สธ.เผยผู้เชี่ยวชาญยังไม่ฟันธง “ฮ่องกง” โควิดระบาดซ้ำมาจากการชุมนุมหรือไม่ง ย้ำผู้ชุมนุมในไทยสวมหน้ากาก มีไข้ ไอ เจ็บคอ งดทำกิจกรรม จับตา “เวียดนาม” หลังพบผู้ป่วยใหม่ขยายตัว

วันนี้ (31 ก.ค.) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลก ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉลี่ยวันละ 2 แสนราย ประเด็นที่น่าสนใจ คือ เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ล่าสุดพบผู้ป่วย 40-50 คน และเริ่มพบในเมืองอื่นๆ เช่น ฮานอย ขณะนี้ทางการเวียดนามประกาศปิดเมืองดานัง ห้ามคนเข้าออก หลังจากก่อนหน้านี้ประกาศให้คนต่างถิ่นกลับไปกักตัวที่ภูมิลำเนา ซึ่งอาจจะเป็นตัวที่ทำให้เชื้อแพร่ออกนอกเมืองดานัง อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบรายงานต้นตอการระบาด แต่มีข้อสันนิษฐานว่ามาจากชาวต่างชาติ หรืออาจจะเกิดจากการที่ยังมีผู้ป่วยในประเทศ แต่ตรวจไม่เจอ

นพ.ธนรักษ์กล่าวว่า ส่วนฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่ ที่กลับมาเจอผู้ป่วยอีก มีการสันนิษฐานว่า เป็นเพราะการกักกันผู้เดินทางไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น ไทยต้องเรียนรู้เรื่องการกักกันอย่างเข้มข้น อย่างไรก็ตาม มีผู้เชี่ยวชาญกลุ่มหนึ่งมองว่า สาเหตุของการเจอผู้ป่วยอีกครั้ง เป็นเพราะกลุ่มชุมนุมประท้วง แต่ผู้เชี่ยวชาญอีกกลุ่มมองว่าไม่เกี่ยวกัน จึงยังไม่มีการสรุปข้อสันนิษฐานนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีการชุมนุมหลายจุด ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า แม้จะไม่เจอผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีผู้ป่วยหลงเหลือ หลักการจึงยังต้องปฏิบัติตัวเสมือนมีผู้ติดเชื้อในประเทศ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมทางการเมือง หรือการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนหมู่มาก คือ 1. จัดกิจกรรมในพื้นที่เปิดโล่ง ไม่ควรจัดในห้องประชุม 2.หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ ต้องไม่ไปร่วมกิจกรรม 3. สวมหน้ากาก 100% ผู้จัดงานต้องจัดจุดคัดกรอง ให้เข้าออกทางเดียว มีเจลล้างมือ และสำรองหน้ากากอนามัยให้ผู้ร่วมงาน

เมื่อถามถึงบางประเทศพบผู้ดูแลสถานที่กักกันติดเชื้อแล้วนำออกไปแพร่ภายนอก ประเทศไทยต้องปรับปรุงมาตรการหรือไม่ เพราะกำลังจะให้ผู้ประกอบการจัดสถานที่กักกันแรงงานต่างด้าวเอง นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า เราต้องเข้มข้นเรื่องนี้ เพราะมีตัวอย่างให้เห็น อย่างผู้ประกอบกิจการจะต้องหาสถานที่กักนั้น ต้องได้มาตรฐาน ย้ำว่าเข้ามาทางด่านพรมแดนใด จังหวัดใด ต้องกักตัวภายในจังหวัดนั้นจนครบ 14 วัน ถึงเคลื่อนย้ายได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน