ญาติยังลุ้น 2 น.ศ.ไทยตกเหวสหรัฐ กงสุลใหญ่ประสานจนท.กู้ภัยมะกันเร่งค้นหา หลังขาดการติดต่อไปตั้งแต่ 7 วันก่อน ก่อนพบรถตกจากหน้าผาไปอยู่ในเหวลึก 500 ฟุต ที่คิงส์ แคนยอน กระทรวงการต่างประเทศขออนุเคราะห์ออกวีซ่าด่วนให้ญาติบินร่วมตามหา

จากกรณีโลกออนไลน์แชร์เรื่องราวจากเพจ SiamTownUS ถึงการเกิดอุบัติเหตุกับนักศึกษาไทยในสหรัฐอเมริกา คือน้องมิน น.ส.ทิวาดี แสงสุริยฤทธิ์ น.ศ.ปริญญาโทด้านสิ่งแวดล้อมในมหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา หลังเช่ารถพร้อมเพื่อนชาวไทยชื่อนายภคพล ชัยรัตนทรงพรหรือ กอล์ฟ ไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ คิงส์ แคนยอน ช่วงปิดเทอม แล้วประสบอุบัติเหตุรถตกในเหวลึก 500 ฟุต (152 เมตร) สภาพรถจมน้ำครึ่งคัน และญาติไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่วันพุธที่ 26 ก.ค. ซึ่งทาง จนท.โรงแรมได้แจ้งความ หลังทั้งคู่ไม่ได้มาพักตามที่จอง

โดยเพื่อนน้องมินได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ว่า “เพื่อนๆ พี่ๆ คะ ตอนนี้เพื่อนสนิทเรา คือ มินกับเพื่อนมิน ประสบอุบัติเหตุอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ติดต่อมินไม่ได้ตั้งแต่วันพุธที่ 26 ก.ค. เวลาอเมริกา คือ ตั้งแต่บ่าย 2 โมง ซึ่งเมื่อเช้านี้เวลาไทย พี่สาวมินโทร.คุยกับตำรวจ เขาบอกว่าขึ้นฮ.ไปสำรวจดู เห็นรถที่มินกับเพื่อนเช่าที่จะเดินทางไปแคมปิ้ง ตกในเหวลึก 500 ฟุต สภาพรถคือจมน้ำครึ่งคัน ตอนนี้หาตัวมินกับเพื่อนยังไม่เจอ ตอนนี้เรื่องถึงสถานทูตใหญ่ที่ดีซีแล้ว ท่านทูตช่วยประสานให้สถานกงสุลที่แอลเอช่วยไปเร่งตำรวจให้แล้ว”

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ส.ค. น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีนักศึกษาไทย 2 คนหายสาบสูญหลังเกิดอุบัติเหตุที่ฟรีเวย์ 180 ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาว่า ในวันที่ 2 ส.ค.นี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งเป็นเวลาที่ทั้งสองฝ่ายไทยกับสหรัฐสะดวกที่สุดนั้น นายธานี แสงรัตน์ กงสุลใหญ่ไทย ณ นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา จะเดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงมลรัฐแคลิฟอร์เนีย และตำรวจของเมืองที่เกิดเหตุเพื่อติดตามเรื่องบุคคลสูญหาย

น.ส.บุษฎีกกล่าวต่อว่า กงสุลใหญ่ไทยฯกำลังรอว่าครอบครัวของผู้ประสบเหตุจะเดินทางมาทันหรือไม่ ขณะที่กรมการกงสุลออกหนังสือนำขอการตรวจลงตราหรือวีซ่า สำหรับการยื่นขอวีซ่าไปสหรัฐให้ครอบครัวของน.ส. ทิวาดี หนึ่งในนักศึกษาไทยที่ประสบเหตุ เดินทางไปสหรัฐ อย่างไรก็ดีการออกวีซ่าของสหรัฐยังคงขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสถานทูตสหรัฐ ส่วนการออกหนังสือนำจากกระทรวง เป็นการขอความอนุเคราะห์บนพื้นฐานมนุษยธรรม

น.ส.บุษฎีกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิสรายงานว่าได้ติดตามประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นพบว่ารถที่นักศึกษาไทยขับไปเที่ยวที่คิงส์แคนยอนตกหน้าผา แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำไหลเชี่ยวและภูมิประเทศเข้าถึงได้ยากทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะลงไปตรวจสอบยังรถที่เกิดอุบัติเหตุได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงของแคลิฟอร์เนียกำลังหาทางกู้รถและส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปยังพื้นที่ซึ่งมีความท้าทายเพราะสภาพหน้าผาสูงชันและระดับน้ำที่ขึ้นสูงไหลเร็วและแรงมาก อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลใหญ่จะประสานงานกับตำรวจทางหลวงอย่างใกล้ชิดและจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป

ขณะที่เพจสยามทาวน์ยูเอส รายงานความคืบหน้าว่า น.ส.ทิวาดี นักเรียนไทยที่มาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา โดยการจัดส่งนักเรียนผ่านเอเยนซี่ชื่อยูอีดี (WorldED) ได้ขาดการติดต่อกับเพื่อนและญาติเมื่อวัน พุธที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากได้เดินทางมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติคิงส์ แคนยอน รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเดินทางโดยรถยนต์ที่เช่ามาไปกับเพื่อนชื่อกอล์ฟ เป็นเพศชาย ยังไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง และได้เข้าพักที่โรงแรม รีดเลย์อินน์ ห่างจากอุทยานแห่งชาติดังกล่าวประมาณ 1-2 ชั่วโมง

จากนั้นมีการแจ้งและประสานโดย เจ้าหน้าที่โรงแรมและผู้เกี่ยวข้องไปที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองรีดเลย์ เพื่อติดตามตัวโดยใช้เฮลิคอปเตอร์บินตรวจพื้นที่ ปรากฏพบรถยนต์ตกจากฟรีเวย์ 180 อยู่ในเขตเฟรสโนเคาน์ตี้ กับทูลาเรเคาน์ตี้ ซึ่งด้านข้างฟรีเวย์เป็นเหวลึกถึง 500 ฟุต พบรถจมไปเกินครึ่งคัน โดยเจ้าหน้าที่สามารถเห็นเลขทะเบียนท้ายรถ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่ามีคนในรถอยู่หรือไม่

ด้านนายธานี แสงรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส ได้รับการประสานจากสถานทูตใหญ่ที่กรุงวอชิงตันดีซีเบื้องต้นเพื่อช่วยประสานเร่งตามตัวนักเรียนทั้งสองคนเช่นกัน โดยการช่วยเหลือกู้รถและตามหานักเรียนไทยทั้งสองคนเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากตำรวจไม่มีอำนาจ อีกทั้งสภาพภูมิศาสตร์และภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากไม่สามารถเดินลงสำรวจทางเท้าได้ อีกทั้งการใช้เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถลงสำรวจใกล้ที่เกิดเหตุเพราะไม่มีจุดจอด จึงได้แจ้งไปที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วย มีเจ้าหน้าที่ทางหลวงแคลิฟอร์เนีย, ทีมกู้ภัยเชอรีฟ และเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติคิงส์ แคนยอน เพื่อร่วมกันกู้ภัยและตามหาตัวนักเรียนไทย โดยสรุปแล้ววิธีเดียวคือการใช้เรือเข้าไปสำรวจและกู้ภัย แต่พบปัญหาคือระดับน้ำขึ้นสูงและมีกระแสไหลเร็วและแรง อีกทั้งยังมีหิมะบนภูเขาที่ละลายไหลลงมาเพิ่ม จนทำให้มีการชะลอการนำเรือออกสำรวจ

ล่าสุดพี่สาวของน้องมิน กำลังเตรียมตัว เดินทางมายังสหรัฐอเมริกา เพื่อติดตามหาตัวน้องสาวแล้ว

สยามทาวน์ยูเอสยังได้สัมภาษณ์เพื่อน ของน้องมินที่อาศัยอยู่ที่ไทย และเป็นคนโพสต์เหตุการณ์เบื้องต้นทั้งหมดในเฟซบุ๊ก Methinee Meeluea เมื่อ 2 วันที่แล้ว โดยน้องเมธินีได้ฝากให้ทุกท่านช่วยกันประกาศหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวให้ทราบกัน เพื่อเป็นประโยชน์ในการตามหาน้องนักเรียนไทยทั้งสองคน

เมื่อสอบถามถึงเส้นทางการเดินทางไปเที่ยวของ น.ศ.สองคนนี้สันนิษฐานได้ว่า นักศึกษาเดินทางจากฟลอริดามาแอลเอ จากนั้นเช่ารถเพื่อขับไปยังโรงแรมรีดเลย์ อินน์ ระยะทาง 340 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งจากโรงแรมไปสถานที่วางแผนไปเที่ยวอุทยานคิงส์ แคนยอน ระยะทาง 119 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนที่เกิดเหตุยังไม่ทราบพิกัด แต่คาดว่าเกิดเหตุระหว่างทางภายใน 74 ไมล์(118 ก.ม.)ในการเดินทางนี้ จากโรงแรมไปยังอุทยาน ที่เกิดเหตุอยู่ทางตะวันออกจากเมืองเฟรสโนไป 1-2 ชั่วโมง เมืองที่มีคนลาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

สำหรับอุทยานแห่งชาติคิงส์ แคนยอน เป็นหนึ่งในหุบเขาที่ลึกที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยอุทยานมีพื้นที่ประมาณ 461,901 เอเคอร์ (1.15 ล้านไร่) โดยจุดที่โดดเด่นมากที่สุดของอุทยานแห่งชาติคิงส์ แคนยอนนั้นคงหนีไม่พ้น “หุบเขาแม่น้ำกษัตริย์” หรือ “หุบเขาคิงส์ริเวอร์” ปัจจุบันคิงส์ แคนยอนได้กลายเป็นหนึ่งในหุบเขาที่ลึกที่สุดในสหรัฐอเมริกา คือมีความลึก ประมาณ 8,200 ฟุต หรือ 2,500 เมตร ซึ่งอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติ ซีคัวญ่า ที่มีชื่อเสียงคือมีต้นสนซีคัวญ่ายักษ์ หรือเรียกว่าเซียร์ราเรดวูด ต้นไม้ที่ได้รับการขนานนามว่ามีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในโลก โดยบางต้นนั้นมีอายุยาวนานถึง 3,500 ปี และมี การตัดต้นสนยักษ์ซีคัวญ่ากลางลำต้นให้เป็นอุโมงค์จนรถวิ่งผ่านได้ และสามารถดึงดูด นักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมได้เป็นจำนวน มาก

นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติคิงส์ แคนยอน ยังอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของสหรัฐ อเมริกามีนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 3 ล้านคนต่อปี และได้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ.2527 (ค.ศ.1984) โยเซมิตีเป็นที่รู้จักในชื่อของหน้าผาหินแกรนิต ยอดเขาโดมครึ่งซีก น้ำตกขนาดใหญ่หลายน้ำตก และพื้นที่ประมาณ 89% ของอุทยานเป็นป่าที่มีสัตว์อาศัยอยู่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน