กทม.ประกาศคลายล็อกเพิ่ม 6 สถานที่ รับผ่อนปรนเฟส 5 เริ่ม 1 ก.ค. ทั้งโรงเรียน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด โรงน้ำชา

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ศาลาว่าการกทม. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกทม. แถลงผลประชุมแถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) ซึ่งมีพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานการประชุมว่า

วันนี้เป็นวันที่ 40 ในกรุงเทพฯ ไม่พบผู้ติดโควิด ถือเป็นข่าวดี แต่ยังต้องไม่ประมาท เพราะในต่างประเทศยังพบการระบาดในเฟสที่ 2 ซึ่งมาจาก 2 สถานที่ 1.สถานบริการ 2.โรงเรียน ซึ่งทั้ง 2 สถานที่ดังกล่าวจะมีการผ่อนปรนตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป ดังนั้นการออกนโยบายด้านใดต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้ 2 กิจการดังกล่าวสามารถดำเนินต่อไปได้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ส่วนข้อกำหนด รายละเอียดมาตรการควบคุมดูแลสถานที่ผ่อนปรนให้เปิดเพิ่มเติมระยะ 5 ต้องรอทางรัฐบาลประกาศออกมาก่อน เพราะทุกอย่างจะต้องทำให้สอดคล้องศบค.

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

โดยมีการผ่อนปรนสถานที่เพิ่มเติม 6 สถานที่ ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป ประกอบด้วย

1.โรงเรียน สถาบันการศึกษา และมหาวิทยาลัยต่างๆ ให้เปิดได้ปกติตามมาตรการป้องกันที่กระทรวงศึกษาธิการและกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยต้องระมัดระวังอย่างใกล้ชิดใน 1 เดือนจากนี้

2.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ ให้เปิดได้ถึงเวลา 22.00 น.

3.สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ และสถานบันเทิง ให้มีการเว้นระยะห่าง มีระบบติดตามตัว จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการตามจำนวนโต๊ะ มีการเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ และผู้แสดงดนตรีบนเวที มีฉากกั้น และไม่ให้มีพื้นที่สำหรับเต้นโดยเฉพาะ การบริการลูกค้าไม่ให้มีผู้บริการนั่งโต๊ะลักษณะใกล้ชิด ซึ่งจะออกมาตรการรายละเอียดให้สอดคล้องตามข้อกำหนดที่ ศบค.จะออกมาในวันนี้

4.ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ศูนย์อาหาร ภัตตาคาร และโรงแรม ขยายเวลาจำหน่ายสุราได้เพิ่มอีก 1 ชม.

5.ร้านเกมและร้านอินเตอร์เน็ต เปิดได้โดยจำกัดช่วงเวลา ตามกฎหมายเยาวชน และต้องทำความสะอาดทุก 2 ชม.

6.อาบอบนวด โรงน้ำชา ต้องมีการลงทะเบียนผ่านแอพ “ไทยชนะ”

ทั้งหมดเป็นหลักการคร่าวๆ ซึ่งเมื่อทาง ศบค.ออกมาตรการข้อกำหนดต่างๆแล้ว กทม.จะออกประกาศข้อกำหนดรายละเอียดที่ชัดเจนของแต่ละสถานที่ในวันนี้ต่อไป

ร.ต.อ.พงศกร กล่าวต่อว่า สำหรับการเปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป กทม.พยายามให้นักเรียนไปเรียนที่โรงเรียนให้ได้มากที่สุด แต่จะมี 122 แห่งต้องเหลื่อมวันเรียน หรือสลับเวลาเรียนสำหรับเด็กโตบางส่วน โดยในช่วงเวลาอื่นที่ไม่ได้เรียนจะเรียนออนไลน์แทน โดยกทม.ได้ร่วมกับโรงเรียนดัง เช่น เตรียมอุดมศึกษา สวนกุหลาบ สาธิต มศว. ประสานมิตร บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) มหิดลวิทยานุสรณ์ ผลิตสื่อการสอน เพื่อทดแทนการเรียนในห้องเรียน นอกจากนี้ยังได้มีมาตรการเว้นระยะห่าง เหลื่อมเวลาเข้าเรียน พักรับประทานอาหาร และเลิกเรียน ด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน