ตร.หอบหลักฐานปึกใหญ่ ไปขอศาลกระบี่ ออกหมายจับ บังฟัต กับพวกโดนกันอ่วม สิบกว่าคดี หนัก สุด ฆ่าโดยไตร่ตรอง โทษถึงประหาร กิ๊กสาวก็ไม่รอด เคยร่วมกัน พยายามดักอุ้มผู้ใหญ่บัติ แต่ไม่สำเร็จ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เตรียมบินลงกระบี่ ไปรับตัวจากทหาร ก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดี ด้าน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) แจงสอบไม่พบประเด็น มีคนจ้างบังฟัตฆ่าผู้ใหญ่บัติ เรื่องผลประโยชน์เรื่องที่ดิน

จากกรณีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุฆ่า 8 ศพครอบครัวนายวรยุทธ สังหลัง หรือผู้ใหญ่บัติ ผู้ใหญ่บ้านเขางาม หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ที่บ้านเลขที่ 14/3 ม.2 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ระดมนักสืบมือดีลงพื้นที่สืบสวน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 9 ราย รวมทั้ง นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์กุล อายุ 41 ปี หรือบังฟัต นายทุนเงินกู้ชาว ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ หัวโจกใหญ่ โดยปมเหตุมาจากเรื่องโฉนดที่ดิน 2 แปลง ที่ทางผู้ใหญ่วรยุทธนำไปขายฝากเอาไว้ แต่บังฟัตนำไปจดจำนองต่อกับธนาคาร จนเมื่อมีการนำเงินมาไถ่ถอนคืน บังฟัตจึงไม่มีโฉนดคืนให้ จนเป็นเรื่องราวบานปลายมีการฟ้องร้องในศาล และทั้งคู่ทะเลาะวิวาทถึงขั้นขู่ฆ่ากันไปมา ขณะที่การสอบสวนกลุ่มลูกน้องบังฟัต รับว่าถูกจ้างให้มาทวงหนี้ บอกว่าหากสำเร็จจะออกเงินดาวน์รถให้ โดยบังฟัตเป็นคนลงมือยิงคนในบ้านทั้ง 11 คนด้วยตนเอง จนเสียชีวิต 8 ศพ ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 19 ก.ค. พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณงามเมือง ผช.ผบ.ตร. รรท. ผบช.ภ.8 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนคลี่คลายคดี ประชุมสรุปสำนวนการสอบสวน เตรียมยื่นอนุมัติศาลจังหวัดกระบี่ ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องสงสัย จำนวน 8 คน ประกอบด้วย 1.นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์กุล หรือ บังฟัต อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 ม.7 ต.แม่นางขาว อ.คุระบุรี จ.พังงา 2.นายคมสรรค์ เวียงนนท์ หรือม่อน อายุ 41 ปี 49 ม.8 ต.โพนเมือง อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด 3.นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ หรือเลาะห์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176/7 ม.11 ต.โคกเจียก อ.เมือง จ.ปัตตานี 4.นายอรุณ ทองคำ หรือกี อายุ 29 ปี 90 ม.6 ต.คุระบุรี อ.คุระบุรี จ.พังงา 5.นายประจักษ์ บุญทอย หรือจักษ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/42 ม.2 ต.ตากแดด อ.เมือง พังงา 6.นายธนชัย จำนอง หรือโกบ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 ม.6 ต.คุระบุรี อ.คุระบุรี จ.พังงา 7.นายธวัฒชัย บุญคง หรือชล อายุ 37 ปี บ้านอยู่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต และ 8.น.ส. ชลิดา สังข์โชติ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102/196 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต

โดยการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 8 คน จะมีการแยกเป็นกลุ่มผู้ต้องหา 7 คนที่เข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ จะแจ้งข้อหาหลักๆ มี ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน, ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยทำ ร้ายจิตใจผู้อื่น, แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร, มีและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะ ที่บังฟัต กับนายคมสรรค์ ซึ่งสอบสวนพบว่าเป็นผู้ร่วมกันวางแผน จะถูกแจ้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตเพิ่มอีก ขณะที่บังฟัต นายอับดุลเลาะ นายประจักษ์ นายธนชัยและน.ส. ชลิดา เจ้าหน้าที่ได้ขอหมายจับเพิ่มเติม กรณีที่แต่งกายเป็นทหาร ไปดักอุ้มผู้ใหญ่บัติ ถึง 2 ครั้ง แม้จะลงมือไม่สำเร็จแต่ถือว่าเป็นความผิดที่สมบูรณ์ แล้ว ทั้งนี้ในการสอบสวนยังพบว่าผู้ที่ลงมือยิงผู้ใหญ่บัติ คือนายอรุณ หรือบังกี เนื่องจากขณะนั้นผู้ใหญ่บัติเกิดฮึดสู้กับบังฟัต นายอรุณจึงใช้ปืนยิงผู้ใหญ่บัติจนเสียชีวิต

นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องสงสัย จำนวน 4 คน มาสอบสวนภายในค่ายทหาร ร.15 พัน 1 อ.คลองท่อม ประกอบด้วย เจ้าของรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน ณข 501 กระบี่ ซึ่งเป็นญาติกับบังฟัต และหลังจากเกิดเหตุ บังฟัตนำอาวุธปืนไปฝากไว้ ผู้ที่รับฝากอาวุธปืน และนำไปซุกซ่อนฝังดินไว้ ในพื้นที่ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช และผู้ที่ลงทะเบียนเปิดใช้หมายเลขโทรศัพท์ให้กลุ่มคน ร้าย เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ

ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่ศาลจังหวัดกระบี่ พล.ต.อ.สุชาติพร้อมคณะ นำเอกสาร พยานหลักฐาน มายื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย โดยนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์กุล หรือบังฟัต, นายธนชัย จำนอง หรือบังโกบ, นายประจักษ์ หรือจักษ์ บุญทอย, นายคมสรรค์ หรือม่อน เวียงนนท์, นายอับดุลเลาะ หรือเลาะ ดอเลาะ, นายธวัฒชัย หรือ ชล บุญคง, นายอรุณ หรือกี ทองคำ หรือ บังกี เจ้าหน้าที่ขออนุมัติหมายจับในข้อหาทั้งสิ้น 12 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อเอาผลประโยชน์อันเกิดแก่การกระทำผิด เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน 2.ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาผลประโยชน์ 3.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต เสรีภาพ และทรัพย์สิน จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น 4.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำเอกสารสิทธิ 5.ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น 6.ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปด้วย โดยใช้ปืนยิง เป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสจนถึงแก่ความตาย โดยแต่งกายเครื่องแบบทหาร โดยใช้ยานพาหนะ 7.ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ 8.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต 9.ร่วมกันมีอาวุธปืนของผู้อื่นที่มีใบอนุญาต 10.แต่งกายโดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบทหาร 11.ร่วมกันแสดงตนและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานทหาร และ 12.ข้อหาซ่องโจร

นอกจากนี้ นายซูริก์ฟัต, นายธนชัย หรือ บังโกบ, นายประจักษ์, นายอับดุลเลาะ, น.ส. ชลิดา ถูกแจ้งข้อหา 1.แต่งกายคล้ายทหารที่ยังคงใช้ในราชการอยู่ อันทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อ 2.ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานทหาร 3.ซ่องโจรขณะที่นายซูริก์ฟัต และนายคมสรรค์ ยังถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมคือ 1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2.ร่วมกันพยายาม ฆ่า ผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

ต่อมาเวลา 15.30 น. ศาลจังหวัดกระบี่ได้อนุมัติหมายจับตามที่เจ้าหน้าที่ร้องขอ โดยจากนี้เจ้าหน้าที่จะรอให้ทหารควบคุมตัวทั้ง 8 คนมาส่ง หลังครบกำหนดควบคุมตัวตามคำสั่งหน.คสช. ซึ่งจะครบกำหนดในวันศุกร์ที่ 21 ก.ค.นี้ ทั้งนี้หลังพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาให้ทุกคนทราบ จะมีเวลา 48 ช.ม. ที่จะสอบสวนจากนั้นจะต้องส่งตัวไปขออำนาจ ศาลฝากขังเพื่อรอสรุปสำนวนส่งฟ้องต่อไป

ทางด้านพล.ต.อ.สุชาติ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งหมด 8 รายถูกแจ้งข้อหาต่างกรรมต่างวาระด้วยกัน ซึ่งขณะนี้มีการเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีก 3-4 ราย แต่ยังไม่พบปมอื่นที่อาจนำไปเชื่อมโยงกับเรื่องดังกล่าว ส่วนกรณีที่มีนายตำรวจนายหนึ่งออกมาให้ข้อมูลว่า มีการจ้างวานบังฟัตให้มายิงผู้ใหญ่บัติ ในกรณีผลประโยชน์เรื่องที่ดิน จากการสืบสวนสอบสวนนั้นยังไม่พบ แต่ทางเจ้าหน้าที่พร้อมรับข้อมูลมาดำเนินการสอบสวนต่อ ส่วนการส่งมอบตัวผู้ต้องหานั้น จะมีการส่งมอบตัวภายในวันที่ 21 ก.ค.นี้ ซึ่งขอหารือกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ทหาร ถึงความพร้อมต่างๆ ก่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน