ร้อยเอกมอบตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอสู้คดีในชั้นศาล ตร.แจ้งข้อหากักขัง หน่วงเหนี่ยวคุมสอบเครียดคลี่คดีผอ.สาว อบต.ชำ ศรีสะเกษ หายตัวปริศนานานนับเดือน เผยเป็นผบ.ร้อย ที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ ด้านตร.เช็กโทรศัพท์ พบสัญญาณสุดท้ายอยู่ที่อ.น้ำยืน จ.อุบลฯ แถมหลังจากนั้นพบร้อยเอก เอารถวีออสไปฝากขายที่เจ๊ร้านเสริมสวย ก่อนถูกขายไปให้เสี่ยเต็นท์รถ ด้านพ่อเหยื่อร้องศูนย์ดำรงธรรมหวั่นมือมืดคุกคาม

จากกรณี น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ขับรถเก๋งโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา นานกว่า 1 เดือนเศษ พ่อแม่ญาติพี่น้องเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ปิยวัฒน์ ตอสูงเนิน รอง ผกก.(สส.) สภ.บึงมะลู เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตร.ช่วยติดตามหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์ พร้อมเข้าร้องทุกข์กับสื่อมวลชน เพื่อให้ช่วยติดตามอีกทางหนึ่งด้วย ล่าสุด พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เร่งรัดคณะชุดคลี่คลายคดีเร่งสืบสวนติดตามหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์ อย่างเร่งด่วน จนกระทั่งพบรถเก๋งที่หายไป ขณะที่ตำรวจออกหมายเรียกร้อยเอก ในฐานะผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับเสรีภาพตามที่เสนอไปก่อนหน้านี้

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 11 ส.ค. พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ใoช่วงเช้าจะประชุมคณะทำงานคลี่คลายคดีนี้ ที่มี พ.ต.อ.นิพล บุญเกิด รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เป็นหัวหน้าชุด เพื่อสรุปผลการสอบสวน เนื่องจากขณะนี้หลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ พยานหลักฐานแน่นหนามาก มั่นใจว่าจะสามารถทราบผลได้ในเร็วๆ นี้ว่า น.ส.จุฑาภรณ์ที่หายไป จะมีผลเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเวลา 13.30 น.ของวันนี้ที่ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ จะแจ้งข้อกล่าวหาให้นายทหารยศร้อยเอก ที่ออกหมายเรียก เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน ตนพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากว่านายทหารยศร้อยเอกไม่มาพบพนักงานสอบสวน ก็จะออกหมายเรียกอีกครั้งหนึ่ง

ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น.ที่ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ คณะนายทหารจากกรมทหารราบที่ 6 จ.อุบลราชธานี เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุรเดช เพื่อนำตัว ร.อ.ศุภชัย ภาโส ผู้บังคับกองร้อยที่ 112 ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี เข้าพบพนักงานสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยพล.ต.ต.สุรเดช พร้อมแจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวให้เสื่อมเสียอิสรภาพ ในกรณีที่น.ส.จุฑาภรณ์ หายตัวไปนานกว่า 1 เดือน โดยล่าสุดยังคงสอบสวนอยู่ภายในห้องประชุมกองกำกับการสืบสวน บก.ภ.จว.ศรีสะเกษ โดยใช้เวลา กว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง ขณะที่ร.อ.ศุภชัย ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาพร้อมขอให้การในชั้นศาล ก่อนเดินทางกลับทันที

รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางการสืบสวนพบว่า สัญญาณโทรศัพท์ของน.ส.จุฑาภรณ์ หายไปเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 ก.ค. ในพื้นที่อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ต่อมาในช่วงเย็นร.อ.ศุภชัยที่รู้จักใกล้ชิดกับผอ.สาว ได้นำรถเก๋งวีออส ของน.ส.จุฑาภรณ์ ไปฝากขายไว้กับเจ้าของร้านเสริมสวยในจ.อุบลราชธานี ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของน.ส.จุฑาภรณ์ว่าเป็นอย่างไร

ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นพ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ พร้อมด้วย นายบัวกัน อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และญาติพี่น้อง เดินทางมาพบกับนายไพฑูรย์ คล้ายมั่ง หัวหน้างานกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ เพื่อเข้าร้องทุกข์ขอรับความคุ้มครอง เนื่องจากว่าหลังจากที่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับการหายตัวไปของ น.ส.จุฑาภรณ์ และมีข่าวทางสื่อมวลชนทุกแขนงอย่างกว้างขวาง ปรากฏว่าคดีดังกล่าวได้เกี่ยวข้องกับนายทหารยศร้อยเอกคนหนึ่ง

ซึ่งขณะนี้ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทำให้ผู้อื่นเสียเสรีภาพ ซึ่งบรรดาญาติพี่น้องต่างพากันหวาดกลัวมาก อาจจะมีอันตรายจากภัยมืด เนื่องจากว่าผู้ต้องหาเป็นคนมีสี และมีกำลังทหารอยู่ในมือ เกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงมาขอให้ศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ ได้ให้การช่วยเหลือดูแลด้านความปลอดภัยให้ด้วย ซึ่งนายไพฑูรย์ ได้ให้นายบุญเลิศเขียนแจ้งความประสงค์เพื่อดำเนินการประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายบุญเลิศ กล่าวว่า หลังจากที่ข่าวลูกสาวของตนได้หายตัวไปนานกว่า 1 เดือน และมีสื่อมวลชนให้ความสนใจติดตามคดีนี้อย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่าเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 ส.ค. ได้มีชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งมาถามหานายบัวกันที่บ้าน ด้วยลักษณะท่าทางที่ไม่น่าไว้วางใจ โดยเมื่อทราบว่านายบัวกัน ซึ่งเป็นอาของ น.ส.จุฑาภรณ์ที่เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนไม่อยู่บ้าน กลุ่มชายฉกรรจ์ได้พากันขับขี่รถยนต์ปิกอัพออกไป อีกทั้งขณะนี้ มีชายแปลกหน้าหลายคนเข้ามาวนเวียนในหมู่บ้านที่ตนอยู่ ทำให้พวกตนและญาติพี่น้องหวาดกลัวว่าจะได้รับอันตราย ดังนั้น จึงได้มาร้องขอความช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ

นายไพฑูรย์ หัวหน้างานกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางพนักงานสอบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ รับเรื่องราวร้องทุกข์เป็นคดีเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งผู้ต้องหา เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตนจะรายงานเรื่องนี้ให้นายธวัช สุระบาล ผวจ.ศรีสะเกษ ให้ทราบ และจะได้ประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนายบุญเลิศและญาติพี่น้องอย่างเร่งด่วนต่อไป

 

 

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน