ระดมล่าแก๊งมีสีนอกแถว สวมรอยบุกรีดทรัพย์- ฆ่าโหด 8 ศพ รู้จักกันในนามแก๊งตีกิน-แก๊งตีไก่ มีพฤติกรรมรับเฝ้าสวน-เรียกค่าคุ้มครอง ชี้ในพื้นที่มีคดีเช่นนี้เพียบ พยานแฉทีมฆ่ายังใส่หมวกเหล็ก-ชุดกันกระสุน พบคนร้ายปิดห้องคุยกับผู้ใหญ่บ้านอยู่นาน แถมโทร.ไปหาเพื่อนคนหนึ่งด้วย ตร.นำชุดลายพราง-รองเท้าคอมแบตไปให้พยานยืนยัน อีกครั้ง พบผู้ใหญ่บ้านมีหนี้แล้วนำที่ดินไปจำนองกับผู้มีอิทธิพล จนช่วงหลังโดนข่มขู่ให้นำเงินมาไถ่ถอนที่ดิน ด้านพฐ.พบกระสุน 13 หัว 11 ปลอก ชี้ทั้ง 11 คนโดนปืน .38 ของผู้ใหญ่บ้านยิงทั้งหมด เร่งเช็ก 4 กล่องข้าวที่เจอในบ้านด้วย ผบ.ตร.ยันยังไม่จับผู้ต้องสงสัย ส่งทีมไปหาข้อมูลที่ตรัง-ระนอง โดยสอบคนขอใบอนุญาตโรงโม่หิน พร้อมตัดปมชู้สาวทิ้งแล้ว เชื่อคนร้ายไม่ตั้งใจฆ่า 8 ศพ แต่อาจเป็นเหตุบานปลาย

จากคดีสะเทือนขวัญกลุ่มชายฉกรรจ์ 6-7 คน แต่งชุดลายพรางพร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าไปในบ้านนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ แล้วจับคนในบ้านไว้ รอจนนายวรยุทธเข้ามาแล้ว ก่อเหตุยิงโหด 8 ศพ ก่อนหลบหนีไปพร้อมรถเก๋งยาริสของผู้ตาย ด้านตร.ชี้เป็นมืออาชีพ หลังก่อเหตุได้ทำลายหลักฐานและเอาฮาร์ดดิสก์วงจรปิดไปด้วย พร้อมตั้งปมขัดแย้ง 5 ประเด็น ประกอบด้วย การเมืองท้องถิ่น โรงโม่หิน ฟ้องขับไล่รุกที่สาธารณะ ชู้สาว และยาเสพติด ตามที่ข่าวสดนำเสนอไปก่อนหน้านี้

สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 14 ก.ค. หลังจากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ลงพื้นที่จ.กระบี่ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีนี้อีกครั้ง โดยมีพล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รองผบ.ตร. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ10) พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ส. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ศชต. พล.ต.ท. สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7 และพล.ต.ต. สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่กระจายหาเบาะแสความเชื่อมโยงกลุ่มคนร้ายที่ลงมือสังหารโหด

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมวางแผนติดตามกลุ่มคนร้าย พล.ต.อ.จักรทิพย์สั่งการให้เพิ่มประเด็นหาแก๊งคนมีสีนอกแถว เนื่องจากได้เบาะแสล่าสุดมาว่า มีกลุ่มที่มีพฤติกรรมตบทรัพย์ รีดไถและปล้นทรัพย์ โดยแก๊งเหล่านี้เมื่อได้ข่าวคนในพื้นที่รายใดได้เงินทองหรือทรัพย์สินจำนวนมากก็จะวางแผนชิงทรัพย์ โดยจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นยาเสพติดในบ้านเป้าหมาย แต่จะมุ่งเอาทรัพย์สินเป็นเงินก้อนที่มีข่าวว่าเจ้าของบ้านเพิ่งได้มา ซึ่งพฤติกรรมของแก๊งฆ่า 8 ศพก็มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยแก๊งนี้อาจทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่และคงเข้าใจว่า นายวรยุทธเพิ่งได้เงินจากนักลงทุนก้อนใหญ่ จึงมาก่อเหตุ โดยแก๊งดังกล่าวรู้จักกันในนามแก๊งตีกินหรือแก๊งตีไก่ ที่เป็นกลุ่มคนมีสีนอกแถวมารวมตัวกันรับงาน

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ข้อมูลกลุ่มคนมีสีนอกแถวในพื้นที่ ซึ่งเข้ามารับจ้างเฝ้าสวนปาล์มและสวนยางในจ.กระบี่ และจ.พังงา โดยกลุ่มคนมีสีนอกแถวเหล่านี้มีการติดอาวุธ จนเป็นที่รู้กันในหมู่ชาวสวนว่าเป็นกลุ่มคนมีสีรับจ้างมาป้องกันขโมยในสวนยางและสวนปาล์ม แต่มีบางกลุ่มที่คอยเรียกเก็บเงินค่าคุ้มครองจากเจ้าของสวนด้วย หากเจ้าของสวนไม่จ่ายเงินก็จะเข้าทำลายสวนจนได้รับความเสียหาย ซึ่งมีคดีลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ โดยชุดสืบสวนกำลังหาเบาะแส เพราะเชื่อว่าอาจรู้เห็นกับการก่อเหตุหรืออาจมีเบาะแสสำคัญที่จะนำไปสู่ตัวคนร้ายได้

ขณะที่การสอบปากคำพยานที่รอดชีวิตมาได้ เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลคืบหน้ามากขึ้น โดยพยานรายหนึ่งเล่าว่า หลังจากถูกจับอยู่ในบ้านและนายวรยุทธกลับมาถึง คนร้ายได้เจรจากับนายวรยุทธในห้องเป็นการส่วนตัว เหมือนตกลงผลประโยชน์กันไม่ได้ จากนั้นคนร้ายที่มีอยู่ 5-6 คน ส่วนใหญ่แต่งกายชุดลายพราง ใส่หมวกเหล็ก สวมชุดกันกระสุนและถืออาวุธปืนยาว ได้ลงมือสังหารคนในบ้านอย่างเหี้ยมโหดทีละคน

พยานให้การอีกว่า กลุ่มคนร้ายใช้เวลาเพียง 2 นาทีในการสังหารโหด ส่วนตัวเองรอดชีวิตมาได้ เนื่องจากคนร้ายใช้ปืนจ่อหัว แต่กระสุนเกิดพลาดเป้าและตัวเองเป็นลมหมดสติไป ซึ่งยืนยันว่ากลุ่มคนร้ายพูดภาษากลาง และมีเพียงคนเดียวที่สวมหมวกไหมพรม จึงคิดว่าคนที่สวมหมวกไหมพรมนั้น น่าจะเป็นคนในพื้นที่และกลัวคนในบ้านจำหน้าได้

ทีมสืบสวนยังได้ตรวจสอบทางเทคนิคพบด้วยว่า หลังนายวรายุทธกลับเข้าบ้านพักในเวลา 20.00 น.และถูกควบคุมตัวไว้ จากนั้นเวลา 21.30 น. นายวรายุทธได้โทรศัพท์ติดต่อกับเพื่อนคนหนึ่งและพูดคุยกันนาน 10 นาที ชุดสืบสวนจึงเชื่อว่าเพื่อนของนายวรายุทธคนนี้อาจทราบถึงชนวนเหตุของคดีก็เป็นได้

ขณะที่ตำรวจกองปราบปรามอีกชุดได้นำชุดลายพรางและรองเท้าคอมแบต รวมทั้งหมวกเหล็กมาจำลองเหตุการณ์ เพราะเป็นชุดที่คนร้ายสวมใส่ในวันก่อเหตุตามคำให้การของพยานและนำไปให้พยานดู เพื่อเปรียบเทียบความเหมือนและแตกต่างด้วย

ทำให้ตอนนี้ชุดสืบสวนเริ่มขมวดแนวทางการคลี่คลายคดีให้แคบลงมา โดยวิเคราะห์จากพฤติกรรมกลุ่มคนร้าย น่าจะเป็นกลุ่มที่รับงานทวงเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่านายวรยุทธอาจไปรับเงินจากกลุ่มนายทุน เพื่อนำมาเคลียร์ปัญหาในพื้นที่ แต่นายวรายุทธไม่สามารถจัดการปัญหาได้ จึงเกิดความขัดแย้งกับกลุ่มนายทุน ส่วนที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น เป็นเพราะมี คนอื่นเดินทางเข้าไปในบ้านของนายวรยุทธ โดยที่ไม่คาดคิดว่ามีเหตุร้าย จึงทำให้กลุ่มมือปืนตัดสินใจฆ่าปิดปาก

นอกจากนี้ทีมสืบสวนยังเรียกตัวเพื่อนคนหนึ่งของนายวรายุทธมาสอบปากคำและทราบว่า ในระยะแรกนายวรยุทธมีฐานะที่ร่ำรวยอย่างผิดหูผิดตา แต่มาระยะหลังนายวรายุทธเกิดเป็นหนี้ โดยนำที่ดินไปจำนองกับผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในพื้นที่ เพราะมีปัญหาการเงินอย่างรุนแรง ก่อนตายยังติดต่อยืมเงินจากเพื่อนสนิทคนหนึ่ง 5 แสนบาทด้วย จนเริ่มมีอาการเคร่งเครียด เพราะโดนข่มขู่ให้นำเงินมาไถ่ถอนที่ดิน

ส่วนกองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบ หัวกระสุนจากร่างผู้เสียชีวิตและที่ตกอยู่จุดเกิดเหตุ พบหัวกระสุน 13 หัว และปลอกกระสุน 11 ปลอก ขณะนี้ผลการตรวจยืนยันแล้วว่า กระสุนที่ใช้สังหารมาจากปืนกระบอกเดียว กันคืออาวุธปืนขนาด .38 ซึ่งเชื่อว่าเป็นของนายวรยุทธ ส่วนการเปรียบเทียบวีถีการยิงนั้น คนร้ายก่อเหตุในลักษณะจ่อยิงทั้ง 11 ราย โดยจำนวนนี้มี 2 รายคือเด็กที่รอดชีวิต 2 คนวัย 13 ปี และ 5 ขวบ พบว่านั่งอยู่บนพื้นแล้วคนร้ายจ่อยิง แต่เด็กทั้งคู่ได้ยกมือขึ้นมาบัง ทำให้กระสุนยิงเข้าฝ่ามือขวาก่อนกระสุนจะแฉลบไปถูกศีรษะ ทำให้รอดชีวิต เนื่องจากลดแรงกระแทกและกระสุนเฉี่ยวไป นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังเก็บหลักฐานเป็นขวดน้ำดื่มและกล่องข้าวที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อ 4 กล่อง ซึ่งเชื่อว่าเป็นของคนร้ายและอยู่ระหว่างเก็บดีเอ็นเอมาตรวจสอบ

จากนั้นในช่วงเย็นที่บก.ภ.จว.กระบี่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยกล่าวว่า ยืนยันตอนนี้ยังไม่มีการจับตัวผู้ต้องสงสัย ส่วนการเรียกตัวเพื่อนสนิทนายวรยุทธมา สอบปากคำอีกครั้งนั้น เจ้าหน้าที่สามารถเรียกมาให้ปากคำได้

เมื่อถามว่าตอนนี้ทราบกลุ่มคนร้ายที่ ก่อเหตุแล้วหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่พยายามทำอย่างเต็มที่ โดยมีทีมลงไปหาข้อมูลที่จ.ตรังและจ.ระนอง เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกับจ.กระบี่ ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง โดยตอนนี้มีความคืบหน้าไปแล้ว 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 40 เปอร์เซ็นต์กำลังเร่งพิสูจน์

เมื่อถามว่ากลุ่มคนร้ายมาจากซุ้มจ.ชุมพรหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ไม่รู้มาจากไหน แต่ยืนยันส่งตำรวจไปหาเบาะแสยังจ.ตรังและจ.ระนอง โดยจ.ตรังไปเพราะมีตัวละครอยู่ ยืนยันมีข่าวดีแน่นอน แต่บอกไม่ได้ว่าอีกกี่วัน

เมื่อถามถึงปมคนร้ายพยายามรีดทรัพย์สิน ผบ.ตร.กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งปมโรงโม่หิน ความขัดแย้ง และยาเสพติด แต่ที่ตัดได้ตอนนี้คงเป็นปมชู้สาว ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบเส้นทางการเงินคนตาย

เมื่อถามถึงการตรวจพิสูจน์หลักฐานในบ้านที่เกิดเหตุว่าเจอดีเอ็นเอคนร้ายหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ยัง แต่ยืนยันปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนของผู้ใหญ่บ้านที่ใช้ยิงทั้งหมด แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่าเจอเขม่าดินปืนที่มือผู้ใหญ่บ้านหรือไม่

ด้านพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ10) กล่าวว่า สำหรับแนวทางการสืบสวนตอนนี้คืบหน้าไปหลายประเด็น โดยการตรวจเช็กกล้องวงจรปิดพบข้อมูลรถต้องสงสัยหลายคัน แต่ยังยืนยันไม่ได้ โดยกำลังเร่งสืบขยายผลและพยายามหารถโดยแยกเป็น 2 ส่วน ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบในพื้นที่ไม่ไกลมาก แต่บางจุดกล้องเสียและไม่ได้ทิศทาง จึงต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม

“ตอนนี้พบรถหลายคัน โดยอยู่ระหว่างหาข้อมูลมาหักล้างและหาข้อมูลชี้ชัดว่าใช่รถคนร้ายหรือไม่ โดยยังไม่มีข้อมูลพบรถต้องสงสัยในปั๊มน้ำมัน ส่วนคนร้ายจะเปลี่ยนรถหรือไม่ เรื่องนี้อยู่ที่พยานหลักฐาน

เมื่อถามถึงสาเหตุที่คนร้ายขโมยรถยาริสของคนตายไปด้วย พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นในเบื้องต้นว่าคนร้ายไม่มีรถหลบหนีหรือผู้ก่อเหตุต้องการหลบหนีไปคนละเส้นทาง โดยกำลังตรวจสอบที่มารถ ยาริสด้วย แต่รายละเอียดไม่สามารถเผยได้

เมื่อถามว่ารู้ตัวกลุ่มคนร้ายหรือยัง พล.ต.อ. สุชาติกล่าวว่า เชื่อว่าคนร้ายไม่น่าตั้งใจก่อเหตุฆ่า 8 ศพ แต่อาจเป็นเหตุบานปลาย เพราะมีหลักฐานบางอย่าง ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนว่าเหตุใดคนร้ายถึงอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุนาน

เมื่อถามว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า เป็นแค่การอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีพฤติกรรมแอบอ้างใช้หมายค้น ซึ่งจะเป็นเจ้าหน้าที่หรือไม่ ต้องรอดูหลักฐานประกอบ แต่มีแนวโน้มว่าเป้าหมายจริงๆ คือผู้ใหญ่บ้าน

เมื่อถามว่าในช่วงเกิดเหตุคนร้ายยืนได้นานหลายช.ม. ต้องมีการฝึกมาอย่างดีหรือไม่ พล.ต.อ.สุชาติกล่าวว่า เราตั้งสมมติฐานได้ แต่ต้องมีหลักฐานเพิ่มเติม

ขณะที่พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รองผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับการสอบสวนในคดีนี้นั้น ยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่ได้ควบคุมตัวนายเชษฐ์ดนัย ถิ่นพังงา หรือโกเสริฐ เพื่อนสนิทของผู้ใหญ่บ้าน แต่จากการสอบปากคำก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ถามโกเสริฐถึงความสัมพันธ์กับตัวละครในคดี ซึ่งการสอบสวนได้ส่ง เจ้าหน้าที่ไปคุยทุกประเด็นกับทุกคน อย่าง ที่จ.ตรัง ก็ส่งไปคุยด้วย เพราะคนที่ขอใบอนุญาตโรงโม่หินเป็นคนตรัง โดยถ้าใครอยากมาพบเจ้าหน้าที่ก็พร้อมสอบ

ส่วนนายเชษฐ์ดนัย ถิ่นพังงา หรือโกเสริฐ และภรรยา ซึ่งทั้งสองเป็นเพื่อนคนสนิทนายวรยุทธ กล่าวภายหลังเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่รอบ 2 ว่า ขณะนี้ตนต้องตกเป็นจำเลยสังคม ในฐานะผู้ต้องสงสัยเป็นผู้บงการในครั้งนี้ จึงขอความเป็นธรรม โดยขอยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำอย่างนั้นและจะส่งเสียลูกของผู้เสียชีวิตด้วย ส่วนธุรกิจโรงโม่หินนั้น เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบเส้นทางทางการเงินได้ และตอนนี้มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน