ไฟป่าเชียงใหม่วิกฤต คลอกอาสาดับอีกศพ ผู้ว่าฯสั่งแจ้งจับชาวบ้าน

ไฟป่าเชียงใหม่วิกฤตอีก ที่จอมทอง ลามใกล้หมู่บ้าน คลอกอาสาเฝ้าระวังหมู่บ้านดับอีก 1 ราย ขณะที่จุดความร้อนเพิ่มขึ้น 571 จุด ผวจ.สั่งแจ้งจับชาวบ้านรุกป่า

วันที่ 3 เม.ย. สภ.จอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า เมื่อคืนวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา เกิดไฟป่าใกล้บ้านบนนา ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง ไฟป่าได้ลุกลามไหม้พื้นที่ป่า ขยายวงกว้างเข้ามาทางหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านช่วยกันทำแนวกันไฟและดับไฟป่า ทั้งคืนต่อมาชาวบ้านได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีชาวบ้านที่เฝ้าระวังดับไฟป่าสูญหาย และพบเป็นศพถูกไฟคลอกในป่าใกล้หมู่บ้าน

เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธร จอมทอง พร้อมด้วยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลบ้านแปะ ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุไฟไหม้ป่าบ้านบนนา ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง อยู่บนดอยขุนแปะ ทำให้ชาวบ้านที่ช่วยเฝ้าระวังดับไฟป่าถูกไฟคลอกเสียชีวิต 1 คน จากการตรวจสอบพื้นที่พบศพชาวบ้านถูกไฟคลอกเสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อนางต๊ะนี กิจเจริญพัฒน์ อายุ 41 ปี ที่ชายป่าใกล้หมู่บ้าน สภาพศพถูกไฟไหม้ร่างกายทั้งตัว

อ่านข่าว : สลด ผญบ.เชียงใหม่ โดนไฟคลอกสาหัส ขณะดับไฟป่า สิ้นใจสงบ

จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้ได้เกิดไฟป่าใกล้กับหมู่บ้าน ชาวบ้านพยายามช่วยกันทำแนวกันไฟและดับไฟป่า แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้จนเวลาผ่านมาจนถึงกลางคืนไฟป่ายังคงลุกลามใกล้เข้ามาในหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงได้จัดเวรยามดับไฟป่า และเฝ้าระวังป้องกันไฟป่าลุกลามเข้ามาบ้านเรือนชาวบ้าน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีชาวบ้านที่เฝ้าระวังไฟป่าได้สูญหาย 1 คน เจ้าหน้าที่และชาวบ้านจึงได้ช่วยกันออกค้นหาจนพบศพผู้ตายถูกไฟคลอกเสียชีวิตชายป่าใกล้หมู่บ้าน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลจอมทอง เพื่อชันสูตรสาเหตุการตายต่อไป

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account

ขณะที่กำลังพลจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 33 จำนวน 30 นาย สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันดับไฟป่าที่ลุกไหม้อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยขึ้นอีกครั้ง บริเวณหลังสำนักสงฆ์บ้านขุนช่างเคี่ยน ต.สุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่

โดยในช่วงเช้าวันนี้ดาวเทียมเวียร์ตรวจพบจุดความร้อน ในจังหวัดเชียงใหม่พุ่งสูงขึ้นถึง 571 จุด ประกอบด้วย อำเภอแม่แจ่ม 77 จุด เชียงดาว 75 จุด แม่แตง 60 จุด จอมทอง 57 จุด และอำเภออมก๋อย 52 จุด ทั้งนี้พบว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของทั้ง 5 อำเภอ พื้นที่ภูเขาสูงชันยากต่อการเข้าถึง แต่ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ผ่อนผันให้เป็นที่ดินทำกินและเป็นพื้นที่ป่าที่อยู่บริเวณใกล้เคียง

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สั่งการให้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ครอบครองพื้นที่ดังกล่าว เพราะทำความเข้าใจและแบ่งพื้นที่กันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมทั้งกำชับให้ปรับแผนการดำเนินการ เน้นสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และใช้มาตรการทางกฎหมายควบคู่กันไปเนื่องจากเป็นช่วงเผาและปิดป่าห้ามเข้าป่าโดยเด็ดขาดแล้ว เพราะหากสร้างการรับรู้เพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของชาวบ้านได้ ต้องใช้มาตรการทางกฎหมายทำให้เกิดความเกรงกลัวและไม่กล้ากระทำอีก และในบางพื้นที่ขอให้ประสานไปยังผู้นำจิตวิญญาณที่เป็นผู้ทำพิธีกรรมต่างๆ ให้ช่วยทำความกับชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว