เปิดคำร้อง การบินไทย ยื่นขอฟื้นฟูกิจการ ระบุชัดมีหนี้ล้นพ้นตัว หนี้มากกว่าทรัพย์ 2,857 ล้านบาท สารพัดเจ้านี้แห่ทวง เริ่มผิดนัดชำระหนี้แล้ว

วันที่ 13 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ได้เริ่มทยอยส่งอีเมล์แจ้งเตือนมายังลูกค้า โดยระบุว่า ตามที่ได้ทราบแล้วว่า ปัจจุบัน บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ แล้ว บริษัทฯ ขอแจ้งว่า ท่านอาจได้รับหนังสือ เอกสาร หรือข้อความจากศาลล้มละลายกลาง เกี่ยวกับการขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทผ่านทางระบบอีเมล์และเอสเอ็มเอส อันเป็นผลมาจากการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการดังกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่า แม้บริษัทจะมีความจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ แต่บริษัท ยังคงมีความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างดีที่สุด ในการดูแลลูกค้าทุกท่านที่ขอคืนค่าบัตรโดยสาร (Refund) รวมถึงในเรื่องสิทธิประโยชน์ของสถานภาพสมาชิกและไมล์สะสมที่มอบให้กับสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส ที่มีคุณค่าและมีความสำคัญอย่างยิ่งกับบริษัทฯ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการนี้ บริษัทจึงขอให้ลูกค้าทุกท่านมั่นใจและเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถก้าวผ่านวิกฤตและอุปสรรคครั้งใหญ่นี้และกลับมาเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านการบินที่แข็งแกร่ง เพื่อให้บริการแก่ท่านในฐานะลูกค้าผู้มีอุปการคุณอย่างสูงของบริษัท ได้ต่อไป

ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ทราบถึงสิทธิของลูกค้าและความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีฟื้นฟูกิจการของบริษัท ตามช่องทางต่าง ๆ ต่อไป บริษัทขอขอบพระคุณลูกค้าที่มีความเข้าใจและให้การสนับสนุนกิจการของบริษัทมาโดยตลอด และบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถกลับมาให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่านได้ในอนาคตอันใกล้นี้

เผยมีหนี้ล้นพ้นตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลูกค้าบางรายได้รับอีเมล์จากศาลล้มละลายกลาง โดยศาลได้จัดส่งรายละเอียดของคำร้องขอฟื้นฟูกิจการฉบับสมบูรณ์ จำนวน 292 ที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ยื่นต่อศาลเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการชี้แจงถึงเหตุผลความจำเป็น ที่บริษัทต้องยื่นขอฟื้นฟูกิจการ

โดยระบุว่า ปัจจุบันบริษัทมีภาระหนี้จำนวนแน่นอนรวมกันไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 2,857 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากหนี้สินถึงกำหนดชำระลูกหนี้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ และยังมีหนี้ที่กำลังจะถึงกำหนดชำระอีกจำนวนมาก ทำให้บริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่สามารถชำระหนี้ได้ จึงเป็นเหตุอันสมควรที่ต้องยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการกับศาลล้มละลายกลาง

โดย ณ วันที่ 31 มี.ค. บริษัทแจ้งว่ามีหนี้สิน รวมทั้งสิ้น 352,494 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.หนี้สินหมุนเวียน จำนวน 104,669 ล้านบาท เช่น เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้หมุนเวียนอื่น 13,642 ล้านบาท ,เงินกู้ยืนระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 3,768ล้านบาท, หนี้สัญญาเช่าเครื่องบิน 7,504 ล้านบาท, หุ้นกู้ 10,085 ล้านบาท, รายรับด้านขนส่งที่ยังไม่ถือเป็นรายได้ 18,093 ล้านบาท เป็นต้น และ 2.หนี้สินไม่หมุนเวียน 247,824 ล้านบาท เช่น หนี้เงินกู้ระยะยาวสถาบันการเงิน 4,743 ล้านบาท, หุ้นกู้ 64,023 ล้านบาท, เงินกองทุนบำเหน็จพนักงาน 3,693 ล้านบาท เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทมีสินทรัพย์รวม 349,636 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.สินทรัพย์หมุนเวียน 52,320 ล้านบาท เช่น เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 22,947 ล้านบาท ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้หมุนเวียน 17,120 ล้านบาท สินค้าและพัสดุคงเหลือ 4,559 ล้านบาท เป็นต้น และ 2.สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 297,316 ล้านบาท เช่น ลูกหนี้สัญญาเช่า 6,471 ล้านบาท,

เงินลงุทนในบริษัทร่วม 1,234 ล้านบาท, เงินลงทุนในบริษัทย่อย 1,810 ล้านบาท ,ที่ดินอาคารและอุปกรณ์ 163,848 ล้านบาท, เงินประกันการบำรุงรักษาเครื่องบิน 14,739 ล้านบาท เป็นต้น ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าบริษัทมีภาระหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 2,857 ล้านบาท ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นติดบล ลูกหนี้มีทรัพย์สินไม่พอกับหนี้สิน

การบินไทย เริ่มผิดนัดชำระหนี้

นอกจากนี้ ลูกหนี้ยังไม่สามารถชำระหนี้ที่ถึงกำหนดชำระ ณ วันที่ 21 พ.ค.63 จำนวน 10,200 ล้านบาท เช่น เจ้าหนี้การค้าที่อยู่ต่างประเทศ 5,472 ล้านบาท, เจ้าหนี้ค่าน้ำมัน 2,256 ล้านบาท, เจ้าหนี้การค้าในประเทศ 1,333 ล้านบาท, เจ้าหนี้หน่วยงานรัฐ เช่นกรมสรรพากร สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 994 ล้านบาท, เจ้าหนี้สายการบินอื่นและสมาคมInternation Air Association 57 ล้านบาท, เจ้าหนี้ตันแทยขายตั๋วโดยสาร 13 ล้านบาท เป็นต้น

รวมทั้งเจ้าหนี้ทั้งในและต่างประเทศหลายราย ยังได้ส่งหนังสือปฏิเสธการผ่อนชำระหนี้ แจ้งการผิดนัด ตลอดจนทวงถามให้บริษัทชำระหนี้ และเตรียมหักเงินประกันตามสัญญาจากกรณีผิดนัดชำระหนี้มาด้วย เช่น ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด(มหาชน) ได้ปฏิเสธการขอขยายระยะเวลาวงเงินสินเชื่อระยะสั้นประเภทตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 1,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทผิดนัดชำระหนี้ทันที,

กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ส่งหนังสือให้ชำระหนี้ค่าทำการนอกเวลาราชการเป็นจำนวนเงิน 53 ล้านบาท, สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง มีหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังนำมาให้บริษัทกู้ยืมต่อ จำนวน 15,000 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องบินแอร์บัส 380-800 จำนวน 2 ลำ, บริษัท แอร์แคป ไอร์แลนด์ แคปปิทัล ดีซิคเนท แอคทิวิตี้ ผู้ให้เช่าเครื่องบิน โบอิ้ง 787-8 และเครื่องยนต์ Roll Royce Trent 1000-AE จำนวน 2 เครื่อง ได้แจ้งว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้ค่าเช่าเครื่องบินและเงินอื่น ๆ ตามสัญญา 73 ล้านบาท ผู้ให้เช่าจึงหักเงินจำนวนดังกล่าวออกจากเงินประกัน,

บริษัท โกลด์ฟิซ ฟันดิ้ง จำกัด ในฐานะผู้ให้เช่าเครื่องบิน โบอิ้ง787-9 และเครื่องยนต์ Royce Trent 1000-D2 จำนวน 2 เครื่อง ได้แจ้งว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้ค่าเช่า และเงินอื่น จำนวน 96 ล้านบาท ผู้ให้เช่าจึงหักเงินจำนวนดังกล่าวออกจากเงินประกัน เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทยังมีค่าใช้จ่ายรายเดือนที่จำเป็นต่อการดำเนินการค้าตามปกติของลูกหนี้ แม้ว่าบริษัทจะหยุดทำการบินจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติอเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เช่น ค่าจ้างพนักงาน จำนวน 21,265 คน คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 1,400 ล้านบาท/เดือน ,ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินประมาณ 23 ล้านบาท/เดือน, ค่าบำรุงรักษาเครื่องบิน 185 ล้านบาท เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน