ศักดิ์สยาม สั่ง การบินไทย ทำร่างทีโออาร์จ้างที่ปรึกษาทาง “ การเงิน-กม.” เตรียมชงให้ นายก สแกน สกัดครหาล็อคสเปค –พร้อมสั่งทำบัญชีหนี้สิน ทรัพย์สิน สภาพคล่อง เสนอคมนาคมพิจารณา 26พ.ค.
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอพื้นฟูกิจการตามมติ ครม.วันที่ 19 พ.ค.ว่า ได้มีข้อสั่งการให้ฝ่ายบริหารของการบินไทยเร่งดำเนินการจัดทำรายละเอียดข้อมูลด้านต่างๆ เพื่อนำมาประกอบการจัดทำแผนเพื่อยื่นคำร้องต่อศาล โดยให้นำกลับมาเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาในวันอังคารที่ 26 พ.ค. โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.จัดทำบัญชีทรัพย์สิน, บัญชีหนี้สินทั้งในและต่างประเทศพร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาการชำระหนี้ โดยแยกออกเป็นแต่ละหน่วยธุรกิจให้ชัดเจน, บัญชีลูกหนี้และบัญชีสัญญาต่างๆที่การบินไทยทำไว้กับคู่สัญญาทั้งหมด
2.เสนอบัญชีรายชื่อบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์ สุจริตและมีธรรมาภิบาล เพื่อเข้ามานั่งเป็นคณะทำงานจัดทำแผน และรายชื่อผู้บริหารแผน โดยจะต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายล้มละลายและกฎกระทรวงของกระทรวงยุติธรรมกำหนด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าหนี้และศาล
โดยให้เสนอรายชื่อต่อกระทรวงคมนาคมภายในวันจันทร์ที่ 25 พ.ค. เพื่อให้สามารถรวบรวมรายชื่อทั้งหมด ซึ่งจะรวมรายชื่อในส่วนที่กระทรวงคมนาคมคัดเลือกมา เสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพิจารณาตัดสินคัดเลือกภายในวันที่ 26 พ.ค.
3.จัดทำร่างทีโออาร์ในการจัดจ้างที่ปรึกษาด้านการเงินและด้านกฎหมาย เสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาก่อน โดยทีโออาร์จะต้องวางกรอบการทำงานของที่ปรึกษาให้ชัดเจนว่าจะดำเนินการฟื้นฟูตามขั้นตอนอย่างไร ต้องกำหนดการยื่นซองข้อเสนอด้านราคา และข้อเสนอด้านเทคนิคพิเศษที่จะทำให้การบินไทยสามารถกลับมาพลิกฟื้นกิจการได้จริง
รวมทั้งต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาของงบประมาณที่จะใช้จัดจ้างที่ปรึกษาด้วยว่า โดยการจัดจ้างที่ปรึกษาต้องมีความโปร่งใสไม่มีข้อครหาเรื่องการล็อกสเปค ต้องอธิบายกับสังคมได้ โดยกระทรวงคมนาคมจะนำเสนอร่างทีโออาร์ ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง เพราะต้องการได้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญโปร่งใส ที่จะสามารถทำให้รัฐบาลฟื้นฟูการบินไทยได้สำเร็จ
4.จัดทำแผนการบริหารสภาพคล่องของบริษัทว่าจะบริหารจัดการอย่างไร รวมถึงแผนการหารายได้เข้ามาระหว่างนี้ แผนการเจรจาต่อรองขอชะลอการชำระหนี้ เพื่อนำสภาพคล่องที่เหลือมาดูแลบริหารจัดการค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าใช้จ่ายอื่นๆภายในองค์กร ซึ่งจะต้องชี้แจงให้สหภาพและพนักงานกว่า 2 หมื่นคนรับทราบ
5.ขอให้ฝ่ายบริหารการบินไทยร่วมมือในการให้ข้อมูลต่อคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในการบริหารงานกิจการของบริษัท และปัญหาการทุจริตบริษัท การบินไทย ที่นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม แต่งตั้งขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เจ้าหนี้ ว่าการบินไทยมีความตั้งใจแก้ไขและฟื้นฟูกิจการ
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา การบินไทยได้พยายามเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ เพื่อขอชะลอการจ่ายหนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุดการบินไทยสามารถรักษาสภาพคล่องไว้ใช้จ่ายเงินเดือนพนักงานและค่าใช้จ่ายอื่นได้ไปจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.63 และหากการบินไทยยื่นคำร้องขอฟื้นฟูต่อศาลได้ภายใน 3-4 สัปดาห์ และศาลรับคำร้อง คาดว่าการบินไทยจะสามารถบริหารจัดการยืดเวลารักษาสภาพคล่องต่อไปได้อีก 4 เดือนจนถึงสิ้นสุดในเดือนต.ค. 63 ซึ่งเป็นช่วงเป็นการบินไทยและเจ้าหน้าจัดทำแผนฟื้นฟูแล้วเสร็จ สามารถบริหารธุรกิจตามแผนฟื้นฟูได้ต่อไป
