ครม.เห็นชอบเลื่อนเปิดเทอมภาคเรียนแรก จากวันที่ 16 พ.ค. เป็นวันที่ 1 ก.ค. หลังเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 พร้อมให้ทุกสถานศึกษาปรับหลักสูตรให้เหมาะสม

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.รับทราบการปรับการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563 โดยให้สถานศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563 จากวันที่ 16 พ.ค.นี้ เป็นวันที่ 1 ก.ค.นี้ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ โดยจะปรับวิธีการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตรที่กำหนดไว้ในแต่ละระดับการศึกษา ของปีการศึกษา 2563 และประสานงานกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 )หรือศบค.ต่อไป

ทั้งนี้สืบเนื่องจากมีมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยให้งดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย (สถาบันการศึกษา) โรงเรียน โรงเรียนนานาชาติ และสถาบันกวดวิชา หรือปรับวิธีการเรียนการสอนเป็นทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่18 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นระยะเวลา 14 วัน และงดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัดของหน่วยงานที่มีคนจำนวนมาก ได้แก่ ค่ายทหาร เรือนจำ โรงเรียน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด จึงให้เลื่อนการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง

เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ทั้งนี้ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ. 2549 ข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้สถานศึกษาเปิดและปิดภาคเรียนตามปกติในรอบปีการศึกษาหนึ่งตามที่กำหนดไว้ดังนี้ ภาคเรียนที่หนึ่ง วันเปิดภาคเรียน วันที่ 16 พ.ค.วันปิดภาคเรียน วันที่ 11 ต.ค.ภาคเรียนที่สอง วันเปิดภาคเรียน วันที่ 1 พ.ย.วันปิดภาคเรียน วันที่ 1 เม.ย.ของปีถัดไป และเห็นสมควรให้มีการเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง จากวันที่ 16 พ.ค.เป็นวันที่ 1 ก.ค.เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ทั้งนี้กระทรวงศึกษาธิการได้ออกประกาศเรื่องให้สถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ ให้จัดให้มีการเรียนการสอนด้วยการไม่ต้องเข้าเรียนเพื่อเลี่ยงกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนเป็นกลุ่ม หรือการรวมตัวกันของคนหมู่มาก ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว และป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ผู้เรียน ครู ผู้สอน

อีกทั้งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ให้มีผลตั้งแต่ วันที่ 26 มี.ค.-30เม.ย.63 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1)ส่งผลกระทบต่อสถานศึกษาในกระบวนการการรับสมัคร การสอบคัดเลือก การจับฉลาก การประกาศผล การรายงานตัว และการมอบตัวที่ได้กำหนดวันไว้เดิมตามปฏิทินการรับนักเรียน นักศึกษาและผู้เรียนในปีการศึกษา 2563 ซึ่งกำหนดดำเนินการระหว่างเดือนมี.ค.-พ.ค.63 ซึ่งขณะนี้สถานศึกษายังไม่สามารถดำเนินการได้ตามกระบวนการข้างต้น ทำให้สถานศึกษาไม่สามารถเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ของปีการศึกษา 2563 ในวันที่ 16 พ.ค.นี้ ตามระเบียบกระทรวงฯได้

อ่านข่าว : กระทรวงศึกษา เสนอ ครม. เลื่อนเปิดเทอม 1 ไปเดือน ก.ค. หนีโควิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน