จากกรณีการที่น้องชมพู่ เสียชีวิตปริศนา บนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพัก 2 กิโลเมตร ในพื้นที่บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งผ่านมาร่วม 2 เดือนแล้ว ยังไม่มีการออกหมายจับคนร้าย ขณะที่คนในครอบครัวของน้องชมพู่ ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลต้องสงสัย ซึ่งเป็นคนในครอบครัวกันเอง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นพ.ศักดิ์สิทธิ์ บุญลักษณ์ หัวหน้ากลุ่มงานนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ผู้ผ่าชันสูตรศพน้องชมพู่คนแรก ได้เปิดเผยผลชันสูตรศพน้องอย่างละเอียด กับ ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯของรัฐสภา

นพ.ศักดิ์สิทธิ์ระบุว่า ชันสูตรศพเมื่อเวลาบ่าย 2 โมงครึ่งของวันที่ 15 พ.ค. ยืนยันสภาพศพภายนอก มีเพียงร่องรอยขีดข่วน ที่อาจเกิดจากกิ่งไม้ ลักษณะรอยขูดขีดกระจายเป็นกลุ่มๆ แต่พบมากที่สุดบริเวณแผ่นหลัง รองลงมา คือ เหนือข้อเท้าด้านซ้าย ซึ่งเป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นขณะยังมีชีวิต

ส่วนอวัยวะภายใน มีหลายส่วนเริ่มเน่าจนไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ แต่ก็ยืนยันว่า สมอง และ ปอด ไม่พบความผิดปกติ ที่เกิดจากการทำร้ายร่างกาย มีเพียงการเน่า กะโหลกศีรษะ ไม่พบการแตกร้าว คอไม่หัก ไม่มีรอยฟกช้ำ ขณะที่กระเพาะอาหาร ไม่มีอาหารหลงเหลืออยู่เลย มีเพียงของเหลว 10 มิลลิลิตร เท่านั้น

ที่สำคัญอวัยวะเพศไม่พบร่องรอยที่เกิดจากการถูกล่วงละเมิด เยื่อพรหมจารียังอยู่ครบสมบูรณ์ เบื้องต้นให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว

ทั้งนี้ นายแพทย์ศักดิ์สิทธิ์ มองว่า หากไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย ก็ยังมีความเป็นไปได้กรณีเด็กพลัดหลงป่า จนขาดอาหาร ขาดน้ำ เสียชีวิต โดยมองว่าแม้จุดพบศพน้องชมพู่ จะต้องขึ้นเขาไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร แต่น้องมีระยะเวลา 3 วัน ก่อนจะเสียชีวิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน