กรมสรรพากร สั่งทีมเกาะติด เงินบริจาค-เงินเข้าบัญชี ฌอน บูรณะหิรัญ รอพิสูจน์ชัดได้ 8 แสนจริงมั้ย หลังยื่นแบบพร้อมสอบภาษีปี 2564
จากกรณีสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีนักสร้างแรงบันดาลใจชื่อดัง ‘ฌอน บูรณะหิรัญ’ รับบริจาคเงินช่วยดับไฟป่าในเชียงใหม่ ได้เงิน 8 แสนบาท ก่อนถูกตั้งข้อสังเกตถึงการรับบริจาคและใช้เงินอาจผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ทำให้กรมสรรพากรเตรียมเข้าไปติดตามเรื่องนี้นั้น
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า สั่งการทีมงานของกรมติดตามเรื่องนี้ โดยให้นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน กรณีการออกใบเสร็จรับเงินในการใช้จ่ายเงินบริจาคในนามบริษัทตนเอง ของนาย ฌอน บูรณะหิรัญ เพราะมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ที่ต้องชี้แจงให้เข้าใจตรงกัน
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
กรมสรรพากรยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียภาษีได้ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย ขณะเดียวกันรายได้ที่เกิดระหว่างปี 2563 จะต้องยื่นในช่วงต้นปี 2564 ซึ่งถึงขณะนั้นถึงจะตรวจสอบการยื่นภาษีความครบถ้วนและถูกต้องหรือไม่
“เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่เกี่ยวข้องกับบุคคล ซึ่งกรมสรรพากรไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของผู้เสียภาษีได้ แต่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมแล้ว ก่อนดำเนินการใดๆ ต่อไป”นายเอกนิติ กล่าว
นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ ขณะนี้ยังถือเป็นรายได้ของนายฌอนในปี 2563 ซึ่งจะต้องไปยื่นแบบภาษีในปี 2564 กรมจึงสามารถเข้าไปตรวจสอบรายได้ทั้งหมดในตอนนั้น ว่านายฌอนมีการยื่นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้ถูกต้องหรือไม่
ผู้ที่ตั้งตนรับเงินบริจาคตามหลักการ ถ้ามีเงินเข้ามา 100 บาท ต้องบริจาคออกหมด 100 บาท เพื่อได้รับยกเว้นภาษี ไม่สามารถแบ่งไปทำอย่างอื่นได้ โดยนายฌอนต้องไปพิสูจน์ให้ได้ว่า รายได้ทั้งหมดในปี 2563 รวมเงินบริจาคที่เข้าบัญชีส่วนตัว มีที่มาอย่างไร และจ่าย หรือบริจาคเท่าไหร่
“เงินที่เข้าบัญชีทุกบาท ถือเป็นเงินได้ ที่ได้รับมา ต้องเสียภาษี เว้นแต่ว่าจะมีการตั้งตน เป็นผู้รับบริจาค กรณีนี้ถ้าเงินเข้าบัญชี 100 บาท ก็ต้องออกหมดทั้ง 100 บาท ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ ซึ่งนายฌอนต้องพิสูจน์ให้กรมทราบ”
ส่วนกรณีที่มีการออกบิลซื้อสิ่งของบริจาคเป็นชื่อบริษัท ก็เป็นคนละส่วนกับเงินที่เข้าบัญชีส่วนตัวของนายฌอน ซึ่งตามกฎหมาย หากมีการบริจาคในรูปแบบของบริษัท ก็มีการหักใช้จ่ายจากการบริจาคได้ แต่ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เป็นรายได้ของบริษัท ที่นำไปใช้บริจาค ไม่ใช่รายได้ส่วนตัว
โดยยืนยันว่ากรมสามารถตรวจสอบจำนวนเงินที่เข้าบัญชีทั้งหมด หลังจากที่นายฌอนยื่นแบบรายได้ปี 2563 กรมก็จะเข้าไปตรวจสอบว่า มียอดบริจาค 8 แสนบาทหรือไม่ เพื่อที่จะดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
