ทหารบุกบ้าน หญิงลีซู อ้างนายอยากรู้ข้อมูล เจ้าตัวหวั่นโดนอุ้มเหมือนบิลลี่

วันที่ 10 พ.ค. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า คะติมะ หลีจ๊ะ หญิงชนเผ่าลีซู ในอ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ผู้ทำงานด้านสิทธิชุมชนและสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ ได้เปิดเผยกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า มีเจ้าหน้าที่ทหารนอกเครื่องแบบเดินทางมาพบตนที่บ้าน เพื่อสอบถามข้อมูลส่วนตัว(เมื่อเย็นวันที่ 9 พ.ค.) หลังก่อนหน้านี้คะติมะ ร่วมกับเครือข่ายชาติพันธุ์ลีซู ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ และยื่นหนังสือเรียกร้องขอความเป็นธรรม กรณีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำร้ายร่างกายชาวบ้านลีซูจากความขัดแย้งเรื่องที่ดินทำกิน

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

คะติมะ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. มีเจ้าหน้าที่ทหารนอกเครื่องแบบ 1 นาย แต่งกายในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น เดินทางมาที่บ้านของตน โดยทราบว่าเป็นทหารม้า ที่สังกัดหน่วยซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ แต่ได้มาตั้งด่านในพื้นที่ชายแดนของอำเภอเชียงดาว เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีบอกถึงสาเหตุการมาพบที่ชัดเจน เพียงแต่บอกว่าหัวหน้าหน่วยให้มาพูดคุยสอบถามข้อมูล โดยก่อนหน้านี้หัวหน้าก็ได้พยายามติดต่อคะติมะทางโทรศัพท์มาแล้ว แต่ยังไม่ได้พูดคุยด้วย

โดยเจ้าหน้าที่สอบถามถึงสาเหตุที่คะติมะทำงานด้านสิทธิมนุษยชน ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร คะติมะได้เล่าเรื่องราวที่พ่อของตนถูกยิงเสียชีวิตเมื่อปี 2555 เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งเรื่องที่ดิน ทำให้ครอบครัวของตนไม่ได้รับความเป็นธรรม และเธอยังพบปัญหาของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ที่ถูกกล่าวหาเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าของรัฐ

ทั้งที่อยู่อาศัยทำกินมานานแล้ว จึงเข้าร่วมเรียกร้องการแก้ไขปัญหากับเครือข่ายประชาชนที่ทำงานด้านที่ดินและด้านชาติพันธุ์ โดย คะติมะ ระบุกับเจ้าหน้าที่ว่าตนก็เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่ได้ไปทำงานด้านนี้แล้วมีเงินเดือนแต่อย่างใด เป็นแต่เพียงจิตอาสาและการไปร่วมในเครือข่ายเท่านั้น

ทหารยังสอบถามข้อมูลส่วนตัวหลายเรื่องของ คะติมะ ทั้งวันเดือนปีเกิด สถานะการสมรส เบอร์โทรศัพท์ บุคคลที่อาศัยอยู่ในบ้าน ชื่อพ่อแม่และพี่น้องทั้งหมด อาชีพของคนในครอบครัว เป็นต้น ซึ่งเธอก็ได้ตอบไปตามความจริง แต่สอบถามเจ้าหน้าที่ด้วยว่าทำไมถามข้อมูลเยอะแบบนี้ เจ้าหน้าที่เพียงบอกว่าหัวหน้าอยากทราบ

คะติมะ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการพูดคุยประมาณ 30 นาที โดยไม่ได้มีการใช้คำพูดข่มขู่ หรือมีท่าทางในการคุกคาม แต่ตนก็มีความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ทหารมาพบถึงบ้านแบบนี้มาก่อน และยังเคยมีพี่น้องชาติพันธุ์ที่ออกมาทำงานปกป้องสิทธิมนุษยชนเคยถูกอุ้มหายและได้รับผลกระทบต่างๆ เช่น กรณีของ “บิลลี่” พอละจี รักจงเจริญ นักปกป้องสิทธิชาวกะเหรี่ยง ทำให้ตนก็เกิดความกังวลและต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น

สำหรับสาเหตุที่เจ้าหน้าที่เดินทางมาพบ คะติมะ ระบุว่า ทหารไม่ได้บอกเหตุผลชัดเจน แต่ได้ยินการพูดคุยระหว่างที่ทหารเดินเข้ามาบ้านกับพี่ชายของตน ระบุเรื่องเกี่ยวกับปัญหาระหว่างเจ้าหน้าที่ป่าไม้กับชาวบ้าน จึงคิดว่าน่าจะเป็นกรณีที่ตนได้ไปร่วมกับเครือข่ายลีซูเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการสอบสวน

กรณีเจ้าหน้าที่สายตรวจเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว 8 คน ได้ทำร้ายร่างกายนายเลื่อน ยี่ปา ชาวบ้านลีซู วัย 55 ปี โดยมีการตีด้วยพานท้ายปืนจนศีรษะแตก ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะกำลังเก็บเศษไม้ในพื้นที่ทำกินของตนเอง เนื่องจากความขัดแย้งเรื่องการใช้พื้นที่ป่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา

สำหรับ คะติมะ หลีจ๊ะ เคยได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ “ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน” ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เนื่องในโอกาสในวันสตรีสากลเมื่อปี 2560 และยังมีบทบาทเป็นผู้ประสานงานของเครือข่ายลีซูแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน

อ่าน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน