สลดลูกจ้างโยธาเขตลาดพร้าวหัวใจวายดับคาเครื่องสูบน้ำ ขณะเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังจากพิษพายุถล่มเมืองกรุงทั้งคืน “อัศวิน” แสดงความเสียใจยันจะดูแลครอบครัวข้างหลังให้ดีที่สุด พร้อมขอโทษชาวบ้านที่สัญจรไม่สะดวก แจงฟ้ารั่วหนักจนเกินกำลังของกทม. สำนักการระบายน้ำสรุป 26 ถนนกรุงจมบาดาล เผยฝนเทกระหน่ำทุบสถิติเฉลี่ยในรอบ 26 ปี “บิ๊กตู่” เกาะติดสถานการณ์อุทกภัยที่ทำเนียบ โฆษกกลาโหมเผย”บิ๊กป้อม”สั่งทุกเหล่าทัพเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชน
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 25 พ.ค. นาย วันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน ฉบับที่ 9 ความว่า ในช่วงวันที่ 25-28 พ.ค. ประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ดังนี้
วันที่ 26-28 พ.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี, ภาคเหนือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และตาก, ภาคกลาง บริเวณจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล, ภาคตะวันออกและภาคใต้ จะมีฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ในจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ส่งผลกระทบต่อการจราจรและบางโรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอน โดยในช่วงเช้าพล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.สส. เข้าหารือกับนายกฯ คาดว่าเป็นเรื่องสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ที่ทหารต้องเข้าไปสนับสนุนช่วยเหลือดูแลประชาชน โดยในวันที่ 29 พ.ค. นายกฯ พร้อมคณะ จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของกรุงเทพฯ ที่สถานีสูบน้ำพระโขนงและพื้นที่ซอยลาซาล-แบริ่ง
ที่กระทรวงกลาโหม (กห.) พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ให้ทุกเหล่าทัพติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติจากพายุฤดูฝนที่เกิดขึ้นในทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง และดินถล่ม โดยให้ประสานและสนับสนุนส่วนราชการในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยามากขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย กรมชลประทานใช้เขื่อนเจ้าพระยาในการบริหารจัดการน้ำ ด้วยการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกตามศักยภาพที่รับได้ โดยไม่ส่งผล กระทบต่อพื้นที่การเกษตร พร้อมกับควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ประมาณ 700 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อรองรับสถานการณ์ฝนที่จะตกหนักลงมาในระยะนี้
ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ไปจนถึงบริเวณ ต.บางหลวงโดด อ.บางบาล และต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา จะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำที่อยู่นอกคันกั้นน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาแต่อย่างใด แต่เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือจึงทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังผวจ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี ขอความร่วมมือให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งให้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร กรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบต่อไป
สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เกิดฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 24 พ.ค. ถึงเช้ามืดวันที่ 25 พ.ค. ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังผิวจราจรหลายจุด ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม. รายงานสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาว่า วัดปริมาณฝนสะสมสูงสุดที่บริเวณสถานีสูบน้ำคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง 169 ม.ม. สถานีวัดระดับน้ำ-น้ำฝน คลองแสนแสบ ตอนสำนักงานเขตบางกะปิ เขตบางกะปิ 159 ม.ม. ประตูระบายน้ำคลองประเวศบุรีรมย์ ตอนวัดกระทุ่มเสือปลา เขตประเวศ 152 ม.ม. ถนนเทศบาลสงเคราะห์ เขตจตุจักร 139 ม.ม. และสถานีวัดระดับน้ำ-น้ำฝน คลองประเวศบุรีรมย์ ตอนวัดขจรศิริ เขตสวนหลวง 135 ม.ม.
ส่งผลให้มีน้ำท่วมขัง 26 จุด เช่น ถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณโลตัส เขตหลักสี่, ถนนงามวงศ์วาน บริเวณหน้าตลาดพงษ์เพชร เขตหลักสี่, ถนนพหลโยธิน บริเวณแยกหมอชิตเก่า-แยกกำแพงเพชร เขตจตุจักร, ถนนรัชดาภิเษก บริเวณแยกรัชโยธิน-แยกลาดพร้าว เขตจตุจักร, ถนนศรีนครินทร์ บริเวณแยกลำสาลี-คลองกะจะ เขตบางกะปิ, ถนนพัฒนาการบริเวณแยกคลองตัน-คลองลาว เขตสวนหลวง, ถนนสุขุมวิท บริเวณสถานีรถไฟฟ้าแบริ่งขาเข้าและขาออก เขตบางนา เป็นต้น
ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมยังรายงานปริมาณฝนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-24 พ.ค.ที่ผ่านมา รวม 402.5 ม.ม. มากกว่าค่าเฉลี่ย 26 ปี ที่ 376.4 ม.ม. คิดเป็นร้อยละ 6.9 ขณะที่ฝนประจําเดือนพ.ค. มีปริมาณ 286 ม.ม. มากกว่าค่าเฉลี่ยฝน 26 ปี ที่ 163.0 ม.ม. คิดเป็นร้อยละ 75.5 โดยระดับน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ภายในคันป้องกันน้ำท่วม (ม.รทก.) หลายแห่งอยู่ในระดับวิกฤต เช่น จุดวัด คลองแสนแสบ (บางกะปิ) อยู่ที่ +0.79 ม.รทก. จากระดับวิกฤตที่ +0.45 คลองลาดพร้าว 56 อยู่ที่ +0.76 จากระดับวิกฤตที่ +0.40 คลองเปรมประชากร (ส.คลองตาอูฐ) อยู่ที่ +1.20 จากระดับวิกฤตที่ +0.70
วันเดียวกัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำเร่งระบาย บริเวณ ถ.งามวงศ์วาน ตลาดพงษ์เพชร และซอยชินเขต เขตหลักสี่, ซอยอินทราภรณ์ เขตวังทองหลาง และแยกรัชดาภิเษก-ลาดพร้าว เขตจตุจักร
นายณรงค์ เรืองศรี รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า สำนักการระบายน้ำเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำเร่งระบายในพื้นที่มาโดยตลอด เช่น การขุดลอกท่อระบายน้ำ การจัดเก็บวัชพืชผักตบชวาในคูคลองต่างๆ เปิดทางน้ำไหล เพื่อให้มีความพร้อมในการรองรับปริมาณน้ำฝน แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกในปริมาณ 169 ม.ม. ทำให้เกิดปัญหา แต่เร่งระบายจนเข้าสู่ภาวะปกติได้ตามเวลาที่กำหนดไว้
วันเดียวกันเกิดเหตุสลดขึ้น เมื่อนายณรงค์ บำรุงศิลป์ อายุ 57 ปี เจ้าหน้าที่ประจำฝ่ายโยธา เขตลาดพร้าว เกิดหัวใจวายขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลประจำเครื่องสูบน้ำหน้าหมู่บ้านลาดพร้าววิลเลจ ภายในซ.นาคนิวาส 40 แขวงและเขตลาดพร้าว ล้มลงพื้นถนนที่มีน้ำท่วมสูง ชาวบ้านแจ้งรถพยาบาลเข้าให้การช่วยเหลือโดยการปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในที่สุด
ต่อมาพล.ต.อ.อัศวินโพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก “ผู้ว่าฯอัศวิน” แสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายณรงค์ พร้อมยืนยันกทม.จะดูแลครอบครัวของผู้ตายเป็นอย่างดี พร้อมขออภัยประชาชนในความไม่สะดวกสำหรับการเดินทางสัญจรในเช้าวันนี้ เนื่องจากปริมาณฝนในหลายพื้นที่มากเกินกำลังของ กทม.ในการระบายน้ำถึงเกือบ 2 เท่าตัว และฝากเตือนว่าวันสองวันนี้จะมีฝนตกหนักอีก ซึ่งกรมอุตุฯ คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำฝนจะไม่น้อยไปกว่าค่ำคืนที่ผ่านมาจึงขอให้ยกของขึ้นที่สูง เตรียมรับมือไว้ก่อน
ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ บริเวณถนนศรีนครินทร์ ตั้งแต่จุดกลับรถปลาทอง พื้นที่ ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ ถึงปากซอยแบริ่ง มีน้ำท่วมขัง 10-20 ซ.ม. ส่วนภายในซอยแบริ่งมีน้ำท่วมขังผิวถนน ตั้งแต่หน้าโรงเรียนเซนต์โยเซฟบางนา จนถึงบริเวณแยกแบริ่งตัดลาซาล รวมถึงตามซอกซอย สูงประมาณ 15-20 ซ.ม. ขณะที่แยกปู่เจ้าสมิงพราย มีน้ำท่วมสูงประมาณ 20 ซ.ม. ส่งผลให้เกิดปัญหาจราจรบนถนนศรีนครินทร์ทั้งสองฝั่ง และบนด่วนกาญจนาภิเษกติดขัดยาวหลายกิโลเมตร
ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายอำนาจ วิชยานุวัติ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในฐานะโฆษก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า ตามที่มีฝนหนักต่อเนื่องในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาส่งผลให้เช้านี้ หลายเส้นทางในพื้นที่กรุงเทพฯ มีน้ำท่วมขัง กระทบต่อการเดินทางมาเรียนของนักเรียน ทำให้สถานศึกษาหลายแห่งแจ้งประกาศปิดการเรียนการสอนชั่วคราว เป็นเวลา 1 วัน เช่น ร.ร.พระยาประเสริฐสุนทราศรัย (กระจ่าง สิงหเสนี) ร.ร.พิบูลอุปถัมภ์ ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ร.ร.อมาตยกุล ร.ร.สตรีวิทยา 2 ร.ร.ราชวินิตบางเขน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กรณีเกิดสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อนักเรียน นักศึกษา เป็นดุลพินิจของผู้อำนวยการสถานศึกษาในการสั่งปิดการเรียนการสอนได้ไม่เกิน 7 วันโดยไม่ต้องแจ้งให้สพฐ.ทราบ
