ไม่ไหวแล้ว “ลุงพล” ของขึ้น แฉยับพิรุธ แม่ น้องชมพู่ โวยไม่ได้ฆ่า ท้าเผชิญหน้าออกสื่อพร้อมกัน ลั่น ถ้าสงสัยตัดพี่ตัดน้องไปเลย ไม่ต้องมาคบหา

การหายตัวไปของ “น้องชมพู่” ด.ญ. วัย 3 ขวบ ก่อนถูกพบเป็นศพ นอนเสียชีวิตในสภาพเปลือยบนเนินเขาห่างจากบ้านประมาณ 4 กิโลเมตร ทุกคนไม่ปักใจเชื่อว่าน้องจะเดินขึ้นเขาเองได้ ขณะที่ “ลุงพล” ซึ่งเป็นคนพาศพน้องชมพู่มาตรวจชันสูตรรอบ 2 ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เครียดจัดถึงขั้นโกนผมและคิ้วตามความเชื่อ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

รายการโหนกระแสวันที่ 7 ก.ค. หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจสัมภาษณ์ “ลุงพล” กรณีที่ แม่-พ่อ-ยาย “น้องชมพู่” เปิดเผยว่าสงสัยลุงพลเป็นคนฆ่าลูก พร้อมโต้กลับก่อนมาสงสัยตน ให้สงสัยตัวเองบ้าง

ลุงพลลำบากใจและอึดอัดใจ?
“ไม่รู้สึกอึดอัดใจ ถ้าแม่เขากล้าออกมาพูดแบบนี้ ผมก็กล้าออกมาพูดเรื่องประเด็นอื่นที่สังคมต้องรับรู้”

สองเดือนแล้วจับตัวคนร้ายไม่ได้ วันนั้นลุงพลมาคุยครั้งแรก พาศพน้องมาชันสูตรรอบ 2 ลุงก็ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่น้องจะเดินขึ้นภูไป?
“ก็ยังยืนยัน สภาพบนภูเป็นภูเขา เป็นที่สูง เด็ก 3 ขวบไม่น่าเดินขึ้นไปเองได้ ทุกคนคิดเหมือนกันหมด ถ้าไม่มีคนพาขึ้นไป เป็นไปไม่ได้”

อะไรคือสิ่งที่แม่ และยายน้องชมพู่ มาสงสัยเราว่าเป็นผู้ก่อเหตุ?
“ขอแก้เรื่องแม่ยาย แม่ยายผมออกมาพูดแล้วว่าเขาไม่ได้สงสัยในตัวผม น่าจะเป็นฝ่ายแม่น้องมากกว่าที่สงสัยผม”

แม่กับยายบอกว่าให้พี่น้องมาประชุมกันเพื่อพูดคุยกัน ทุกคนมาหมด แต่ลุงไม่ไปคนเดียว?
“ประเด็นนี้ลุงไม่รู้เรื่อง ป้าก็ไม่รู้เรื่อง ไม่มีใครบอก”

พอถึงเวลาเขาบอกลุงไม่มา?
“ปกติลุงก็ไม่ไปอยู่แล้ว ถ้าลุงไปบ้านน้องชมพู่ยามนี้ เป็นเรื่องผิดปกติแน่นอน เพราะชีวิตประจำวันผมอยู่บ้านคนเดียว เมื่อก่อนถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ไปเลย ไม่ผ่านเลย น้อยมาก นอกจากมีธุระจริงๆ”

สนิทกับน้องมั้ย?
“สนิทช่วงหลังๆ ที่น้องเข้าเตรียมอนุบาล มีโอกาสคลุกคลีกันเยอะ ไปไหนต่อไป ไปอำเภอ ไปจังหวัด ไปตลาดทุกครั้ง ผมจะขึ้นไปชวนน้องกับครอบครัว เราก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันอยู่แล้ว แต่บางครั้งน้องก็ไป บางครั้งก็ไม่ได้ไป”

หลังน้องเสียชีวิต ลุงไม่ได้ขึ้นไปบ้านน้องอีกเลย?
“ตั้งแต่วันน้องเสีย แม่น้องบอกว่าตั้งแต่วันเผาน้อง ลุงไม่เคยขึ้นไปบ้านเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ เพราะงานศพน้องเสร็จแล้ว ธรรมดาลุงก็ไม่ไปอยู่แล้ว ลุงจะขึ้นไปทำเพื่ออะไร งานศพน้องเสร็จแล้ว เผาศพน้องแล้ว แล้วประเด็นที่สงสัยอยากจะถามแม่น้อง วันเผาศพน้องชมพู่ คนอื่นล้างหน้าศพชมพู่หมด ทำไมพ่อแม่เลี่ยงไม่ไปล้างหน้าศพ มันเป็นนิสัยพ่อแม่ที่รักลูกมั้ยที่ทำแบบนี้ มันเป็นครั้งสุดท้ายที่จะเห็นหน้าลูกตัวเอง ขณะที่คนอื่นล้างหมด เสียใจยังไงก็เป็นวาระสุดท้ายที่พ่อแม่จะทำให้ลูก ถ้ารักลูกจริงๆ ต้องทำ”

ลุงล้างมั้ย?
“ล้างครับ ป้าก็ล้าง พ่อตาก็ล้าง แต่พ่อแม่ไม่ล้าง”

คิดอีกมุมเขาไม่อยากเห็นหน้าลูกที่เสียชีวิต คิดแบบนี้ได้มั้ย?
“ถามว่าวันที่เราค้นหาน้องชมพู่ จะมีช่วงที่พ่อแม่น้องไปหาน้องโดยลำพัง อันนี้ผมไม่ทราบนะว่ามีเวลาช่วงนั้นมั้ย ผมสงสัยว่าเขาไปหาช่วงไหนนยังไง”

พ่อแม่น้องชมพู่เคยขึ้นไปหามั้ย?
“รู้สึกว่าจะมีการค้นหาตอนกลางคืน ซึ่งผมไม่เคยออกค้นหาเลยตอนกลางคืน ผมนอนอยู่ที่บ้าน พ่อแม่น่าจะขึ้นไป แต่ไม่แน่ใจว่ากี่วัน แต่หลังจากออกค้นหาตอนกลางคืน พ่อแม่น้องชมพู่ไม่เคยขึ้นภูเหล็กไฟอีกเลย ผมสงสัยว่าเขาไปเจออะไรมั้ยระหว่างที่ออกไปหาลูกเขา”

“อยู่มาวันนึงเจ้าหน้าที่มาหาผม มีเรื่องปรึกษาให้ไปเจอที่บ้าน ผมก็ไป วันนั้นผมพาน้องโอม ลูกชายไปรพ. พอกลับมาท่านบอกมีเรื่องปรึกษาให้ไปที่บ้าน พอไปที่บ้านพิสูจน์หลักฐานมาที่บ้านเต็มหมดเลย จะค้นในบ้านผม แต่ผมไม่ให้ค้นเพราะไม่มีหมายค้นอะไร ผมขับรถออกมาหน้าบ้าน ปรากฎว่านักข่าวที่อยู่ในพื้นที่เขาก็มาตั้งกล้องทำข่าว เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปที่รถผมแล้ว หลังจากพิสูจน์หลักฐานในรถผม ถ้าถามว่าดีเอ็นเอชมพู่อยู่ในรถผม มี.ค.น้องก็ขึ้นรถผม เคยอาเจียนใส่รถผม”

แม่เขารู้มั้ย?
“แม่เขาก็รู้ มันอาจจะนาน แต่รถผมไม่เคยล้างทำความสะอาด ในรถผมใช้แค่ผ้าเช็ด แต่รถของญาติๆ มีเกือบจะทุกคน ทำไมมาตรวจแค่รถผม วันนั้นทำให้ผมเสียใจมากเลยต้องโกนหัวโกนคิ้ว ถ้าไม่ปลงผมสติแตกแน่”

ครอบครัวสงสัยเรื่องไทม์ไลน์ น้องหายวันที่ 11 ลุงทราบมั้ยกี่โมง?
“ลุงยืนยันว่าลุงไม่รู้เรื่องว่าน้องหายตอนไหน เพราะลุงไม่เจอน้องเลย”

บางสื่อบอกว่าประมาณ 09.45 ถึง 10 โมง แต่อีกมุมนึงในสำนวน ออกจากบ้านลุง 09.30 แล้วช่วงนั้นลุงหายไป ไปถึงวัด 10.10 น. 40 นาทีนั้นลุงหายไปไหน?
“วันที่ 11 ลุงได้ไปจัดจีพีเอสสวนมันสำปะหลังกับแม่น้องชมพู่ วันนั้นลุงยืนยันว่าวันที่ออกจากสวนยาง เป็นเวลา 09.22 นาที นาฬิกาดูจากป้าแต๋น เขาดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือ เจ้าหน้าที่ถามว่าขับรถจากสวนยางใช้เวลากี่นาที ผมก็บอกว่าไม่เกิน 09.30 พอถึงบ้านผมก็ไปอาบน้ำ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าไปรับพระครูที่วัด เขาก็ถามว่าใช้เวลาอาบน้ำเท่าไหร่ กี่นาที เคลื่อนรถออกจากบ้านกี่นาที ผมก็เลยระบุตัวเลขให้เจ้าหน้าที่เขาพิมพ์เป็นสำนวนการให้ปากคำ ไปถึงวัดกี่โมง ผมนัดพระ 10 โมงก็ต้องไปให้ถึง 10 โมง ทำให้ตัวเลขมันลง แล้วจู่ๆ มาสงสัยผมเรื่องเวลาไปรับพระ”

ที่เขาสงสัยเพราะจากบ้านลุงไปวัดแค่ 7 นาที แต่บังเอิญลุงออกจากบ้านที่ในสำนวน ลุงบอก 09.22 แต่ไปถึงวัด 10.10 ไอ้ 33 นาทีลุงหายไปไหน นี่คือสิ่งที่เขาสงสัย?
“ผมอธิบายแล้วนะครับ ผมกลับมาถึงบ้าน 09.30 น. และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เวลา 09.30 น. น่าจะมาถึง 09.45 หรือ 09.50 ที่ผมอยู่ที่บ้าน แล้วสตาร์ทรถผมไปรับพระ อาจเป็น 09.50 ก็ได้ แต่ผมบอกพระว่า 09.45 เพื่อให้มันง่าย แล้ววันนั้นสอบผมทั้งวัน ตั้งแต่ตื่นนอนยันตีสาม ถามว่าใครจะมีความจำดี จำได้ถึงขนาดว่าตัวเองไปไหนทุกนาที ทุกวัน”

สะดิ้งพี่สาวชมพู่ไปบ้านลุงกี่โมง?
“ผมไม่ทราบครับ เพราะตอนผมขับรถออกจากบ้าน ผมไม่เห็นน้องสะดิ้งมาที่บ้าน”

มีกรณีที่ลุงไปบอกที่วัดว่ามาช้าหน่อย พอดีหาหลานอยู่ หลานหายไป ลุงรู้แล้วเหรอตอนนั้น?
“ยืนยันว่าไม่ได้พูดประเด็นนั้น พระที่วัดก็ไม่รู้ ท่านอธิการบุญมาก็ไม่รู้”

มีคนใส่ร้าย?
“มีคำให้การของพระอธิการบุญมา ที่เจ้าหน้าที่เรียกท่านไปสอบสวน ท่านอธิการบุญมาบอกว่าผมได้พูดแล้วว่าหลานหาย คำให้การท่านไม่ตรง มันไม่ใช่ ประเด็นวันนั้นผมไปจอดรถหน้าศาลาการเปรียญเพื่อกราบพระประธาน แล้วผมนำบาตรของท่าน กลดของท่าน เครื่องใช้ส่วนตัวมาไว้ที่รถ แล้วเดินไปครัวกลางของวัด เจออธิการบุญมา ผมก็เข้าไปคุยกับพระอาจารย์”

พระพูดเอง โดยไม่ได้รู้ว่าหายไป?
“ไปเชื่อพระอาจารย์ไงครับ ไม่เชื่อคำพูดของผม ผมก็เกิดความซวย อะไรทุกอย่างก็มารุมที่ผม”

เขาว่าลุงแอ็กติ้งเยอะมาก งานศพหลานไปร้องไห้ มานั่งในรายการดีใจร้องไห้เจอรอยแผลบนร่างกายหลาน?
“คนที่คิดว่าผมแอ็กติ้งเยอะ ลองคิดไปถึงชีวิตจริงตัวเอง ลองให้หลานที่ตัวเองรัก อยากดูแล เอ็นดูเขา ลองไปตายโหงบนภูเขา ดูสิจะมีสภาพแบบผมมั้ย ผมคนเดียวในครอบครัวที่ไปเจอเหตุการณ์แบบนั้น คนที่คิดแบบนั้นเป็นศูนย์รวมสัตว์นรก ผมได้ยินแต่พยายามไม่ตอบโต้ใคร”

ลุงมีกี่เบอร์?
“มีเครื่องเดียว ตอนเขาโทรมาว่าน้องหายไปก็เครื่องนี้ หลักฐานทุกอย่างยังอยู่ครบ ตอนโทรไปบอกแม่น้องชมพู่น่าจะเป็นเครื่องป้าแต๋น”

ลุงปล่อยรูปวันเผาศพ ลุงสงสัยว่าทำไมพ่อแม่ต้องรีบเอาเสื้อผ้าน้องไปเผา?
“อันนี้เป็นประเพณีคนในพื้นที่ คนเสียชีวิตเขาจะเอาเสื้อผ้าไปเผาทิ้งด้วยบางส่วน ประเด็นเรื่องเสื้อผมก็สงสัยว่าทำไมพาน้องลงมาทำพิธี จนเผาเรียบร้อย หลังจากนั้นเราก็ตามหาเสื้อที่หายไปเพื่อเป็นหลักฐานมัดตัวคนร้าย แต่แม่บอกว่าใครเจอเสื้อให้ระวังตัว ทุกวันนี้ทั้งลุงป้าพี่น้องชาวบ้านที่เขาอยากเห็นเสื้อ เขาพยายามไปหาร่างทรง หมอธรรม ที่เราไปทุกวันเราไม่ได้ไปโดยพลการ เราบอกให้พ่อแม่เขาไปด้วยกัน แต่เขาไม่ไป”

ทำไมแม่ถึงต้องบอกว่าถ้าเจอเสื้อให้ระวังตัว?
“ผมไม่ทราบครับ ก็สงสัยอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น จริงๆ คนเป็นพ่อแม่ยิ่งหาหลักฐานได้เท่าไหร่ก็ยิ่งสาวไปถึงตัวคนร้ายได้ไวขึ้น อันนี้เจ้าหน้าที่ทำงานไม่รู้จะไปหาข้อมูลจากใคร เบาะแสจากคนในหมู่บ้านก็ไม่มีใครบอก เขาต้องอาศัยเบาะแสคนในหมู่บ้านเขาถึงจะช่วยเราได้ แล้วทำไมพ่อแม่เขาไม่อยากเห็นเสื้อผ้าลูกเขาที่หายไป ผมถามว่าไม่อยากเห็น กลัวอะไร กลัวไปจับหรือกลัวมีหลักฐานติดเสื้อ ที่คิดอยู่ตลอดและไม่เคยพูดผ่านสื่อเลย”

ขนหมาล่ะ?
“ผมไม่ทราบว่าขนหมาติดตรงไหนของชมพู่ แต่หมาผมเวลาไปหาหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ มันไปด้วย มันไปกับเจ้าของอยู่แล้ว ผมไม่ได้เป็นกังวลหรือร้อนตัว ตร.มาหาอะไรผมก็ต้องตอบ”

กับพ่อแม่น้องมีปัญหากันมาก่อน?
“ไม่มีปัญหา เราถูกกัน ไปไหนเราไปด้วยกัน ก่อนหน้านั้นไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกัน”

เขาบอกว่าเขาโกรธลุงมากที่มาออกรายการโหนกระแส และพูดชื่อแอ๋ม?
“มันดูในเนื้อข่าวแทนที่จะบอกว่าบ้านแอ๋มไปอยู่ตรงสามแยก มันไม่มีบ้านแอ๋ม ผมเลยบอกว่าบ้านแอ๋มสามแยกไม่มี บ้านแอ๋มจริงๆ อยู่บ้านน้องชมพู่ แต่ผมไม่ได้บอกว่าแอ๋มเป็นคนทำ ไม่ได้บอกว่าแอ๋มมีส่วนเกี่ยวข้อง ที่เขาทะเลาะกันเขาเคลียร์กันแล้ว”

เขาให้ลุงพลไปขอโทษลุงก็ไม่ได้ไปขอโทษ?
“ก็ผมไม่ได้ผิด ผมไม่ได้พาดพิงแอ๋ม ผมบอกว่าแอ๋มอยู่ในบ้าน ไม่ได้ไปไหน”

ลุงเดือดเหมือนกัน?
“มันไม่ไหวแล้วครับ ต้องเคลียร์แล้วครับ”

ตัดพี่ตัดน้องกันเลยหรือเปล่า?
“ป้าบอกไปแล้ว ถ้าสงสัยตัวลุงพล ตัดพี่ตัดน้องไปเลย ไม่ต้องมาคบหา ให้จบไปเลย ผมยืนยันว่าถ้าป้าคิดอย่างนี้ ผมก็ต้องคิดตามแฟน”

เมียลุงพลฝากจม.มาหา บอกว่าตอนสอบปากคำ ครั้งนึง รอง..สอบถามว่าถ้ากรณีลุงกับป้าติดคุก ป้าจะฝากลูกไว้ทีใคร บอกมา 3 คน ป้าบอกว่าตา ยาย ปู่ย่า ท่านถามต่อว่าญาติคนอื่นล่ะ ป้าไม่ได้ตอบท่านในวันนั้น วันนี้อยากฝากบอกท่าน หากดูอยู่ และน้องๆ เพราะความเห็นแก่ตัวของเขา เขาหมายถึงใครก็คิดเอาเอง ไม่มีความเอื้อเฟื้อออกมาจากใจจริง มีเจ้าหน้าที่หลายคนมาพูดเกี่ยวกับคนในครอบครัว ป้าบอกทุกครั้งว่าป้าไม่กล้าคิด แม้จะสงสัยในความรู้สึกของพี่คนนึง วันนี้เสียใจจริงๆ กับสิ่งที่น้องคิดกับครอบครัวพี่ ป้าสงสัยอะไร?
“ถ้าคนที่เขาดูข่าว เขาน่าจะรู้ว่าเป็นใครที่น่าสงสัย

ป้ายังบอกว่าทุกครั้งป้าไม่กล้าคิด ไม่อยากจะคิด?
“ผมก็ไม่อยากคิดครับ เรื่องที่สงสัยคนที่ป้าแต๋นเขียนเข้าไป เราไม่อยากคิด”

ถามจริงๆ ลุงสงสัยฝั่งเขามานานมั้ย?
“สงสัยเรื่องพฤติกรรม วันที่จะเอาน้องมาผ่าที่รพ.ตร. ที่กรุงเทพฯ เขาปรึกษาเจ้าหน้าที่กับญาติคนอื่น ซึ่งผมนอนหลับอยู่ที่แคร่ เขาปรึกษากันเสร็จแต่ไม่ยอมพาน้องมาผ่าที่รพ.ตร. ผมนอนหลับอยู่เขาไปปลุกผมให้ขึ้นมา แล้วให้พาน้องมากรุงเทพฯ”

เขาบอกลุงเสนอตัวเอง ลุงเสนอตัวเองหรือเปล่าวันนั้น?
“ไม่ได้เสนอครับ ผมนอนอยู่เขาเรียกมาให้พาลูกไปผ่าหน่อย เขาไม่สะดวกมาทั้งพ่อแม่ ผมก็เลยมา เพราะชมพู่เป็นหลานผม แล้วผมได้ถามว่าจะให้ผมขอความช่วยเหลือกับผบ.ตร. มั้ย แม่เขาบอกตามใจลุง ทำไมต้องตามใจลุงล่ะ คนเป็นพ่อแม่ต้องตามใจตัวเองสิ พ่อแม่เป็นคนสูญเสียลูก ตัวเองเป็นพ่อแม่”

สงสัยอะไรอีก?
“วันเผาศพน้องไม่ล้างหน้าศพน้อง มันเป็นครั้งสุดท้ายที่จะเห็นลูกตัวเป็นๆ ทำไมไม่ทำ สงสัยวันที่ 14 มีคนเห็นรองเท้า ทำไมไม่ขึ้นไปดูให้เห็นกับตาว่าใช่หรือไม่ใช่”

ลุงบอกพ่อเตรียมเสื้อผ้าให้ชมพู่ เขารู้ตั้งแต่แรกว่าชมพู่ไม่มีเสื้อใส่?
“ผมทราบภายหลัง หลังออกมาเป็นข่าว เห็นว่ามีลิ้นจี่ด้วย เอาออกมาจากกระเป๋า แสดงว่ากระเป๋านั้นเตรียมหลายวันแล้ว ผมก็สงสัยว่าทำไมต้องเตรียมเสื้อผ้าให้ผมเอาไปให้ลูกเขา ทั้งที่เขายังไม่รู้เลยว่ารองเท้าเป็นของใคร ตายหรือไม่ตาย พ่อแม่เขาต้องออกมาชี้แจงว่าทำไมต้องเตรียม แล้วรู้ได้ยังไงว่าต้องเจอ เจอในสภาพไหน”

วันที่ลุงกับป้าแต๋นไปไหว้พระธาตุพนม ป้าแต๋นบอกว่าคนร้ายไม่ตั้งใจฆ่าชมพู่ อาจบังเอิญหรือเปล่า ป้าเขารู้เหรอ?
“อันนั้นเป็นนิมิตของหมอธรรม หมอธรรมที่ไปทำหวยวันนั้น ท่านพูดว่าคนร้ายอาจไม่ตั้งใจ อาจเผลอตัวทำให้ชมพู่เสียและพยายามกลบเกลื่อน ป้าเลยเอาคำพูดหมอธรรมมาพูด อันนั้นเป็นนิมิตของหมอ”

คิดว่าคนพาน้องไปข้างบนอยู่ในหมู่บ้านมั้ย?
“ผมไม่ฟันธงว่าเป็นคนในหมู่บ้านมั้ย คนในหมู่บ้านรู้จักนิสัยใจคอเกือบทุกคน”

บางคนในหมู่บ้านก็สงสัยลุง?
“ก็มีสิทธิ์สงสัย แต่วันเกิดเตุ ผมไม่เจอหน้าน้องชมพู่เลย ถ้าสงสัยเรื่องความผูกพันระหว่างผมกับชมพู่ เหมือนสามีคู่หนึ่งที่มาออกรายการครั้งก่อนที่เอ่ยชื่อผมออกไป ก็ขอบคุณที่เขาบอกว่าผมมีความสนิทสนมกับครอบครัวชมพู่ แต่จริงๆ ต้องพูดให้มากกว่านี้ คนในครอบครัวสนิทกับชมพู่หมด มีความรักและเอื้ออาทรหมด ไม่ใช่มีแค่ผมที่สนิท ควรพูดให้หมดเลย ไม่ต้องสะกิดกันขนาดนั้นหรอก”

ถ้าตร.ออกหมายจับ ทำไง?
“ผมต้องสู้ เพราะผมไม่ได้ทำ”

กลัวเป็นแพะมั้ย?
“กลัวสิครับ กระเป๋าที่อยู่บนเขาเอาไปทำอะไร มาค้นรถผมทำไม ค้นหาอะไร ค้นสากกะเบืออะไร มาค้นเอาอะไรตรงนี้ ถ้าถามหาดีเอ็นเอชมพู่ รถคนอื่นก็น่าจะมี ทำไมไม่ค้นล่ะ ผมบอกแล้ววันนั้นถ้าทำแบบนี้ผมถึงจะมั่นใจ ต้องตรวจให้ทุกคนนะ ตรวจให้หมด ไม่ใช่เลือกตรวจ”

มีคนบอกว่าลุงพูดข้อเท็จจริงต่างกัน ลุงบอกว่าเข้าไปสวนยาง แต่มีคนบอกว่าลุงอยู่แถวบริเวณบ้าน?
“มีคนข้างบ้านแต่ไม่เอ่ยชื่อ มีโอกาสได้คุยกับแก แต่เป็นเวลา 7 โมงกว่าๆ แต่จำไม่ได้เป็นวันที่ 10 หรือ 11 แต่วันที่คุยกับแก เป็นวันที่น้องโอมนำโทรศัพท์มือถือไปให้ผมที่สวนยาง ว่าหัวหน้าโทรมาให้ไปดูเครื่องหยอดข้าว ซึ่งวันนั้นคนที่ให้การเขาบอกว่าเห็นผมตอน 9 โมงกว่า ซึ่งเวลานั้นผมอยู่กับแม่น้องชมพู่ที่สวนยางพารา จับจีพีเอสสวนมันอยู่ คำให้การของเขาไม่ตรงกับไทม์ไลน์ของผม”

เขาบอกไปเจอรถแบ็กโฮอยู่บนภู ยายย้อมบอกว่าไม่ใช่ รถคันนี้อยู่ข้างล่างวันชมพู่หายไป วันดีคืนดี รถคันนี้ไปอยู่ข้างบน?
“ผมถามหน่อย ขนาดวันนี้ที่มาออกรายการ ตั้งแต่ตื่นนอน ผมทำอะไรไปบ้างหรือยัง จำได้มั้ยครับ นางย้อมออกมาให้การว่าเห็นรถแบ็กโฮอยู่ที่หลุม มันผ่านไปสองเดือนแล้วนะ ความจำดีขนาดนั้นเลยเหรอ”

ตร.บอกว่าเป็นไปได้ที่จะเอารถคันนี้หลอกล่อพาขึ้นไป แต่ยายย้อมบอกว่าไม่ใช่ ฉันกับชาวบ้านคนอื่นก็เห็นว่ารถคันนี้อยู่ในหลุมกองทราย อยู่ๆ รถคันนี้ตามขึ้นไป แสดงว่าต้องมีคนร้ายเอารถนี้ขึ้นไปกลบเกลื่อนหลักฐาน?
“แค่วันนี้ที่ผ่านไปตั้งแต่เช้า ผมยังจำไม่ได้เลยว่าทำอะไรไปบ้าง ยายย้อมควรออกมาพูดตั้งแต่ต้น ตั้งแต่มีเจ้าหน้าที่ขึ้นไปหมู่บ้าน ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก มาบอกตอน 50 กว่าวันแล้วบอกเห็นรถแบ็กโฮ อีกคนที่บอกว่าเห็นด้วยกันก็มากลับคำให้การแล้ว ว่าไม่ได้เห็น”

เปิดศึกมั้ย?
“ไม่คิดว่าเป็นการเปิดศึก เป็นการปรับความเข้าใจกันผ่านสื่อ ไม่คิดที่จะมานั่งโต๊ะคุยกันเลย”

ทำไมไม่ไปนั่งคุยกัน ต่างคนต่างออกสื่อ เหมือนปั่นให้มีปัญหากันเองหรือเปล่า?
“สำคัญที่สื่อนี่แหละ ทำไมสื่อเวลาทำข่าว เชิญเลยจะให้ค่าตัวเท่าไหร่ มานั่งเลยหน้าบ้านล้อมวงกันเลย ตระกูลพ่อตาแม่ยาย เอามานั่งคุยกันเลย ให้ค่าตัวกันไปเลย ให้มาเจอกัน มาคุยกันเลยเป็นช็อตๆ ไปเลย”

ผมลงพื้นที่เอาแม่กับลุงมานั่งุคยกันเลยมั้ย?
“ได้ครับ เอาเลยครับ เอามาคุยกันเลยประเด็นที่สงสัย ระหว่างครอบครัวตัวเองกับเจ้าหน้าที่ที่ไปทำคดี กับชาวบ้านที่ให้เบาะแส หลักฐานน้ำหนักตรงไหนมั่นใจกว่ากัน ที่พ่อแม่น้องชมพู่จะหายสงสัยในตัวลุง”

ยืนยันไม่ได้ฆ่าน้องชมพู่?
“ยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะผมรักน้องเหมือนลูกคนนึง เป็นไปไม่ได้ที่จะทำกับหลาน เพราะผมเคยพูดอยู่แล้วว่าถ้าเขาไม่เลี้ยงชมพู่ ผมสามารถเอาเขามาเลี้ยงเองได้ ผมพูดกับคนอื่น ไม่ได้พูดกับแม่เขา น้องมีความผูกพันกับผม ผมรู้ว่าครอบครัวน้องอยู่กันยังไง แต่ละวันอยู่กันยังไง ผมในฐานะที่เป็นลุงเขย”

เมื่อวานลุงบอกว่าบอกตร.ดีๆ จะไม่ทำอะไรแบบผิดๆ?
“หมายถึงถ้าเจ้าหน้าที่จะปิดคดี อยากให้เจ้าหน้าที่คิดให้ดีๆ ก่อนออกหมายจับใครสักคนในหมู่บ้าน ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน