ทอมน้ำฝนรับพา “น้องแอ๋ม” สาวโอเกะไปกดเงินจริง แต่ไม่มี ส่วนเกี่ยวข้องกับการตาย ตร. พบเบาะแส “น้องแอ๋ม” ขึ้นรถยนต์ซีอาร์-วี ก่อนหายตัวไป เชื่อคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 5 คน คาดเป็นคนในพื้นที่ เผยนอกจากสาวทอมแล้วผู้ตายยังเคยคบหาผู้ชายอื่นและยังส่งเสียเลี้ยงดูกัน ด้าน “ป๊อปปี้” ยันบริสุทธิ์ ญาตินิมนต์พระเชิญวิญญาณ หลังมาเข้าฝันแม่บอกยังอยู่ในหลุม และอยากกลับบ้าน ขณะที่แม่เหยื่อสาวบอกแค้นมาก ลูกสาวไปทำอะไรให้ ย่าแฉหลานเคยถูกสาวทอมคนบ้านเดียวกันทำร้ายถึง 4 ครั้ง

จากกรณีพบศพน.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือ น้องแอ๋ม อายุ 22 ปี สาวคาราโอเกะสถานบันเทิงชื่อดังใน จ.ขอนแก่น ถูกฆ่าหั่นศพยัดใส่ถังพลาสติกฝังดินในพื้นที่บ้านโนนสง่า ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ กก.3 บก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงสิริสมบัติ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ร่วมกันสอบปากคำเพิ่มเติม น.ส.อภิชญา ยันทูล หรือป๊อปปี้ อายุ 22 ปี สาวทอมคนสนิทของผู้ตาย

น.ส.อภิชญากล่าวว่า ตนคบหากับผู้ตายมาประมาณ 3 ปี กระทั่งผู้ตายไปแต่งงานกับนายศักดิ์ชัย บาทเต็มดี อายุ 35 ปี จึงได้เลิกคบหากัน แต่ก็มีบ้างที่ผู้ตายโทรศัพท์มาพูดคุยเรื่องต่างๆ เมื่อช่วงต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ติดต่อมาว่าจะมาทำงานที่ขอนแก่น ซึ่งก็ได้เตือนไปว่าให้คิดดีๆ แต่ผู้ตายก็เดินทางมา จึงได้เช่าอพาร์ตเมนต์อยู่ด้วยกัน

น.ส.อภิชญากล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผู้ตายทำงานที่ร้านคาราโอเกะ ตนก็ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอีกที่หนึ่ง และยังรู้ว่าผู้ตายคบหาสาวทอมอีกหลายคน ส่วนสามีผู้ตายนั้นก็ยังติดต่อมาตลอด กระทั่งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค. ตนได้พาผู้ตายไปปั๊มกุญแจห้องพักแบ่งกันคนละดอก แล้วก็ไปส่งผู้ตายที่หอพัก ส่วนตนก็ออกไปทำงาน พอเลิกงานกลับมาที่ห้องก็ไม่พบผู้ตาย จึงแช็ตไปในเฟซบุ๊กก็ทราบว่าเที่ยวอยู่กับเพื่อนแต่ไม่บอกว่าอยู่กับใคร จนเวลา 04.00 น. ของวันที่ 22 พ.ค. ตนกลับมาที่ห้องพอไขประตูกุญแจห้องก็หัก จึงติดต่อให้ผู้ตายนำกุญแจห้องมาให้ก็พบว่ามีชายวัยรุ่น 3 คน นำกุญแจมาให้แทน

“หนูติดต่อแอ๋มได้ครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 06.22 น. ของวันที่ 23 พ.ค. โดยแอ๋มบอกว่ายังอยู่กับเพื่อน จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงรีบโทรศัพท์ไปบอกพ่อกับแม่ของหนูและแม่ของแอ๋ม และไปแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 24 พ.ค. กระทั่งมาพบแอ๋มถูกฆ่า หนูเสียใจมาก คนที่ทำกับแอ๋มแบบนี้ ต้องมีจิตใจที่โหดเหี้ยมทารุณที่สุด จึงอยากให้ตำรวจจับกุมคนร้ายโดยเร็ว” น.ส.อภิชญากล่าว

ด้านพ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะตัวคนร้ายที่ก่อเหตุที่แคบลงจากเดิม เนื่องจากเบาะแสที่ได้รับจากพลเมืองดีบวกกับการลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐาน และการเดินเท้าตรวจสอบเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุไปจนถึงจุดที่พบศพ รวมทั้งเส้นทางของผู้ตาย ทำให้เชื่อได้ว่าคนร้ายลงมือฆ่าผู้ตายในเขตเมืองขอนแก่นแล้วนำศพไปฝังทิ้งไว้ในพื้นที่ อ.เขาสวนกวาง และคาดว่าเป็นคนในพื้นที่

พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์กล่าวต่อว่า ของกลางที่ตรวจยึดมาได้จากจุดที่พบศพประกอบด้วย ถังดำ, ถุงดำ, เชือกจูงสุนัข, ปูนซีเมนต์, เสียมขนาดใหญ่, ซองใส่ใบเลื่อย ทั้งหมดคนร้ายน่าจะซื้อจากร้านวัสดุก่อสร้าง มีเพียงเชือกจูงสุนัขเท่านั้นที่อาจจะซื้อแยกร้านกัน ซึ่ง พนักงานสอบสวนจะได้ออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ส่วนใหญ่เป็นผู้ใกล้ชิดกับผู้ตาย รวมถึงเบาะแสใหม่ที่ได้จากสามี และเบาะแสจากพลเมืองดีที่แจ้งมาอีกว่าผู้ตายเคยคบหากับชายอื่นและยังคงติดต่อส่งเสียเลี้ยงดูกันอยู่ รวมทั้งสาวทอมอีกหลายคน

“ทั้งนี้การสอบปากคำทั้งหมดขณะนี้รวมแล้ว 9 ราย ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุคาดว่าน่าจะก่อเหตุร่วมกันทั้งชายและหญิงที่มีมากกว่า 5 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่มีผู้ต้องสงสัยชัดเจนแล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้” พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าญาติได้ประสานรับศพน้องแอ๋มกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดโคกแจง หมู่ 1 ต.วัดโคก อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติๆ โดยเฉพาะปู่และย่าที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก ด้าน น.ส.พิชชาภา คำเพิงใจ อายุ 43 ปี แม่ของน้องแอ๋มกล่าวว่า ขณะนี้ยังทำใจไม่ได้ที่ลูกจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่อยากเห็นภาพลูก ไม่อยากเห็นโลงศพ ตอนนี้พูดอะไรไม่ออก อยากให้จับคนร้ายได้เร็วๆ แล้วให้ลงโทษให้สมกับที่ทำกับลูก และแค้นมาก ลูกไปทำอะไรให้เขา มันโหดเกินคน ตอนนี้ภาวนาให้เจ้าหน้าที่ทำงานเร็วๆ

ด้านนางทองหลอม กลิ่นจุ้ย อายุ 67 ปี ย่าของน้องแอ๋ม ได้ยกมือขึ้นไหว้วอนขอให้วิญญาณน้องแอ๋มดลจิตดลใจเจ้าหน้าที่จับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว อย่าให้ต้องตายฟรี ตอนนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่ก่อนหน้านี้มีทอมชื่อเบญ บ้านอยู่ อ.มโนรมย์ ได้ทำร้ายร่างกายน้องแอ๋ม แล้วได้พาไปโรงพยาบาล ร่างกายบอบช้ำ หัวโน หน้าบวม เจ็บท้อง ทั้งเตะ ต่อย กระทืบ จากนั้นไปแจ้งความไว้ที่ สภ.มโนรมย์ ซึ่งได้เคยทำร้ายแอ๋มมา 4 ครั้งแล้ว ครั้งแรกหลานจะเอาเรื่องแต่กลับโดนเบญเกลี้ยกล่อมให้ยกเลิกแจ้งความ เพราะเบญจะไปสมัครตำรวจกลัวจะเข้าทำงานไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าญาติและคนในครอบครัวของน้อง ได้นิมนต์พระวัดบ้านโนนสง่า 4 รูป มาประกอบพิธีสวดดวงวิญญาณ ในที่เกิดเหตุกลับบ้านเกิด ด้านนางสกุลตรา เพลียแก่น อายุ 35 ปี น้าสาวของน้องแอ๋ม เล่าว่า การทำพิธีสวดเรียกดวงวิญญาณครั้งนี้เนื่องจากน้องแอ๋มได้ไปเข้าฝันแม่ของน้องแอ๋ม โดยบอกว่ายังคงอยู่ในหลุม หายใจไม่ออกขอให้พาออกจากหลุม และอยากที่จะกลับบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวด้วยว่าพบเบาะแสล่าสุดซึ่งได้มาจากกล้องวงจรปิดแห่งหนึ่ง สามารถจับภาพผู้ตายขึ้นรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ก่อนหายตัวไป กระทั่งมาพบเป็นศพดังกล่าว

ต่อมา น.ส.ภูริดา ไกยวินิจ หรือ “ฝน” อายุ 32 ปี ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงสิริสมบัติ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.4 หลังมีภาพปรากฏในกล้องวงจรปิดขณะพาน้องแอ๋มไปกดเงิน โดย เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนอนุญาตให้เดินทางกลับ

น.ส.ภูริดา กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ได้เรียกเข้ามาให้ปากคำหลังพบว่าตนเป็นคนพาผู้ตายไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง หน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในคืนวันที่ 22 พ.ค.เวลาประมาณ 22.00 น. ซึ่งตนรู้จักกับผู้ตายผ่านเฟซบุ๊ก แต่เพิ่งเจอตัวและเที่ยวด้วยกันเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยในคืนวันที่ 22 พ.ค.นั้น ได้ขับรถไปรับผู้ตายจากหอพักและไปกดเงิน แล้วไปทานข้าวพร้อมกับดื่มกินกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จนถึงเวลา 04.00 น. จึงขับรถไปส่ง ผู้ตายที่ปากทางเข้าหอพักแล้วก็แยกย้ายกลับ จากนั้นก็วิดีโอคอลคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง ต่างคนต่างพักผ่อน กระทั่งมาทราบข่าวว่าเสียชีวิตดังกล่าว ขอให้ตำรวจจับกุมคนคนร้ายได้โดยเร็ว

ขณะที่ พ.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำพบว่าผู้ตายและน้องน้ำฝน เพิ่งมาพูดคุยกันก่อนถูกฆ่าเพียง 1 อาทิตย์ ซึ่งการสอบสวนยังคงไม่พบพิรุธ จึงปล่อยตัวกลับไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน