สาวป่วยไข้หวัด ร้องถูกสั่งห้ามเข้าหอ

ทนายชี้ผิดทุกฝ่าย – เปิดใจหญิงสาว ป่วยไข้หวัด แพทย์สั่งกักตัวดูอาการ 14 วัน ถูกหอพักที่อาศัยอยู่ห้ามเข้ามาเก็บของใช้ส่วนตัว หลังทราบข้อมูลจากฝ่ายบุคคลของบริษัทที่ส่งข้อมูลมาให้ เจ้าตัวยันผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ วอนสังคมเข้าใจซึ่งกันและกัน อย่ารังเกียจคนป่วย

เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account
เพิ่มเพื่อน

โดยหญิงสาว เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา มีไข้เนื่องจากออกแดด และเข้าห้องแอร์ จึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งวินิจฉัยแล้วพบว่าเป็นไข้หวัด ไม่เข้าข่ายเกณฑ์การสอบสวนโรคโควิด-19 แต่ให้กักตัว 14 วัน จึงส่งใบรับรองแพทย์นี้แจ้งให้ฝ่ายบุคคลที่ตนทำงานรับทราบ และอนุมัติให้กักตัวตามที่ระบุในใบรับรองแพทย์

ซึ่งขณะนั้นตนเองพักอาศัยอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 โดยตลอดระยะเวลาไม่มีไข้ และก็ไม่ได้ไปในพื้นที่เสี่ยง หรือ ใกล้ชิดกับผู้ที่มีเชื้อ แต่เพื่อความมั่นใจหลังจากกักตัวได้ 2 วัน จึงตัดสินใจขับรถออกจากหอพัก เพื่อไปพบแพทย์ ระหว่างนั้นฝ่ายบุคคลของบริษัทได้โทรศัพท์มาสอบถามอาการ และได้ยินว่าอยู่ข้างนอก และสอบถามว่าเพราะเหตุใดจึงไม่กักตัว

จากนั้นไม่นานนัก ทางผู้ดูแลหอพักได้ส่งข้อความมาหาตนเองว่า ทราบจากฝ่ายบุคคลว่าต้องกักตัว 14 วัน พร้อมกับส่งใบรับรองแพทย์ที่ได้รับจากทางฝ่ายบุคคลมาให้ตนเอง ทำให้รู้สึกแปลกใจว่าเพราะเหตุใด ทางบริษัทจึงส่งข้อมูลส่วนตัวให้กับบุคคลที่สาม หากกลับมาก็จะแจ้งกรมควบคุมโรค จึงตัดสินใจแจ้งกับหอพักว่าจะกลับไปอยู่ที่บ้านพักในกรุงเทพฯ แทนเพื่อความสบายใจ พร้อมแจ้งกับหอพักว่าจะขอเข้าไปเก็บของ แต่กลับถูกสั่งห้ามเข้ามาที่หอพัก แม้แต่รถก็ห้ามขับเข้ามา ไม่เช่นนั้นจะแจ้งตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตนรู้สึกถูกรังเกียจจากสังคม ทั้งที่ไม่ได้ป่วยด้วยโควิด-19 และผลการตรวจโควิด-19 ก็ไม่พบเชื้อแต่อย่างใด พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งที่ฝ่ายบุคคล เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะต้องรักษาความลับของพนักงาน ส่วนหอพัก ตนเองเข้าใจว่า หวาดวิตก และตนเองก็มีส่วนผิดที่ไม่ได้กักตัวเองในห้อง แต่ต้องเข้าใจว่าตนอยู่คนเดียว และต้องออกไปซื้อข้าวของมารับประทาน แต่ก็มีการป้องกัน และเซฟตัวเอง รวมถึงคนรอบข้างเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงสังคมไทยว่า หากบุคคลใดที่มีเชื้อโควิด-19 เป็นบวก ทางแพทย์ก็จะต้องทำการกักตัวอยู่แล้ว และอยากให้ทุกคนในสังคมเข้าใจซึ่งกันและกัน อย่ารังเกียจผู้ป่วย ซึ่งตนเองเหมือนคนเร่ร่อนยังดีที่มีบ้านอยู่ในกรุงเทพฯ แต่หากเรื่องนี้เกิดกับคนที่บ้านอยู่ต่างจังหวัด จะทำอย่างไร

ด้านทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เผยว่า เรื่องนี้มีความผิดทุกฝ่าย ฝ่ายบุคคลฯ ไม่มีสิทธิเผยแพร่ข้อมูลพนักงาน , หอพักฯ ต้องให้ผู้เช่าเข้ามาได้ตามปกติ เพราะมีสัญญาเช่าอยู่ และผู้เสียหายก็ต้องกักตัวเองตามแพทย์สั่ง

cr.เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน