บล็อกเกอร์สาวยื่นกมธ.หนุนฉีดยาอวัยวะเพศจอมข่มขืนให้ฝ่อ “เต้ มงคลกิตติ์” บอกขอตายดีกว่าโดนฉีดให้ฝ่อ พิเรนทร์ คิดได้ เสนอจัดรัฐสวัสดิการจับหญิงบริการตีทะเบียน บำบัดทางเพศ

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.เวลา 11.00 น.ที่รัฐสภา น.ส.ข้างกาย เอรียาสกุล บล็อกเกอร์สาวทางสื่อออนไลน์ที่ให้คำปรึกษาเรื่องการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ในฐานะผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ตั้งแต่อายุ 4 ปี – 17 ปี จากผู้กระทำถึง 16 คน จากเพื่อนบ้าน เพื่อนพ่อ แม่ และญาติพี่น้องของตัวเอง เข้ายื่นหนังสือต่อนายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไทในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเรา และล่วงละเมิดทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อสนับสนุนแนวทางการลงโทษขั้นสูงสุดในคดีข่มขืน โดยให้ฉีดยาผู้กระทำผิดให้หมดสมรรถภาพเพศ เพื่อยุติความต้องการทางเพศ ให้เกิดความเป็นธรรมกับเหยื่อ เนื่องจากเห็นว่าการปรับจับ และขัง เป็นการลงโทษที่ไม่เพียงพอ

โดยนายโกวิทย์ กล่าวว่า กรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หารือและพิจารณากันอย่างต่อเนื่องเรื่องบทลงโทษของผู้ที่ข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งเวลานี้มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับบทลงโทษที่ให้ฉีดอวัยวะเพศให้ฝ่อ

ด้านน.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเลขานุการ กมธ.วิสามัญฯ กล่าวว่า สนับสนุนน.ส.ข้างกายที่กล้าออกมาเปิดเผยข้อมูลของตัวเอง เพื่อให้ผลักดันให้เกิดแนวทางแก้ปัญหาล่วงละเมิดทางเพศ และสนับสนุนแนวทงการฉีดอวัยวะเพศให้ฝ่อแก่ผู้กระทำผิด แต่กมธ.คงต้องนำแนวทางดังกล่าวไปพิจารณาศึกษาให้รอบคอบก่อน

ขณะที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะที่ปรึกษากมธ. กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าในกมธฯ ตนจะเสนอแนวทางเรื่องการทำเซ็กส์ทอยให้ถูกกฎหมายในประเทศ เพื่อนำมาใช้ในการบำบัดความต้องการทางเพศ ลดปัญหาการข่มขืน รวมทั้งจะเสนอแนวทางแก้ปัญหาเหมือนประเทศญี่ปุ่นที่ให้รัฐบาลจัดสวัสดิการบำบัดเพศแบบเดลิเวอรี่ในลักษณะมูลนิธิจัดผู้หญิงมาให้บริการทางเพศแก่ผู้สูงอายุ ผู้ขาดโอกาสเข้าถึงเรื่องการบริการทางเพศ เรียกว่าเป็นรัฐสวัสดิการ และในมุมทางการแพทย์ถือเป็นการรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ถือเป็นการป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศ

“หากประเทศไทยจะจัดรัฐสวัสดิการทางเพศลักษณะนี้ได้ ต้องนำผู้หญิงบริการมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องก่อน เหมือนนำสิ่งผิดกฎหมายมาอยู่บนดิน มีการเสียภาษี เพื่อนำมาบำบัดทางเพศคนทุกกลุ่มทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เกย์ เลสเบี้ยน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ภรรยาเสียชีวิต หรืออยู่บ้านเฉยๆที่อย่างน้อยควรได้ออกกำลังกายทางเพศ เดือนละ 8ครั้ง เพราะเหตุที่เกิดการข่มขืนจากคนในครอบครัว เนื่องจากไม่มีเงิน ใกล้มือ จึงใช้อิทธิพลความเป็นญาติไปกดขี่ ดังนั้นหากได้ปลดปล่อยก็จะไม่มีความต้องการอีก”นายมงคลกิตติ์ กล่าว

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า รัฐต้องจัดสวัสดิการเหล่านี้ให้เหมือนกับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ยืนยันไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรม เพราะที่ผ่านมา 2,500 ปี ก็ยังมีปัญหาการละเมิดทางเพศอยู่ ทั้งนี้ข้อสรุปทั้งเรื่องการฉีดยาให้ฝ่อ เรื่องเซ็กส์ทอย และรัฐสวัสดิการบำบัดทางเพศนั้น กมธ.จะนำมาหารือ คาดว่าจะได้สรุปภายในเดือนก.ค.นี้

เมื่อถามว่า ถ้าไปกระทำความผิดแล้วฉีดให้ฝ่อจะยอมหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า “ขอตายดีกว่า ประหารชีวิตไปเลย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน