บึ้มเขย่ากรุงวันครบ 3 ปี คสช.รัฐประหาร วางระเบิดถล่มร.พ.พระมงกุฎฯ ตูมสนั่นกลางวันแสกๆ บาดเจ็บระนาว 25 ราย หนีตายโกลาหล แฉเป็น “ไปป์บอมบ์” ทำด้วยท่อพีวีซี แรงดันต่ำ ผสมตะปู เศษเหล็กเป็นสะเก็ด ซุกในแจกันดอกไม้ วางก่อเหตุที่ห้อง “วงษ์สุวรรณ” จุดรอรับยาภายในร.พ. “บิ๊กเจี๊ยบ” ผบ.ทบ.เรียกถกด่วน ลั่นเลวร้ายที่สุด มุ่งหวังเอาชีวิต โยงคดีบึ้มกองสลากเก่า หน้าโรงละคร คาดต้องการดิสเครดิตรัฐบาล-คสช. กับปมขัดแย้งกันเองภายใน “บิ๊กแป๊ะ”ผบ.ตร.ชี้ระเบิดทั้ง 3 จุด เป็นการประกอบของคนคนเดียวกัน สั่งไล่กล้องวงจรปิดหาเบาะแสมือบึ้ม แต่กล้องบางตัวใช้การไม่ได้

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 พ.ค เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณชั้น 1 อาคารเฉลิมพระ เกียรติ 80 ปี ร.พ.พระมงกุฎเกล้า ถนนราชวิถี แขวงอนุสาวรีย์ เขตพญาไท กทม. โดยจุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณห้องรับรองข้าราชการบำนาญ ห้องตรวจโรคนายทหารชั้นยศนายพล ช่องจ่ายยา ช่องการเงิน พบเศษกระจกหลายบานแตกกระจายเกลื่อน เนื่องจากแรงอัดของระเบิด ทำให้ผู้นั่งรอใช้บริการถูกเศษกระจกได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสิ้นเสียงระเบิด เต็มไปด้วยความวุ่นวายโกลาหล เจ้าหน้าที่ทหารเวรและแพทย์ที่ประจำอยู่บริเวณทางเข้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ ช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากจุดเกิดเหตุ พร้อมปิดกั้นพื้นที่และบริเวณโดยรอบชั้น 1 ไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามาอย่างเด็ดขาด โดยเจ้าหน้าที่ระบุเพียงสั้นๆ ในเบื้องต้นว่า เหตุระเบิดน่าจะมาจากช่องแอร์ที่ใช้งานมานาน ไม่ได้รับการดูแล ปรับปรุง ประกอบกับมีท่อแก๊ส และท่อสายไฟจำนวนมาก อีกทั้งสภาพอากาศร้อนอบอ้าว อาจทำให้เกิดแรงเสียดทานจึงระเบิดขึ้น และขณะนี้ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว

ต่อมา พล.ท.สาโรช เขียวขจี เจ้ากรมแพทย์ทหารบก พร้อมด้วย พล.ต.ชาญณรงค์ นาคสวัสดิ์ ผอ.ร.พ.พระมงกุฎเกล้า นำกำลัง เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารบก สรรพาวุธทหาร และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด โดยบริเวณที่เกิดเหตุเป็นห้องรับรองนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุราชการ โดยแบ่งเป็นชื่อ ห้องติณสูลานนท์ ห้องยงใจยุทธ ห้องวงษ์สุวรรณ และตัววัตถุระเบิดอยู่บริเวณหน้าห้องวงษ์สุวรรณ

สำหรับผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 25 ราย ประกอบด้วย 1.พ.ท.สมหมาย บุญปกครอง บาดเจ็บที่นิ้วก้อย ต้นขา และแก้วหูทะลุ 2.พ.ต.สนิท เพ็งเจริญ บาดเจ็บเป็นแผลถลอกที่คอ 3.น.ท.หญิง นงเยาว์ ก้อนเพ็ชร บาดเจ็บเท้าซ้าย 4.นางสุภาภรณ์ ชุ่มชูศาสตร์ บาดเจ็บที่แขน 5.จ.ส.อ.ทวีลาภ รัชณณ บาดเจ็บที่คอด้านขวา 6.พ.ท.ชูเกียรติ ศรีสูงเนิน บาดเจ็บที่ศีรษะและเท้า 7.พ.ท.กฤษฎา อินทรเดช บาดเจ็บที่ไหล่ขวาและคอ 8.นางวิลัย เล้าประเสริฐ บาดเจ็บเล็กน้อย 9.ร.ต.เครือ สังข์เอม บาดเจ็บศีรษะ 10.นางบุษกร ศรีประเสริฐ มีแผลถลอกที่แขน 11.นางสุอัมไพ ศรีสูงเนิน บาดเจ็บ เล็กน้อย 12.นางสมพิศ ชัยชิตาทร บาดเจ็บเล็กน้อย

13.ร.อ.ดุสิต วินิจเขตคำณวน บาดเจ็บที่ ใบหู 14.พ.อ.อัมพร ปาละศักดิ์ บาดเจ็บเล็กน้อย 15.ร.ต.หญิง อาบจิต พูลทรัพย์ บาดเจ็บเล็กน้อย 16.ร.ต.จำรัส ภู่นิเทศ บาดเจ็บเล็กน้อย 17.น.ส.นิธิวดี วัฒนเศรษฐ บาดเจ็บเล็กน้อย 18.นางสมถวิล วรโพธิ์ บาดเจ็บเล็กน้อย 19.นายกฤต พฤกษะวัน บาดเจ็บเล็กน้อย 20.น.ท.สำเริง แตงรอด บาดเจ็บที่ศีรษะและเท้า 21.นางรำพึง แตงรอด บาดเจ็บที่หน้าแข้ง 22.ร.ต.ต.สุวรรณ บรรลือสุข บาดเจ็บที่นิ้วก้อย มือ และต้นขา 23.นางสมนึก ตุ้นสกุล บาดเจ็บเล็กน้อย 24.นายประยุทธ โชติประชุมถิ่น บาดเจ็บที่ขา และ 25.พ.อ.หญิง พูนศรี ไม่ทราบนามสกุล บาดเจ็บที่ขา

พล.ท.สาโรชกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเหตุระเบิดที่มีอำนาจการทำลายไม่รุนแรง มีผู้บาดเจ็บ 25 ราย ในจำนวนนี้ 13 ราย กลับบ้านแล้ว อีก 8 ราย ยังพักรักษาตัวที่ร.พ. อีก 3 รายบาดเจ็บเล็กน้อย และอีกรายอาการหนัก เป็นผู้หญิงสูงอายุ อยู่ห้องผ่าตัด เพราะมีเศษวัตถุระเบิดเข้าบริเวณกราม แต่ถามตอบยังรู้เรื่องอยู่ สำหรับจุดที่เกิดเหตุเป็นห้องจ่ายยา รอรับยาของอดีตข้าราชการทหาร

จากนั้นเวลา 11.55 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ส. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น., พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ.191 พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่าภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุนานกว่า 2 ชั่วโมงว่า เป็นระเบิด เนื่องจากพบแผงวงจร สายไฟฟ้า ถ่าน และเศษตะปู คนร้ายน่าจะนำระเบิดใส่ภาชนะมาวางไว้ แต่เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดยังไม่สามารถระบุว่าเป็นระเบิดชนิดใด มีรัศมีการทำลายล้าง 2-3 เมตร ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เดิม และโรงละครแห่งชาติหรือไม่ ขณะนี้ตรวจสอบเพียงแค่ทางกายภาพเท่านั้น ต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียดโดยใช้เครื่องสแกนเสียก่อน

รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่าสั่งการให้นายทหารเวรพิมพ์ลายนิ้วมือผู้บาดเจ็บทั้งหมด เพื่อนำมาตรวจสอบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ในชั้นนี้ยังไม่สามาระบุได้เป็นการก่อกวน หรือจงใจประสงค์ต่อชีวิต ต้องประณามผู้ลงมือ ขนาดพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่วางระเบิดในโรงพยาบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นอกจากเจ้าหน้าที่กั้นพื้นที่แล้ว ยังนำสุนัขทหารมาตรวจสอบภายในอาคารเฉลิมพระเกียรติ ว่ายังมีวัตถุระเบิด หรือสิ่งแปลกปลอมหลงเหลืออีกหรือไม่ และนำเอาแผนผังของอาคาร เพื่อดูจุดของกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งตามจุดต่างๆ บริเวณห้องที่เกิดเหตุ เพื่อไล่หาภาพผู้ต้องสงสัย

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบหลุม และสารโปรแตสเซียมคลอเรต เป็นหนึ่งในสารประกอบของการทำวัตถุระเบิด อีกทั้งยังพบไอซีไทเมอร์ สายไฟฟ้า มีลักษณะเดียวกันกับเหตุที่โรงละครแห่งชาติ โดยจุดเกิดเหตุอยู่ภายในห้องวงษ์สุวรรณ จุดแยกย่อยจากห้องติณสูลานนท์ จุดที่ผู้ป่วยนั่งรอรับการรักษา ตรวจพบเศษตะปูกระจัด กระจายเต็มพื้นที่ โดยขณะเกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นนายทหารเกษียณอายุราชการหลายคน ขณะรอยาและรอพบแพทย์ ถูกลำเลียงออกจากจุดเกิดเหตุ ไปที่อาคารหลังอื่นในร.พ. พระมงกุฎเกล้า

ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด หลังเกิดเหตุระเบิดร.พ. พระมงกุฎเกล้า เพิ่มความถี่เดินตรวจตราบริเวณโดยรอบทำเนียบ จากเดิมที่เดินทุก 4 ชั่วโมง ปรับเป็นให้ถี่มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะให้ความสำคัญในการเดินตรวจในบริเวณตลาดคลองผดุงกรุงเกษมให้มากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากถือว่าเป็นจุดอ่อนไหว ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่ง ชาติ (คสช.) หลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ ครั้งที่ 6/2560 เสร็จ ได้ปฏิบัติภารกิจที่ห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า

ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. แถลงภายหลังประชุมหน่วยความมั่นคงถึง เหตุระเบิดร.พ.พระมงกุฎเกล้า ว่าเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด เพราะผู้บาดเจ็บเป็นผู้สูงอายุ ระเบิดครั้งนี้หวังผลถึงชีวิต เนื่องจากใส่ตะปูจำนวนมาก ทั้ง 3 คดี คือระเบิดหน้ากองสลากเก่า ระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ และระเบิดครั้งนี้ ตำรวจต้องจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ และเป็นระเบิดไปป์บอมบ์ เพราะมีลักษณะเหมือนกัน ยังไม่ชัดเจนว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มใด แต่ 1 ใน 3 คดี หากได้ผู้ต้องสงสัย ทุกอย่างจะสืบสาวไปได้ คาดว่า 3 คดีที่เกิดขึ้นเป็นกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากส่วนประกอบระเบิดชนิดเดียวกันทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่าระเบิดทั้ง 3 ครั้งเป็นการ ดิสเครดิตรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่าตราบใดที่ยังไม่มีผู้ต้องสงสัย คงวิเคราะห์กันไปกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ แต่ไม่ควรฟันธงเป็นใคร คิดว่าเป็นการปั่นป่วนการบริหารงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับครบรอบ 3 ปี คสช.หรือไม่ คิดว่าไม่จำเป็น คนไม่ชอบคสช. จะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว จะกี่เดือนกี่วัน ถ้ามีจังหวะ และโอกาสเขาก็ทำ

ผบ.ทบ.กล่าวว่าการก่อเหตุครั้งนี้เป็นลักษณะอำพรางแบบไปเยี่ยมคนไข้ และมีอุปกรณ์เข้าไป จึงยากต่อการป้องกัน เพราะคิดว่าเป็นโรงพยาบาล จึงไม่มีการตรวจ หรือสแกน ต่อไปต้องวางมาตรการป้องกัน และขอความร่วมมือประชาชนเป็นหูเป็นตาช่วยเจ้าหน้าที่ ครั้งนี้นอกจากรุนแรงแล้ว ยังเกิดในโรงพยาบาล โดยปกติไม่มีใครทำแบบนี้ เป็นสิ่งเลวร้าย แม้แต่ช่วงสงคราม ระหว่างการรบ ยังไม่มีใครทิ้งระเบิดลงไปในโรงพยาบาล แต่นี่เอาระเบิดไปวางในโรงพยาบาล มีผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นคนแก่ เป็นเรื่องที่สังคมต้องประณาม

พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวต่อว่าจากการพูดคุยเบื้องต้นมั่นใจว่าตำรวจดำเนินการได้ คิดว่ามีแนวทางสาวไปถึงตัวผู้ก่อเหตุได้ เมื่อได้มาหนึ่ง ทุกอย่างจะคลี่คลาย ต้องให้เวลาตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอน ถ้าบางเรื่องเร่งร้อนไปจะทำให้คลาดเคลื่อน และขณะนี้มีงานสำคัญจำนวนมาก ต้องเน้นดูแลความปลอดภัยประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่กทม. และเขตพระราชฐาน มีกำลังพลทั้งในและนอกเครื่องแบบเข้าไปทำการข่าว หรือลาดตระเวนในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ล่อแหลมมากยิ่งขึ้น

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตั้งประเด็นไว้ 2 เรื่อง คือการสร้างสถานการณ์ดิสเครดิตรัฐบาล และครบรอบ 3 ปี คสช. และปมขัดแย้งภายในโรงพยาบาล ยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้ง จนกว่าจะมีหลักฐานชี้ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่

ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ส. และ พล.ต.ต.ธวัธชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.พฐก. ประชุมคดีระเบิด ร.พ.พระมงกุฎเกล้า โดยรายงานว่าเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บพยานวัตถุในที่เกิดเหตุเสร็จสิ้นแล้ว เบื้องต้นเป็นระเบิดไปป์บอมบ์ แรงดันต่ำ ใช้ตะปูเข็มและเศษเหล็กเป็นส่วนประกอบระเบิด นำไปซุกซ่อนในแจกันดอกไม้

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวภายหลังการประชุมว่า การก่อเหตุระเบิดหน้ากองสลากเก่า โรงละครแห่งชาติ และร.พ.พระมงกุฎเกล้า เป็นการกระทำของกลุ่มเดียวกัน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับวันครบรอบ 3 ปี รัฐประหารหรือไม่ ไม่ทราบ แนวทางการสืบสวนยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ให้น้ำหนักทั้งเรื่องการเมือง และกลุ่มก่อความไม่สงบในภาคใต้ที่ยังพยายามมาก่อเหตุ โดยตำรวจมีฐานข้อมูลการประกอบเฉพาะบุคคล ที่จะต้องตรวจสอบหาความเชื่อมโยงการประกอบระเบิด ในทางการข่าวพบว่ามีการแจ้งเตือน แต่เนื่อง จากกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่กว้าง จึงไม่ทราบจุด ก่อเหตุที่ชัดเจน

ผบ.ตร.กล่าวว่า เหตุระเบิด 2 ครั้งแรก คนร้ายไม่ได้มุ่งหวังเอาชีวิต แต่ครั้งนี้ใช้สะเก็ดระเบิดจำนวนมาก หากโดนเต็มๆ เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ จากหลักฐานที่พบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง แบบไปป์บอมบ์ ทำระเบิดด้วยท่อพีวีซี แล้วใส่ไปในแจกันอีกที ก่อนวางระเบิด กำลังตรวจสอบสารระเบิดที่ใช้ว่ามีปริมาณอานุภาพทำลายล้างมากน้อยเพียงใด แต่จากลักษณะเฉพาะการทำระเบิด ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นฝีมือของคนเดียวทำ ทั้งการตัด การต่อ และการเชื่อมต่างๆ ทั้ง 3 จุดน่าจะเป็นการประกอบระเบิดโดยคนคนเดียวกัน กำลังตรวจสอบว่าการประกอบในลักษณะนี้เคยนำไปก่อเหตุที่ไหนบ้าง

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวเพื่อหาเบาะแสคนร้าย แต่กล้องบางตัวใช้การไม่ได้ และยังเร็วไปที่จะขออนุมัติหมายจับ แต่ทำขนาดนี้ถึง 3 ครั้งแล้วต้องจับให้ได้ และเชื่อว่าคงหนีไปแล้ว ขณะเดียวกัน ในส่วนของร.พ.ตำรวจก็ต้องวางกำลังดูแลรักษาความปลอดภัย เพิ่มความเข้มงวด และวางมาตรการเข้าออกโรงพยาบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่าจุดเกิดเหตุอยู่ที่ห้องวงษ์สุวรรณ เหมือนเป็นการส่งสัญญาณหรือสัญลักษณ์อะไรหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า จับคนร้ายได้แล้ว จะถามให้ว่าทำไม แต่ห้องนั้นใครเข้าออกก็ได้ ไม่ต้องเป็นวีไอพีก็ได้ เป็นบริเวณห้องรับยา ประชาชนภายนอกเข้าออกได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน