PDRC ศูนย์วิจัยโรคปรสิต สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้โพสต์เตือนถึงผู้ที่ชอบลงเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือ ใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ว่า มีสิ่งที่ต้องระมัดระวัง เพราะอาจจะพบพยาธิไปติดเชื้อที่ตาหรือเข้าสู่ร่างกายได้ โดยโพสต์ระบุว่า “อาบน้ำ ว่ายน้ำในบ่อ บึง หนองตามธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งล้างพืชผักน้ำแล้วสัมผัสตา ก็สุ่มเสี่ยงต่อการติดพยาธิที่ตาได้

-> มีพยาธิใบไม้ตาหลายชนิดที่ก่อให้เกิดพยาธิสภาพที่ตา อาทิ Philophthalmus lacrimosus, Philophthalmus palpebrarum, Procerovum varium, Clinostomum spp. เป็นต้น ปกติจะพบในนกกินปลา และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

->การติดต่อพยาธิใบไม้ตา เกิดจากการเล่นน้ำ อาบน้ำ ว่ายน้ำตามบึง บ่อ หนอง สระน้ำตามธรรมชาติ มีระยะตัวอ่อนทั้ง cercaria และ metacercaria ของพยาธิที่อยู่ในน้ำหรือเกาะอยู่ตามพืชน้ำอาจจะเข้าสู่คนเราทางตาขณะอยู่ในน้ำหรือสัมผัสกับน้ำ

-> ดังเช่นผู้ป่วยที่ประเทศอินเดียจำนวน 113 ราย (Sivakumar R Rathinam และคณะ 2002) และผู้ป่วยในประเทศอียิปต์ (Amin RM และคณะ 2019) ในประเทศไทย เคยมีรายงานเคสผู้ป่วยเช่นกัน เป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 31 ปี อยู่ที่จังหวัดระยอง ส่วนสาเหตุการติดเชื้อไม่เป็นทราบชัดเจน สันนิษฐานว่าเกิดจากการล้างผักแล้วอาจจะใช้มือมาสัมผัสกับตา (Waikagul J และคณะ 2006)

-> พยาธิสภาพที่เกิดขึ้น อาจจะทำให้เยื่อตาอักเสบ กระจกตาบวม รูทะลุที่ม่านตา เป็นต้น ส่วนการรักษา ให้ยา praziquantel และผ่าตัดเอาพยาธิออก พร้อมกับยาต้านการอักเสบและต้านการติดเชื้อ

ดังนั้นแล้ว หากท่านชื่นชอบว่ายน้ำในบ่อธรรมชาติ โดยเฉพาะเด็กๆ ถ้ามีอาการอักเสบ ปวดตา มีประวัติว่ายน้ำ เล่นน้ำ ตามบึง บ่อ สระ ก็ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที เพื่อตรวจวินิจฉัยให้ทันท่วงที”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน