แกนนำกะเหรี่ยงเหนือ ยันไม่ได้เงินจากฌอน เผยสิ่งที่ได้ ติงทำคลิปขาดความเข้าใจ!
วันที่ 2 ก.ค. พฤ โอโดเชา แกนนำเครือข่ายกะเหรี่ยงภาคเหนือ จากอ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กอธิบายประเด็นเงินบริจาคของ ฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องเงินบริจาคไฟป่า หลังจาก ฌอน เข้าไปขอความรู้เรื่องการดับไฟป่าจากชาวบ้าน ความว่า เรื่องรับเงินจากคุณณอนนั่น ยืนยันว่า ณอน ไม่ได้มอบของที่เป็นเงินให้แม้แต่บาทเดียวครับ แต่ดูเขากับทีมงานก็อดทนตั้งใจฟังผมเล่าอย่างดี และทีมงานเขาได้แลกเปลี่ยน โต้แย้งความคิดเพื่อทำความเข้าใจในประเด็นต่างๆด้วยครับ
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
พฤ เล่าว่า ของที่ได้รับจากเขากับคณะคือ หน้ากาก เอ็น 95 จำนวนหนึ่ง และมีหน้ากากแบบใหญ่เป็นแบบกะโหลก 3 ชิ้น เท่านั้น ของเยอะขนาดไหน เท่าในมือที่ชาวบ้านยืนถือกล่องกันตามในภาพรูปถ่ายเท่านั้นครับ ภาพนั้นทีมงานเขาถ่ายครับ(ประมาณนี้ ถ้าจำไม่ผิด)
วันนั้นตัวแทนชาวบ้านบ้านเรามาเจอเขา 2 ชุมชน คือบ้านอมกุ๋นกับบ้านป่าคาใน ตั้งอยู่ที่หมู่ 11 ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ จึงแบ่งหน้ากากกันแล้วกลับบ้าน เพื่อเอากลับบ้านไว้ที่กองกลางของชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านนำไปใช้ยามต้องดับไฟครับ ก็ขอบคุณด้วยที่ได้มีคนในเมืองเดินทางมามอบของของช่วยเหลือชาวบ้าน
ประเด็นที่ผมและชาวบ้านกังวลต่อเรื่องคลิป ที่ถูกปล่อยออกมา 2 คลิป ที่สร้างความท้อแท้กังวลให้กับชาวบ้านเรามี 3 เรื่องครับ ที่นำไปสื่อสาร ส่งข้อมูลความรู้สู่สังคม ซึ่งผมเห็นว่า ยังคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามจริงกับวิถีชาวบ้านเราครับ จำเป็นที่ต้องสื่อสารเพิ่มเติมให้ถูกต้องเพื่อลดมายาคติต่อวิถีชาวบ้าน จึงขอใช้โอกาสนี้บอกกล่าวครับ
ผมเข้าใจว่าเขาเหมือนเยาวชน คนรุ่นใหม่ทั่วไป ที่โตมาจากอีกที่หนึ่ง มาเยี่ยมเราไม่นาน อาจไม่รู้จักเรื่องราววิถีชาติพันธุ์ชาวปกาเกอะญอดีพอ หรือรู้แต่ คิดจะช่วยเหลือหวังดีกับชาวบ้าน ตามที่ตัวเองคิดว่าดีกับชาวบ้านในมุมเขา เพราะแบบนี้ ในภาครัฐก็ชอบหวังดีให้ แต่กลายเป็นการสร้างปัญหา เช่นโครงการหรือการออกกฎหมายประกาศเขตป่าอนุรักษ์ทับพื้นที่วิถีชีวิตตามวัฒนธรรมของเรา ทำให้การเข้าไปใช้ชีวิตในป่าถูกริดรอนสิทธิ
พฤ ระบุว่า คำพูดที่ผมเห็นว่า ต้องเพิ่มเติมให้ถูกต้องมีอยู่ 3 เรื่องครับ ที่สร้างให้เกิดจำเลยต่อไป โดยมีภาคเกษตรกรและภาคเกษตรแบบดั้งเดิมในวิถีคนอยู่กับป่า ตามนี้ครับ
พูดทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่า เกษตรกรเป็นคนเผาป่า : จริงๆแล้วอาชีพหรือใครก็ได้เผาป่า ความจริงคือ ชาวเกษตรกรประกอบอาชีพหลายแบบครับในเมืองไทย แบบนี้ที่ชาวบ้านเราเห็นว่าควรแก้ไข ทัศนคติสังคมให้ถูกต้อง
ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่า ค่า Pm 2.5 หรือฝุ่นควันเกิดจากการเผาไร่ อย่างเดียว : ซึ่งข้อเท็จจริง ฝุ่นควันไม่ได้มาจากเผาไร่อย่างเดียว และไร่ก็มีมีหลายแบบซึ่งไร่ไม่ใช้ไฟก็มี การใช้รถ โรงงานอุตสาหกรรม แก๊สมีเทน ต่างๆ และเกิดจากความกดอากาศ เพนดานฟ้าปิดต่ำลงมาใกล้ผืนผิวดินบนโลกฯล้วนก่อฝุ่นคว้น ในขณะเดียวกับที่ช่วงเกิดฝุ่นควัน ค่า Pm2.5 ขึ้นสูงวิกฤตในเชียงใหม่นั้นแถวบ้านเรายังไม่ได้เผาไร่กัน ฌอนกับทีมงานก็มาเห็นกับตา แม้แต่ป่าที่ชาวบ้านดูแลไฟก็ไม่ไหม้ นึกว่าเข้าใจ
ทำให้เข้าใจว่า ไร่หมุนเวียนที่ชาวบ้านใช่ปลูกข้าวกินนั้น ใช้หลักคิดวิธีจัดการเหมือนกับนาหรือสวนทั่วไปที่คนรู้จัก : เหมือนชาวบ้านต้องการเปลี่ยนแปลงระบบไร่หมุนเวียน ไปสู่ระบบเกษตรแบบภาคกลาง ซึ่งความจริงแล้วมันคนละเรื่องกันเลยครับ เพราะไร่หมุนเวียนเป็นเรื่องที่ต้องอธิบายกันยาว มันโยงกับหลักคิดปรัชญาวิถีวัฒนธรรมที่เป็นเสาหลักใหญ่ๆที่บรรพบุรุษของชาวปกากะญอเลยหละครับ
