ป้าทองสา เปิดใจอีกรอบหลังร้องไห้ขอเงินเยียวยา โดนจับผิดมีบ้านหลังใหญ่โต ยันไม่ได้อยู่มานานแล้ว เป็นบ้านผัวฝรั่งลูกสาว ต้องใช้หนี้ให้สามี เกือบคิดสั้น

จากกรณีที่นางทองสา ดาหา อายุ 64 ปี ชาวบ้านจาก จ.กำแพงเพชร เดินทางไปที่กระทรวงการคลัง ร้องเรียนไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท เมื่อวันที่ 5 พ.ค. โดยป้าทองสาร่ำไห้วิงวอนให้นายกฯ ช่วยเหลือเงินเยียวยา 5,000 บาทเพราะทุกวันนี้ไม่มีเงินจะกินแล้ว ท้าพิสูจน์บ้านเช่าที่ย่านสะพานพระราม 7 บอกไม่มีเงินซื้อข้าวกินแล้ว

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 พ.ค. ที่ ถนนอัมรินทร์ 36 ซอยสุวานินทร์ แขวง บางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพ นางทองสา ดาหา อายุ 64 ปี เปิดใจกับ ข่าวสดออนไลน์ ทั้งน้ำตา หลังจากที่ไปร้องสิทธิเงินเยียวยา 5,000 บาท ที่กระทรวงการคลัง แล้วต่อมาถูกโซเชี่ยลโจมตี ว่ามีบ้านหรูที่ จ.กำแพงเพชร

นางทองสา กล่าวว่า วันที่ตนนั้นไปร้องที่กรมประชาสัมพันธ์นั้น ก่อนหน้านี้ รู้สึกว่า ไม่มีเงินจะกิน ไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง ค่าไฟ ค่าน้ำ แล้วส่งเงินให้แม่ จึงเกิดความเครียดที่ถาโถมเข้ามามากมาย ตนจึงเครียดมาก

และก่อนหน้านี้ เราก็ลงทะเบียน 5,000 บาท ไปแล้ว แต่หลานนั้น ไปกดผิด ลบไป ทำให้ตนยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่ เพราะคิดว่า ตัวเองน่าจะไม่ได้รับเงิน 5,000 บาทแล้ว

ป้าทองสา เปิดใจ

นางทองสา กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะไปกรมประชาสัมพันธ์ ตนเกิดคิดสั้น อยู่ๆ จะพาหลานอายุ 4 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคเลือดจาง ไปโดดน้ำที่สะพานพระราม 8 แต่ตอนนั้น ลูกสาวคนโตดึงสติของตัวเองกลับมา จึงคิดได้ว่า เราควรจะไปเรียกร้องสิทธิของตัวเองที่กรมประชาสัมพันธ์

ก็เลยตัดสินใจไป ทั้งที่ตัวเองนั้น มีเงินติดตัวเพียงแค่ 300 บาท ตนก็ไป โดยที่ไม่มีนักการเมืองคนไหนเข้ามาหนุนหลังหรือให้เงินเลย ที่เราไปนั้น เพราะความไม่มีเงิน ความเดือดร้อน ที่บีบบังคับให้เราไป

หลังจากที่ตนไปแล้วก็ถูกโจมตีว่าตนนั้นมีบ้านหลังใหญ่ที่จังหวัดกำแพงเพชรซึ่งตนขอชี้แจงว่าบ้านหลังนั้นเป็นบ้านของลูกสาวคนโตซึ่งมีสามีเป็นชาวต่างชาติ เขานั้นสร้างให้กับลูกสาวเมื่อหลายปีก่อนและตนก็ไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้น

ตนอยู่ที่กรุงเทพมาเกือบจะ 20 ปีแล้ว ขายลูกชิ้นส่งลูกสาวเรียนไม่ได้พึ่งพาใครและต่างคนต่างอยู่ส่วนตัวของสามีลูกสาวที่เป็นชาวต่างชาติตอนนี้เขาก็ป่วยต้องใช้เงินรักษา มีเหตุที่ต้องใช้เงินเช่นเดียวกัน

และในส่วนของที่เขาบอกว่า ตนนั้นไม่ได้หมีหนี้สิน อยากชี้แจงว่า สามีของตน เป็นหนี้ ธ.ก.ส. 1 แสนบาท ตอนนี้ก็จ่ายหนี้ไปแล้ว เหลือ 90,000 บาท ตนก็ต้องช่วยกันจ่ายหนี้ ถ้าหากสามีเป็นอะไรมา ตนก็เป็นคนช่วยใช้หนี้อยู่แล้ว

ทุกวันนี้ก็ไม่มีเงินส่งให้แม่ ไม่ได้ไปหาแม่ที่ป่วยติดเตียงอยู่ที่ต่างจังหวัด บางวัน หลานอยากกินไอติม อยากกินขนม ตนก็ไม่มีเงินให้หลานกิน ก็ต้องบอกให้เขาไปกินวันหลัง ตนก็เลยมีความเครียดหลายด้าน

และพอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ หลายคนก็โจมตีตน ว่าตนสารพัด จนครอบครัวบอกว่าอับอายมาก ซึ่งตนก็ขอยืนยันว่า ตนบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน