดิมสามีเป็นเสาหลักครอบครัว เมื่อมาเสียไปก็ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อเลี้ยงดูลูกสาวทั้ง 2 คน ที่ผ่านมาแอนนาก็ติดต่อครอบครัวตลอด รับผิดชอบด้านคดีด้วยดี แต่หลังจากเกิดเหตุนี้ ก็ไม่อยากให้แอนนาดื่มสุรา และเกิดเรื่องราวแบบนี้อีก ตอนที่ชนสามีตน ก็ไม่รู้ว่าดื่มสุราหรือไม่ ซึ่งก็ผ่านมาแล้ว แต่อยากเตือนว่าหากรู้ว่าตัวเองเมาก็อย่าขับรถ เพราะจะเป็นอันตรายกับคนอื่น

น.ส.จิรา ตรัสพันธุ์ น้องสาว ร.ต.ท.นภาดลกล่าวว่า ตอนที่พี่ชายถูกชนตาย ตนไม่ทราบว่าแอนนาเมาหรือไม่ แต่ก็ไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องเก่า ที่ผ่านมาครอบครัวก็ยังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ที่สูญเสียพี่ชายไป ทางด้านแอนนา รีส ก็มีการติดต่อกับครอบครัวตนมาโดยตลอด และก็มีการบวชชีพราหมณ์ให้ ก็จะส่งรูปมาให้ดูตลอด บอกว่าเสียใจมาก สำนึกผิดกับสิ่งเกิดขึ้น ทุกวันนี้ครอบครัวเราสูญเสียคนที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ จึงไม่อยากให้แอนนา รีส มีพฤติกรรมแบบนี้อีก ครั้งนี้โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร ก็อยากให้เรื่องราวพี่ชายตนเป็นอุทาหรณ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน