แม่น้องพลอย พร้อมทนายโร่ยื่นหลักฐานเพิ่มให้ตร. เชื่อ มีคนอยู่เบื้องหลังใหญ่กว่าสิบเอก ก่อเหตุอุ้มฆ่าเผาลูกสาว พร้อมร้องขอการคุ้มครองเนื่องจากมีมือมืดติดตามตัว และส่งข้อความข่มขู่ ด้าน ผู้การจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เผยขอดูหลักฐานก่อนว่าจะแจ้งข้อหาใครเพิ่มได้หรือไม่ แต่ยันพ่อสิบเอก ยศพันเอก ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งไม่เคยกดดันคดี ศาลทหารอนุมัติหมายจับอดีตสิบเอก ข้อหาฆ่าซ่อนเร้นอำพรางศพ

จากคดีสะเทือนขวัญ “น้องพลอย” น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล อายุ 28 ปี หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่ปี 2557 จากที่ทำงาน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งครอบครัวพยายามตามหา กระทั่งนายวิชา ผลิผล อายุ 53 ปี และนางพัชรี ปั้นทอง อายุ 51 ปี พ่อแม่น้องพลอยเข้ายื่นหนังสือร้องต่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เพื่อให้เร่งรัดติดตามจับกุมคนที่ลักพาตัวลูกสาวไปกว่า 3 ปี ที่ศูนย์บริการประชาชนเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงรื้อคดีนี้ขึ้นมาสอบสวนอีกครั้ง กระทั่งพบผู้ต้องสงสัย คือ ส.อ.พลกฤต วิเศษ อดีตทหารสังกัดศูนย์การทหารปืนใหญ่ลพบุรี ถูกให้ออกจากราชการเมื่อปี 2557 จนสามารถจับกุมตัวได้และรับสารภาพอุ้มฆ่าเผาน้องพลอยทิ้งศพไว้ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ส.ค. ที่บก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นางพัชรี ปั่นทอง อายุ 51 ปี นายรณรงค์ แก้วเพชร อายุ 32 ปี ทนายความ เข้ามอบหลักฐานเอกสารเพื่อเอาผิดผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องพลอย อย่างน้อย 2 คน และขอให้ได้รับความคุ้มครอง ต่อ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา

นางพัชรีเปิดเผยว่า ตอนนี้มีกำลังใจดีขึ้นมาก ตนเดินทางมาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องพลอย เพราะเชื่อว่าส.อ.พลกฤต หรือเอส ไม่ได้ลงมือเพียงคนเดียว ต้องมีอย่างน้อย 2 คน ถึงจะลงมือได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยเหลือและผู้ให้ที่พักพิง ทั้งนี้ช่วงที่น้องพลอยเสียชีวิตแรกๆ เคยโทรศัพท์ไปหา พ.อ.ชัยวุฒิ วิเศษ บิดาของส.ต.พลกฤต ประมาณ 3-4 ครั้ง เพื่อสอบถามว่าเห็นลูกสาวตนหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่เห็น

นางพัชรีกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ยังเชื่อว่าจะได้เจอน้องพลอยอีกครั้ง แต่เมื่อรู้ผลดีเอ็นเอเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา รู้สึกเสียใจ ต่อจากนี้จะไปทำพิธีเชิญวิญญาณให้น้องพลอยกลับบ้าน และทำพิธีทางศาสนาต่อไป ทั้งนี้ อยากขอบคุณสื่อทุกสำนัก ทนายความ เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ที่ทำให้ความจริงทั้งหมดปรากฏ

นางพัชรีกล่าวอีกว่า ช่วงที่น้องพลอยหายไปเดือนกว่าๆ ก็ฝันเห็นน้องในสภาพผมยาว โทรม เดินเข้ามากราบเท้าแม่ และฝากกราบเท้าพ่อด้วย จึงถามว่าไม่คิดถึงแม่เหรอ น้องพลอยบอกว่าคิดถึงมาก แต่มาไม่ได้เพราะอยู่ไกล จากนั้นก็เดินหายไป ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา น้องก็เข้าฝันแม่อีกรอบ ในสภาพตัวเปียก พูดจาเหมือนคนสำลักน้ำ แล้วก็บอกให้ช่วย จึงเชื่อว่าน้องอาจจมน้ำเสียชีวิต เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ไปดูจุดทิ้งศพก็พบมีลำธารอยู่ จึงอยากให้ตำรวจสอบสวนต่อไป

นางพัชรีกล่าวว่า ทุกวันนี้รู้สึกไม่ปลอดภัย เหมือนมีคนรู้ความเคลื่อนไหวตลอดเวลา และติดตามตนอยู่ เชื่อว่าแฝงตัวมากับสื่อมวลชน และมีคนส่งข้อความคุกคามอยู่ตลอดเวลาด้วย

นายรณรงค์ทนายความเปิดเผยว่า เบื้องต้นเตรียมหลักฐานไว้หลายอย่าง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เห็นหลักฐานแล้ว ว่าจะแจ้งความข้อหาอะไร และกับใครอีกเพิ่มเติม แต่เชื่อว่าอย่างน้อยก็ 2 คน นอกจากนี้ยังมาขอความคุ้มครองความปลอดภัยให้กับนางพัชรีด้วย

พล.ต.ต.สุทธิกล่าวว่า ตนทราบเรื่องตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ขั้นตอนนี้ก็เหลือแต่เอาคนร้ายมารับแจ้งข้อกล่าวหาจากเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งคนร้ายค่อนข้างมีความชำนาญในเรื่องไอที จึงทำให้การสอบสวนเป็นไปค่อนข้างยาก ผู้ต้องหาค่อนข้างระวังตัวมาก มีรถแปลกขับไปแถวบ้าน เขาก็หนีออกจากบ้านแล้ว แต่ด้วยระยะเวลาที่ทิ้งมานานทำให้ผู้ต้องหาเกิดความชะล่าใจ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมตัวได้ในที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาเพียงแค่ 13 วัน ก็จับกุมได้แล้ว ในส่วนของพ่อผู้ต้องหา ที่มียศ พ.อ.นั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีอิทธิพลต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเลย

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาอ้างว่าทำคนเดียว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสอบสวนต่อไปว่าได้ทำคนเดียวจริงหรือไม่ ก่อนที่จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับใครหรือไม่ ซึ่งต้องดูหลักฐานที่แม่ ผู้เสียชีวิตและทนายความยื่นเพิ่มเติมด้วยว่าสามารถแจ้งข้อหาใครได้บ้าง

พล.ต.ต.สุทธิกล่าวต่อว่า ในส่วนของเรื่องรถยี่ห้อนิสสัน รุ่นซิลฟี่ ที่ว่าหลังจากผู้ต้องหาก่อเหตุเสร็จก็นำรถไปขายนั้น จะตรวจสอบว่ารถนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของใคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถที่เต็นท์ โดยก่อนที่รถจะไปขายที่รถ ก็ทำความสะอาดไว้ก่อนแล้ว หลักฐานอาจถูกลบล้างไปบ้าง แต่ต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง

วันเดียวกันศาลทหารบกที่ 18 อนุมัติหมายจับ ส.อ.พลกฤตตามคำร้องของพ.ต.ท. ณัฏฐพล ผดุงรัตน์ พงส.สภ.เขาหินซ้อน ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ ทำให้เสียทรัพย์ ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย และโดยไม่มีเหตุสมควรทำให้เสียหาย เคลื่อนย้ายทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งศพหรือส่วนของศพ โดยมีอายุความ 20 ปี ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. 2557-21 พ.ค. 2577

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน