นพ.เรวัติ โพสต์จวก โฆษก ศบค. หลังตำหนิประชาชนต่อคิวรับของแน่น ชี้ คนกลัวติดโรค แต่เดือดร้อนหนัก เพราะความหิวโหยอดอยาก

จากกรณีมีคำเตือน จาก ศบค. ว่า การที่ประชาชนเดินทางไปรับสิ่งของบริจาคจำนวนมาก อาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด เนื่องจากไม่มีการจัดระเบียบไม่เว้นระยะห่าง และขอให้มีการจัดระเบียบ พร้อมทั้งเฝ้าระวังตัวเองหากมีไข้ ไอแห้ง ให้ไปพบแพทย์นั้น

นายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และสมาชิกพรรคเสรีรวมไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงเรื่องดังกล่าว ว่า “เพราะเขาหิว 11 โมงเช้าของทุกวันประชาชนติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิดผ่านการแถลงของ. ศบค ว่ามีคนป่วยและตายเพิ่มขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศเป็นจำนวนเท่าไหร่ สำหรับในประเทศไทยคนป่วยและตายอาจมีจำนวนไม่มากนักแต่พี่น้องประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างหนักถึงขั้นอดอยากไม่มีจะกินเพราะต้องตกงานเนื่องจากกิจการถูกปิดโดยคำสั่งของรัฐบาล

สิ่งที่ประชาชนมักจะได้ฟังจากการแถลงของโฆษก. ศบค. ถ้าเมื่อไหร่ยอดป่วยและตายเพิ่มขึ้นก็จะแถลงว่าเพราะคนไทยไร้วินัย ไม่ค่อยให้ความร่วมมือแต่ไม่เคยยอมรับในความล้มเหลวและเหลวแหลกที่ปล่อยให้คนนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศมาติดคนไทยที่ไม่ได้เดินทางไปไหนแต่ต้องป่วยและตายโดยไม่ได้เป็นผู้ไปติดเชื้อจากต่างประเทศ

คนดอนเมือง ต่่อคิวรับสิ่งของบริจาค

คนดอนเมือง ต่่อคิวรับสิ่งของบริจาค

เพราะฉะนั้นทุก11โมงเช้าคือเวลาที่คนไทยต้องรับฟังการอบรมว่าต้องทำตัวดีๆ นะ มิฉะนั้นยอดผู้ป่วยจะสูงขึ้น หรือไม่ลดลงส่วนรัฐบาลไม่เกี่ยว ฟังแล้วเหมือนการนิรโทษกรรมหลังการทำรัฐประหารเลย ที่ทำผิดอย่างไรก็ไม่เคยผิดทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ทั้งชาตินี้. ชาติหน้า และตลอดไปทุกๆชาติ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเช้านี้โฆษก. ศบค. ได้ออกมาตำหนิประชาชนที่กำลังอดอยากหิวโหยเข้าคิวยาวเหยียดเป็นจำนวนมากเพื่อรอรับบริจาคทั้งเงิน ข้าวสารอาหารแห้ง ที่วัดดอนเมือง ว่าทำผิด พรก ฉุกเฉิน จะเป็นเหตุให้มีการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งเมื่อดูในภาพข่าวก็มีทั้งคนที่ใส่หน้ากากอนามัยและไม่ได้ใส่ ผู้ไม่ได้ใส่ก็ถูกตำหนิว่าทำตัวไม่ดี ไม่รู้จักป้องกันโดยหารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วเพราะเขาไม่มีเงินจะซื้อเพราะมีการกักตุนจนราคาแพงหรือขาดแคลนจนหาซื้อไม่ได้

ประชาชนที่มาชุมนุมกันอย่างแออัดยัดเยียดโดยไม่หวาดกลัวโควิด. เพราะความหิวโหยอดอยากซึ่งคุณหมอโฆษกจะไม่มีวันเข้าใจ เนื่องจากในชีวิตไม่เคยต้องประสบกับความยากแค้นแสนสาหัสเช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต

ในฐานะแพทย์คนหนึ่งย่อมไม่อยากเห็นการอยู่ร่วมกันอย่างหนาแน่นโดยไม่มีระยะห่าง(physical distancing)จนเป็นเหตุให้มีการแพร่ระบาดของโรคได้ พี่น้องกำลังอดอยากหิวโหย แต่โฆษก ศคบ กำชับว่าผู้บริจาคควรต้องบริหารจัดการให้มีมาตรการระยะห่าง โดยไม่ละอายใจว่าจริงๆแล้วควรไปสั่งให้รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ ในฐานะผู้บริหารประเทศซึ่งมีทั้งหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องควบคุมป้องกันการระบาดและเยียวยาประชาชน

พี่น้องประชาชนก็คงยังกลัวทั้งโควิด และ พรก ฉุกเฉินครับท่านโฆษก แต่เพราะเขาหิวครับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน