“สิบเอก” ไหว้ขอโทษ เมาขับชนยิงปืนใส่นักศึกษาสาว อ้างทะเลาะกับเมีย เลยบันดาลโทสะแม่ทัพภาค 4 สั่งดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมสั่งขังเรือนจำทหาร ตร.เอาผิด 5 ข้อหาหนัก พยายามฆ่าโดยเจตนา ข่มขู่เอาชีวิต ทำให้ผู้อื่นหวาดกลัว น.ศ.ผู้เสียหายยังหวาดผวา เปิดใจนาทีโดนยิงใส่ แถมขู่ว่าจะยิงให้ตายให้หมด ส่วน “จ่าทอ.” ชูปืนจ่อหน้า “ปู-พงษ์สิทธิ์” ถูกส่งตัวไปฝึกเพื่อปลูกจิตสำนึกในความเป็นทหารและวินัย เป็นเวลา 3 เดือน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่ค่าย อิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.ต. จตุพร กลัมพสุต ผบก.ฉก.ปัตตานี และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ควบคุมตัว ส.อ.ปรีชา อินทะรังษี อายุ 31 ปี ทหารพราน สังกัด ฉก.ทพ.22 ใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ยิงใส่ น.ส.ฮานาน นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตปัตตานี มาแถลงผลการดำเนินคดี และ ส.อ.ปรีชา ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย และขอโทษต่อประชาชน

พล.ต.จตุพรกล่าวว่าเรื่องคดีขอให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง และขอโทษประชาชนที่เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น จากการสอบถามทราบว่า ส.อ.ปรีชาอยู่ในช่วงพัก และขณะเกิดเหตุ ส.อ.ปรีชาทะเลาะกับภรรยา จึงเกิดบันดาลโทสะ ประชาชนให้เกียรติเราถืออาวุธปืน แต่กลับไปทำร้ายประชาชน ถือเป็นความผิดร้ายแรง และผิดวินัย ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา จะลงโทษให้ถึงที่สุด ขั้นตอนต่อไปพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี จะส่งเรื่องมาที่ศาลทหาร และ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ฝากขอโทษประชาชน และสั่งให้ดำเนินการถึงที่สุด

สำหรับรายละเอียดเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 8 ส.ค. ร.ต.ท. ศิริศักดิ์ หวังกุหลำ ร้อยเวร สภ.เมืองปัตตานี รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงภายในซอยเจริญประดิษฐ์ ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี จึงนำกำลังรุดไปยังที่เกิดเหตุพบผู้ชายเมาสุราเอะอะโวยวาย และถืออาวุธปืนสั้นขนาด 9 ม.ม. ทราบชื่อต่อมา ส.อ.ปรีชา อินทะรังษี อายุ 31 ปี ทหารพราน สังกัด ฉก.ทพ.22 เจ้าหน้าที่เข้าไปแสดงตัว และเจรจาให้วางปืนลง ผ่านไป 10 นาที ส.อ.ปรีชายอมวางปืน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไป สภ.เมืองปัตตานี

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.อ.ปรีชา ทะเลาะกับภรรยา และออกมาดื่มสุราที่ร้านอาหาร แล้วขับขี่รถยนต์มาถึงภายในซอยเจริญประดิษฐ์ ปรากฏว่าเฉี่ยวชนกับรถยนต์ จึงชักอาวุธปืนยิง ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ภายในซอย ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ม.อ.ปัตตานี ตกใจวิ่งหนีหาที่ซ่อน โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ก่อนตำรวจจะมาระงับเหตุและควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดี

ต่อมาอาจารย์พร้อมด้วยกลุ่มนักศึกษา ม.อ.ปัตตานี เดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เมืองปัตตานี โดย น.ส.ฮานาน อายุ 21 ปี หนึ่งในนักศึกษาผู้เสียหาย ให้การว่าหลังจากจอดรถจักรยานยนต์บริเวณบ้านพัก ปรากฏว่า ส.อ.ปรีชา ขับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่น ไทรทันสีขาว มาจอดบริเวณเดียวกัน และเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของตนเอง จึงเดินออกมาดูและเข้าไปสอบถามคู่กรณี ส.อ.ปรีชาโมโห ชักปืนยิงใส่ 3 นัด แต่กระสุนไม่ถูก จึงวิ่งหนีเข้าบ้านด้วยความหวาดกลัว

ขณะเดียวกัน กลุ่มเพื่อนนักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ร่วมให้การว่า ขณะที่จะจอดรถเข้าบ้านพัก พบส.อ.ปรีชากำลังโวยวาย พร้อมเอาปืนเล็งมาทาง น.ส.ฮานาน และกลุ่มนักศึกษา และตะโกนว่า “ใครกล้าเข้ามา คิดว่านี่เป็นปืนปลอมเหรอ” พร้อมกับยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด ท่ามกลางความตกใจแตกตื่นของผู้เสียหายและประชาชนบริเวณที่เกิดเหตุ

ร.ต.ท.ศิริศักดิ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่าสอบปากคำพยานแล้ว 4 ปาก ส่วน ส.อ.ปรีชา ถูกควบคุมตัวพร้อมอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. กระสุนในแม็กกาซีน 7 นัด และดำเนินคดี 5 ข้อหา คือ 1.พยายามฆ่าโดยเจตนา 2.ข่มขู่เอาชีวิต 3.ทำให้ผู้อื่นตกใจหวาดกลัว 4.พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ และ 5.ยิงปืนขึ้นฟ้า หลังจากพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ต้องหา จะส่งตัวไปยังเรือนจำทหารมณฑลทหารบกที่ 46

ต่อมา น.ส.ฮานาน ผู้เสียหาย ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ทั้งหมดว่า จอดรถจักรยานยนต์คุยกับเพื่อนในซอย 3 ถนนเจริญประดิษฐ์ ช่วงนั้น ส.อ.ปรีชา บ้านอยู่ในซอย ขับรถกระบะ มีภรรยานั่งมาด้วย ขณะขับรถเข้ามาในซอย 3 เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของตนล้มลง แต่ส.อ.ปรีชาไม่ได้จอดดู ยังขับรถต่อไปจอดหน้าบ้าน อยู่ห่างประมาณ 30 เมตร จากนั้น ส.อ.ปรีชาและภรรยาลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้าน

น.ส.ฮานานกล่าวต่อว่า จึงเดินไปสอบถามภรรยาของส.อ.ปรีชา ว่าเห็นรถจักรยายนต์ของตนถูกชนหรือไม่ ภรรยาส.อ.ปรีชาตอบไม่เห็น ก่อนที่ ส.อ.ปรีชา เดินออกมาจากบ้านชักปืนเล็งมาทางพวกตน แล้วลั่นไกยิง 3 นัด แต่ไม่ถูกใคร และยิงขึ้นฟ้าอีก 2 นัด ระหว่างนั้นเพื่อนนักศึกษาหญิง 2 คน ขับรถนำกุญแจบ้านมาให้ ถูก ส.อ.ปรีชา เล็งปืนใส่ทั้งคู่อีก พร้อมพูดข่มขู่ว่า “หากลงมาจะยิงให้ตายให้หมด” จึงพากันวิ่งหนีเข้าไปในบ้านเช่า

“ตอนนั้นหนูกลัวมาก แค่อยากถามพี่เขาว่าเห็นหรือเปล่าว่าขับรถเฉี่ยวจยย.ของหนู แค่อยากให้พี่เขาขอโทษเท่านั้น ไม่คิดว่าจะยิงใส่เลยแบบนี้ และยังรู้ว่าพี่เขาอยู่ช่วงลาพัก แต่ช่วงลาพักก็ต้องระวังเรื่องการใช้อาวุธปืนหรือเปล่า” น.ศ.ผู้เสียหายกล่าว

ขณะที่ ดร.บดินทร์ แวลาเต๊ะ รองคณบดีฝ่ายพัฒนาการศึกษา ม.อ.ปัตตานี กล่าวว่าขณะนี้นักศึกษายังอยู่ในอาการหวาดผวา จึงต้องเร่งช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยเยียวยาจิตใจ เชิญบุคลากรนักจิตวิทยา และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาพูดคุย และเพื่อความสบายใจและมั่นใจในการดูแลนักศึกษาผู้เสียหาย เพื่อนๆ ญาติ และผู้ปกครอง จึงขอฝากถึงเจ้าหน้าที่ขอพื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากมหาวิทยาลัยเป็นสถานศึกษา ไม่อยากเกี่ยวโยงกับเรื่องความมั่นคง

ด้าน พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่าสั่งการให้ดำเนินการทั้งคดีอาญาและวินัยทางทหาร พร้อมสั่งขังเรียบร้อยแล้ว และทำเรื่องไปต้นสังกัดงดบำเหน็จบำนาญ ในส่วนคดีความก็ต้องดำเนินการต่อไป ขอให้ทุกคนสบายใจได้ ไม่เล่นพรรคเล่นพวกช่วยเหลือกัน และไม่มีเจ้าหน้าที่ข่มขู่ประชาชน

“คุณต้องยอมรับว่าทำผิดจริง ถึงแม้เป็นทหาร อยู่ในช่วงเวลาลาพักก็ต้องทำตัวเป็นประชาชนที่ดี ไม่ใช่จะพกอาวุธปืนไปทำอะไรก็ได้ ขอให้ประชาชนสบายใจว่าทหารจะอยู่เคียงข้างประชาชน ดูแลอย่างเต็มความสามารถ ทหารที่เป็นแบบนี้มีน้อยมากในกองทัพ ส่วนใหญ่มีความตั้งใจที่จะช่วยดูแล และพัฒนาพื้นที่ให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พ.อ.อ.ภพไตร นาคสุวรรณ ทหารอากาศ สังกัด บน.21 จ.อุบลราชธานี ชักอาวุธปืนจ่อหน้า “ปู” พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ นักร้องนักดนตรีชื่อดัง ขณะเล่นคอนเสิร์ตในผับที่ จ.อำนาจเจริญ นั้น ล่าสุดกรมกำลังพลทหารอากาศ มีคำสั่งลงโทษ โดยระบุว่าเนื่องจากการตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาของ พ.อ.อ.ภพไตร เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ ทอ. เป็นอย่างยิ่ง

คำสั่งระบุว่า พ.อ.อ.ภพไตร เป็นข้าราชการทหาร ย่อมต้องมีจิตสำนึกในความเป็นทหาร และต้องปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมทหารโดยเคร่งครัด แต่เนื่องจาก พ.อ.อ.ภพไตร ขาดจิตสำนึกในความเป็นทหาร และไม่ประพฤติปฏิบัติตนตามแบบธรรมเนียมทหารที่กำหนดไว้ จึงส่งตัว พ.อ.อ.ภพไตร เข้ารับการฝึกเพื่อปลูกจิตสำนึกในความเป็นทหาร และพัฒนาทักษะความมีวินัยทหาร ระหว่าง 8 ส.ค.-8 พ.ย. เป็นเวลา 3 เดือน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน