วันที่ 6 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเปิดให้ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลซื้อจองสลากฯ งวดวันที่ 1 มิ.ย.63 ซึ่งเพิ่งเปิดให้กลับมาซื้อได้งวดแรกหลังหยุดพักไป 3 งวด เพื่อเลี่ยงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด พบว่าบรรยากาศเงียบเหงาอย่างหนัก โดยมียอดจองลดลงไปกว่าครึ่ง จากปกติมี 100 ล้านฉบับ ลดเหลือ 54-59 ล้านฉบับ เนื่องจากผู้ค้ายังกังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส และมาตรการล็อกดาวน์ปิดสถานที่จำหน่ายของรัฐบาลจึงกลัวจะขายไม่ได้ ประกอบกับบรรดานายทุนยี่ปัวะที่เคยรับซื้อต่อไปรวมชุดขายก็หยุดรับซื้อชั่วคราว ทำให้คนที่ตั้งใจจองเพื่อไปขายต่อต่างขอหยุดพักไปด้วย
บรรดาวงการผู้ค้าสลากฯ ประเมินว่า หากสถานการณ์โควิดคลี่คลายและรัฐบาลมีการปลดล็อกดาวน์ไว อาจเห็นลอตเตอรี่งวดนี้กลับมาราคาแพงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะปกติจะมียอดพิมพ์งวดละ 100 ล้านฉบับ แต่มางวดนี้ลอตเตอรี่จะหายจากตลาดไปไม่ต่ำกว่า 40 ล้านฉบับซึ่งอาจไม่พอขาย และเกิดการเก็งกำไร ปั่นราคากันตามมา
ด้าน นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต และประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ยอดซื้อจองสลากฯ ที่ลดลง ถือเป็นไปตามคาด ซึ่งเดิมคาดจะหายไปถึง 50% แต่ปรากฎว่ายอดจริงหายไป 40% โดยสาเหตุมาจากความกังวลต่อการแพร่ระบาดโควิด และมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลที่ยังมีอยู่ แต่ก็ถือว่าเป็นไปตามเจตนารมย์ของสำนักงานฯ ที่ต้องการให้ผู้ขายลอตเตอรี่ประเมินสถานการณ์ซื้อขายให้ดีก่อนจอง หากไม่มั่นใจว่าจะขายได้เยอะก็อย่าจองเยอะ เพราะถ้าเหลือจะไม่สามารถขายคืนให้สำนักงานสลากฯ ได้
อย่างไรก็ตาม ยอดซื้อจองที่ลดลงไม่ได้กระทบต่อสำนักงานสลากฯ เพราะปกติจะมีการพิมพ์ลอตเตอรี่ออกมาตามยอดที่ซื้อจองไว้อยู่แล้ว หากจองเข้ามาน้อยก็พิมพ์น้อย หากจองมากก็พิมพ์มาก และเชื่อว่าหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย บรรยากาศการจำหน่ายลอตเตอรี่จะกลับมาเป็นปกติได้
ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯ ยังได้รายงานสรุปยอดสลากฯงวด 1 มิ.ย.นี้ ซึ่งปิดทำรายการไปเมื่อ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามียอดจองลอตเตอรี่เหลือเพียง 54 ล้านฉบับ จากที่เปิดทั้งหมด 95 ล้านฉบับ โดยแยกเป็นยอดของผู้ค้าโควตาถาวร 24 ล้านฉบับ และผู้ค้ารายย่อย 30 ล้านฉบับ ส่วนที่เหลืออีก 5 ล้านฉบับ จะเปิดขายอีกครั้งวันที่ 19 พ.ค.นี้ โดยผู้ที่จองไว้แล้ว สามารถไปรับสลากได้ที่ไปรษณีย์ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.63 เป็นต้นไป
