ศักดิ์สยาม แจงทริปเกาหลี ไปเครื่องส่วนตัว ป้องกันตัวอย่างดี สั่งคณะดูแลตัวเองแล้ว

จากกรณีกระทรวงสาธารณสุข แนะนำผู้เดินทางไปในกลุ่มประเทศเสี่ยง คือ เกาหลี ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน อิตาลี อิหร่าน ในช่วงนี้ ว่าควรเฝ้าระวังตนเอง และแยกตนเองจากคนอื่น เพื่อเฝ้าดูอาการอย่างน้อย 14 วัน เนื่องจากระยะเวลาฟักเชื้อของไวรัส โควิด-19 จะอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนวงกว้าง ทำให้หน่วยงานรัฐและเอกชน ประกาศแนวทางเฝ้าระวัง อาทิ ห้ามเดินทางในประเทศกลุ่มเสี่ยง และมาตรการกักตัว 14 วันหลังกลับมาจากประเทศดังกล่าว

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยกรณีมีกระแสข่าวว่า เพิ่งเดินทางกลับจากเกาหลีซึ่งเป็นประเทศที่รัฐบาลไทยประกาศเป็นกลุ่มเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิด-19 ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และไม่ได้เฝ้าระวังอาการด้วยการกักตัว 14 วัน ตามระยะเวลาการฟักตัวของโรค ว่า การเดินทางไปราชการครั้งนี้ ตนไปโดยเครื่องบินส่วนตัว ลงจอดที่สนามบินเอกชนในกรุงโซล ห่างจากเมืองแทกูที่มีปัญหาการระบาดของโรคราว 300 กิโลเมตร จึงมีความเสี่ยงต่ำกว่าการเดินทางโดยเที่ยวบินพาณิชย์และลงจอดสนามบินสาธารณะที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกจำนวนมาก

รวมทั้งเมื่อไปถึงเกาหลี ตนและคณะดูแลตัวเองด้วยการใส่หน้ากากอนามัย และไปปฏิบัติราชการเพียงอย่างเดียวในที่ที่จัดไว้เฉพาะ ไม่ได้ไปยังสถานที่สาธารณะอื่นๆ เลย ขาเดินทางกลับไทยยังได้โดยสารกลับโดยเครื่องบินส่วนตัว เมื่อมาถึงเมืองไทยได้ผ่านขั้นตอนตรวจวัดไข้ด้วยเครื่องเทอโมสแกนของสนามบินเอกชนที่ให้บริการเครื่องบินส่วนตัว และไม่พบว่ามีไข้

แต่เพื่อความปลอดภัย ตนเดินทางไปพบแพทย์ทันที เพื่อให้ตรวจคัดกรองไวรัสโควิด-19 โดยแพทย์ได้ทำการเพาะเชื้อเป็นเวลา 3 ชั่วโมง และแจ้งผลว่า ไม่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยระหว่างนี้ยังใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตามมาตรฐานการควบคุมโรคด้วย

ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ไปกับคณะของตนเดินทางกลับมาโดยเที่ยวบินพาณิชย์นั้น เบื้องต้นได้ขอให้ทั้ง 2 ท่านดูแลตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย และให้เดินทางไปตรวจคัดกรองไวรัสโควิด-19 ที่สถาบันบำราศนราดูรแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่าง 21-22 ก.พ.ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงคมนาคมนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.), นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.), นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.), ผู้แทนกรมทางหลวงชนบท, ผู้แทนสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และผู้แทนกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม

เดินทางไปทดสอบการรับแรงกระแทกของคอนกรีตแบริเออร์หุ้มยางพารา (Rubber Fender Barrier : RFB) และการบริหารจราจรบนท้องถนน รวมถึงร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือด้านการขนส่งทางถนนระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่งแห่งสาธารณรัฐเกาหลี

โดยในวันเดินทางกลับไทย ปรากฏว่า นายสราวุธ อธิบดีกรมทางหลวงและเจ้าหน้าที่อีก 1 คน ได้แยกตัวเดินทางกลับโดยเครื่องบินพาณิชย์ สายการบินโคเรียนแอร์ เที่ยวบิน KE653 โดยผ่านที่สนามบินอิชอน ซึ่งเป็นสนามบินสาธารณะที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก โดยทราบว่าทั้ง 2 คนได้เฝ้าระวังสุขภาพ ด้วยการใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ

โดยนายสราวุธ ได้ยกเลิกการประชุมและการนัดหมายต่างๆ ทั้งหมด เพื่อสร้างความสบายใจให้กับผู้ใกล้ชิด และลดโอกาสการแพร่เชื้อ ล่าสุดทั้ง2 คนยังไม่พบอาการไข้ ขณะที่กรมควบคุมโรคแนะนำให้ทั้ง 2 คน ไปตรวจคัดกรองไวรัสโควิด-19 เมื่อครบกำหนด 14 วันหลังกลับจากเกาหลี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน