ฆ่าเศรษฐินีวัย 70 ปี เจ้า ของสวนลำไยโป่งน้ำร้อน จันทบุรี ทุบหัวจนยุบไปครึ่งซีก พบรถกระบะตกท้องร่องใกล้จุดพบศพ สอบพยานระบุก่อนเกิดเหตุลูกน้องไปเที่ยวคาราโอเกะ แต่เงินไม่พอ จึงกลับมาขอเบิกเงินจากผู้ตาย หลังจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนั่งรถกลับมาด้วยกัน ลูกน้องเห็นเงินเยอะ จึงลงมือฆ่าโหด ชิงเงิน และขับรถผู้ตายออกไป แต่รถเสียหลัก จึงทิ้งรถหลบหนีไป
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 11 มิ.ย. ร.ต.ท.สมพงษ์ บุญไทย ร้อยเวร สภ.บ้านแปลง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รับแจ้งเหตุฆาตกรรมริมสวนลำไยภายในหมู่บ้านคลองบอนหมู่ 4 ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน จึงนำกำลังรุดไปยังที่เกิดเหตุพบศพนางวิไล จิตรสุนทร อายุ 70 ปี เป็นเจ้าของสวนลำไย บริเวณหน้าผากและศีรษะยุบไปครึ่งซีก จากการถูกทุบด้วยของแข็งอย่างรุนแรง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง และพบท่อนไม้
จากการตรวจสอบบริเวณปากทางเข้าสวนลำไย ริมถนนสายหลักบ้านคลอนบอน ห่างจากจุดพบศพ 200 เมตร พบรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์วีโก้ สีดำ ทะเบียน กท 8158 จันทบุรี ของผู้ตาย พลิกตะแคงกลางท้องร่องริมถนน ตรวจสอบภายในรถพบเอกสารต่างๆ และเศษชิ้นเนื้อมนุษย์ติดอยู่บริเวณประตูริมประตู
สอบสวนทราบว่านางวิไลเป็นคนที่มีฐานะดี ทำสวนลำไยหลายร้อยไร่ มีลูกจ้างทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา เป็นแม่ยายของนายทหารนายหนึ่ง คืนวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ลูกน้องของผู้ตายพากันไปเที่ยวร้านคาราโอเกะ อ.โป่งน้ำร้อน ใช้รถกระบะคันที่ตกท้องร่องเป็นพาหนะ แต่เงินไม่พอจ่าย จึงกลับมาขอเบิกเงินจากนางวิไล และนางวิไลก็นั่งรถไปด้วย หลังจ่ายเงินเสร็จก็พากันกลับ คาดว่าลูกน้องเห็นเงินเยอะเลยตัดสินสินฆ่าทุบหัว ชิงเงินสดไปประมาณ 30,000 บาท
เจ้าหน้าที่ประเมินสภาพที่เกิดเหตุ และเศษชิ้นเนื้อมนุษย์ที่ติดอยู่กับประตูรถ คาดว่าคนร้ายทุบด้วยของแข็ง กระทั่งเศษชิ้นเนื้อจากร่างกายนางวิไลกระเด็นหลุด ไปติดประตู จนแน่ใจว่านางวิไลเสียชีวิตแล้ว คนร้ายจึงนำเงินและรถกระบะไป แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ รถเสียหลักตกในท้องร่อง จึงจำเป็นต้องทิ้งรถหลบหนี เจ้าหน้าที่คาดเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ ล่าสุดตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว เป็นลูกจ้างของผู้ตาย หลบหนีไปที่เขาคิชฌกูฏ
