เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.60 จ.ชัยภูมิ บรรยากาศของลูกสุดยอดเด็กกตัญญูหัวใจแกร่ง หรือ ด.ช.เจษฎา เย็นอนงค์ หรือน้องบิ๊ก อายุ 13 ปี ที่อยากหาทางช่วยแม่ใช้หนี้ให้แม่ ที่เกิดจากตนเองล้มป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่พบชิ้นเนื้อร้ายในแกนสมอง ยากต่อการรักษาและต้องมีค่าใช้จ่ายสูงต้องเป็นภาระให้กับแม่อีก จนตัวน้องเองเคยหยุดหายใจตายแล้วฟื้นมาแล้วถึง 2 ครั้ง ราวกับปาฏิหาริย์เมื่อน้องมีโอกาสฟื้นขึ้นมาได้อีกช่วงกลางปี 2560 นี้ที่ผ่านมา ซึ่งน้องบิ๊ก ได้ทราบว่า แม่ต้องเป็นหนี้ที่หาเงินมารักษาตัวมากกว่า 1.7 แสนบาท ทั้งที่รายได้แค่วันละ 200-300 บาท บ้านชั้นเดียวต้องอาศัยรวมกัน แค่พอหลบแดดหลบฝน อาศัยอยู่กับแม่และพี่สาววัย 15 ปี ทุกวันที่ตื่นมาเจ็บปวดทรมาน และได้ยื่นใบสมัครรายการปลดหนี้ เพราะหวังว่าจะหาเงินช่วยแม่ ถ้าได้รางวัลก็ปลดหนี้ได้ หากไม่ก็ยังได้ค่ารถกลับบ้าน 5 พัน
“น้องบิ๊กเองก็พยายามฝึกร้องเพลงที่ตนเองชอบมาตลอด จนพยาบาลที่พบเห็นมาให้กำลังใจว่าเสียงดี จึงอยากจะลองไปร้องเพลงไมค์หมดหนี้ให้กับแม่เป็นครั้งสุดท้ายของชีวิตก่อนที่ตัวเองยังพอมีแรง ก่อนที่จะหมดลมหายใจครั้งสุดท้ายของชีวิตให้กับแม่ได้บ้าง ซึ่งช่วงเย็นในวันที่ 19 มิ.ย.60 ที่ผ่านมาคือวันที่น้องได้รับการถ่ายทอดร้องเพลงออกอากาศในรายการฯ ที่ทุกคนใครที่ได้เห็นภาพของน้องบิ๊กที่ต้องนั่งรถเข็นผู้ป่วยเดินไม่ได้ ขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ต่างต้องพากันถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ถึงความหัวใจแกร่งของเด็กชายวัยเพียง 13 ปีเด็กยอดกตัญญูรายนี้ จนมีผู้ใจบุญที่ทราบเรื่องราวชีวิตของน้องที่อยากจะทำเพื่อแม่ อยากช่วยปลดหนี้ให้แม่ เป็นสิ่งสุดท้ายเท่าที่ตัวเองทำได้ของชีวิตก่อนตายที่ร่างกายได้รับผลกระทบจากอาการป่วยของน้องใกล้หมดแรงรวยรินลงทุกที โดยได้รับเงินช่วยเหลือแล้ว 2 ล้านบาท”
ล่าสุดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 20 มิ.ย.60 ญาติๆ เพื่อนบ้าน และแม่ของน้องบิ๊ก คือ น.ส.บัวผัน ชัยสรณ์ ได้ขอร้องให้น้องเดินทางกลับไปรักษาตัวที่ รพ.หนองบัวระเหว อีกครั้ง หลังน้องเริ่มมีอาการเริ่มอ่อนแรง หายใจรวยริน หลังจากที่ได้ดูเทปรายการเมื่อคืนที่ผ่านมาจบ ก็หลับตานอนมาตลอดทั้งคืน โดยน้องบิ๊ก ก็ยังบอกว่าไม่อยากเป็นภาระให้แม่อีกเลย น้องทำให้แม่ไม่เป็นหนี้สำเร็จก็พอแล้ว แต่เมื่อมาพบว่ามีเงินในบัญชีมีผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่า 2 ล้านบาท และเพียงพอต่อการใช้หนี้ ทั้งยังจะไปช่วยเป็นทุนการศึกษาให้พี่วัย 15 และแม่ได้ใช้เลี้ยงครอบครัวได้ดีขึ้นอย่างพอเพียงแล้ว ส่วนหนึ่งก็ยังจะสามารถนำไปช่วยเป็นค่ารักษาให้น้องบิ๊ก ไม่เป็นภาระให้กับแม่อีกได้ใหม่อีกครั้ง น้องบิ๊กจึงยอมที่จะเดินทางเข้าตรวจเพื่อรับการรักษาตัวที่ รพ.ประจำอำเภอ หนองบัวระเหว ครั้งนี้
ด้าน นายแพทย์เฉิดพันธุ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองบัวระเหว กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางรพ.ก็ได้ดูแลน้องบิ๊กเป็นอย่างดีโดยจัดทีแพทย์และหมอครอบครัว ต.โสกปลาดุก เข้าไปดูแลพร้อมเป็นกำลังใจให้กับน้องบิ๊กและครอบครัวตลอดมาซึ่งขณะนี้น้องได้อยู่ในการดูแลรักษาของโรงพยาบาลรามาธิบดี ในส่วน รพ.ที่เราจะดูแลตัวน้องได้ในช่วงนี้ก็คือรักษาตามอาการและเป็นกำลังให้กับพร้อมขอให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับน้องให้มีชีวิตรอดอยู่กับครองครัวอย่างมีความสุขต่อไป
