หมอธีระวัฒน์ เผยไทยเฝ้าระวัง โรคไข้หวัดหมู G4 อย่างดี พบผสมควบรวม “นก -คน –หมู” แนะประชาชนสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง สามารถป้องกันโรคระบาดอยู่ คร.ชี้ไม่ต้องตระหนก
เมื่อวันที่ 1 ก.ค.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า โรคไข้หวัดหมู G4 ในประเทศจีนนั้น ข้อมูลเบื้องต้นจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเชื้อไข้หวัดใหญ่พบว่าโรคไข้หวัดหมู G4 มีลักษณะเฉพาะตัว ผสมควบรวมของทั้งสามสายจากที่พบ ในยุโรป และนกในเอเซีย ควบกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือ H1N1 จากทวีปอเมริกาเหนือ ที่มียีนไข้หวัดใหญ่จากนก คน และหมู
ซึ่งขณะนี้โรคไข้หวัดหมู G4 ก็ยังไม่ข้ามสายพันธุ์มายังคนมากนัก แต่ต้องจับตา เพราะเชื้อเหล่านี้เป็นวิวัฒนาการ การควบรวมสายพันธุ์ต่างๆเข้าด้วยกัน และสามารถคืบคลานข้ามทวีป ข้ามประเทศได้ โดยจะเริ่มจากการที่ติดเชื้อไม่มีอาการจนกระทั่งเริ่มมีอาการน้อยๆ และต้องมีความระมัดระวังอย่างสูงที่จะกลายพันธุ์ทำให้เกิดอาการมากกระทั่งมีการติดต่อระหว่างคนสู่คนในที่สุด
นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ ได้ทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดหมู G4 จากจีนอยู่แล้ว โดยเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ส่งข้อมูลต่างๆ ให้กับทางกรมควบคุมโรคแล้วบางส่วน และเบื้องต้นมีการเฝ้าระวังหากพบการป่วยโรคไข้หวัดใหญ่มีอาการรุนแรง ระบาดเป็นกลุ่มก้อน ก็ให้แจ้งมายังหน่วยงานสาธารณสุขที่ใกล้กับจุดที่พบและรายงานมาที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อทำการสอบสวนโรคและควบคุมโรคต่อไป
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือ การเว้นระยะห่าง สวมใส่หน้ากากเมื่อออกนอกบ้าน และหมั่นล้างมือบ่อยๆ เพราะวิธีเหล่านี้ถือเป็นการป้องกันโรคระบาดได้เป็นอย่างดีไม่เว้นแม้แต่โรคโควิด-19 นอกจากนี้ในส่วนของกรมปศุสัตว์ ก็มีการเฝ้าระวังโรคในสัตว์ด้วย เช่นกัน
ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กรระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงเชื้อไข้หวัดหมูที่ระบาดในจีน ว่า ขณะนี้ยังต้องขอรอดูข้อมูลที่แน่ชัดอีกระยะ เนื่องจากต้นทางของการเกิดโรคมาจากประเทศจีน อย่างไรก็ตาม โรคนี้ ยังถือเป็นโรคใหม่ที่ไม่มีใครรู้จักไม่จักฤทธิ์ หรืออาการ ยังต้องจับตาเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่อยากให้ประชาชนวิตกกังวล เพราะขณะนี้ประเทศไทยก็มีการเฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่อยู่
อีกทั้งขณะนี้ประชาชนทั่วไป ต่างสวมใส่หน้ากากอนามัย ป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ ทำให้อัตราการป่วยไข้หวัดของไทยในขณะนี้ลดลง ส่วนความตื่นตระหนัก บางคนจำลดการบริโภค หมู หรือ นก ที่อาจเป็นส่วนหนึ่งของเชื้อไวรัสไข้หวัดหมูนั้น เห็นว่า ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกขนาดนั้น เพราะลำพังเชื้อโคโรนาไวรัส หรือ โควิด -19ที่ทุกคนกังวลว่า อาจมาจากการกินซุปค้างคาว แต่ปรากฎแล้วว่าก็ไม่ใช่ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลถึงขั้นไม่บริโภคอาหารที่มีเนื้อสัตว์เหล่านั้น
