หลังเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อมีข่าวการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระบุเตรียมเรียกเก็บเงินจากผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ประมาณ 100-200 บาทต่อเดือน เพื่อนำเงินมาช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าปกติ รวมถึงนำเงินมาช่วยกฟผ.ที่ต้องลงทุนระบบแบ็คอัพไว้ เพื่อรองรับการกลับมาใช้ไฟฟ้าแบบปกติในตอนกลางคืน ก่อนโดนสังคมออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย

ล่าสุดนายสหรัฐ บุญโพธิภักดี โฆษกกฟผ. ออกมาชี้แจงว่า ตอนนี้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำลังพิจารณาศึกษาอัตราค่าไฟฟ้าสำรองที่เหมาะสมสำหรับผู้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปว่าขนาดกำลังผลิตติดตั้งเท่าใดจึงจะเข้าข่ายต้องถูกเรียกเก็บ ส่วนที่มีข่าวว่าจะเก็บในอัตรา 100-200 บาทต่อเดือนนั้น เป็นการเสนอที่คลาดเคลื่อน เพราะเป็นแค่การยกตัวอย่างที่ต่างประเทศเท่านั้น

นายสหรัฐเผยอีกว่า กฟผ.สนับสนุนพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ นอกจากนี้เตรียมระบบไฟฟ้ารองรับในการที่ประชาชนจะผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ใช้เอง เช่น การมีแบตเตอรี่สำรอง โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ การสร้างระบบส่งไฟฟ้ารองรับในพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งการพัฒนาระบบสมาร์ทกริด มาช่วยการบริหารจัดการระบบไฟฟ้า เพื่อให้ระบบไฟฟ้ายังมีความมั่นคง และมีค่าไฟฟ้าเหมาะสมเป็นธรรมกับผู้ใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ และประชาชนทั่วไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน