สหภาพแฉบินไทย สูญขายตั๋วปีละหมื่นล้าน ฉะซื้อเครื่องใหม่ทำขาดทุน ซัดปัญหาขาดทุนไม่ได้เกิดจากพนักงาน เพราะพนักงานเป็นเพียงผู้ปฏิบัติ ทุกอย่างเกิดจากนโยบายและฝ่ายบริหาร
วันที่ 7 พ.ค. นายนเรศ ผึ้งแย้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ซึ่งรับผิดชอบ การบินไทย แต่งตั้งพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช อดีตผบช.น. เป็นหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในการบริหารงานกิจการและปัญหาการทุจริตในการบินไทย ซึ่งทำให้บริษัทประสบภาวะขาดทุนว่า
เร็วๆ นี้ สหภาพฯ จะเข้าพบนายถาวร เพื่อให้ข้อมูลและมอบหลักฐาน เกี่ยวกับการจำหน่ายตั๋วโดยสาร ผ่านตัวแทนจำหน่าย ที่ทำให้การบินไทยได้รับเงินค่าตั๋วโดยสารแบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้การบินไทยขาดทุน นอกเหนือไปจากการจัดซื้อเครื่องบิน
เบื้องต้นพบว่า การขายตั๋วดังกล่าว ทำให้การบินไทยสูญเสียรายได้ปีละกว่า 1 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้การหารายได้ของบริษัทเป็นอัมพาตมานาน
นายนเรศ กล่าวว่า ปัญหาการจัดซื้อเครื่องบินของรัฐบาลในอดีตยังเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้การบินไทยขาดทุน โดยช่วงปี 2554 สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ครม.มีมติแผนจัดหาเครื่องบิน 75 ลำ แบ่งเป็น 2 เฟส เฟสที่ 1 จำนวน 37 ลำ วงเงินกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งจัดซื้อไปแล้วในยุคนั้น และระยะที่ 2 อีก 38 ลำ ยังไม่ได้จัดซื้อมาจนถึงขณะนี้ โดยก่อนการจัดซื้อเครื่องล็อตแรก การบินไทยมีหนี้ราว 1 แสนล้านบาท แต่หลังการจัดซื้อจนถึงปัจจุบัน การบินไทยมีหนี้สินสะสมพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 2.45 แสนล้านบาท เนื่องจากมีภาระต้องจ่ายดอกเบี้ยจำนวนมาก
“อยากให้สังคมรับรู้ว่าปัญหาขาดทุนแท้จริงไม่ได้เกิดจากตัวพนักงาน เพราะพนักงานเป็นเพียงผู้ปฏิบัติงานเท่านั้น ทุกอย่างเกิดจากนโยบายและฝ่ายบริหาร”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
