สตม.ร่วมกรมการกงสุล และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดใช้ช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ นักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์ประเดิมเป็น ชาติแรก ก่อนให้ประเทศอื่นมาลงทะเบียนใช้ เพื่อความรวดเร็วทั้งถ่ายภาพและพิมพ์ลายนิ้วมือเป็นฐานข้อมูลยืนยันตัวตนในการเดินทางครั้งถัดไป ทำงานร่วมกับระบบตรวจสอบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า ตรวจสอบผู้โดยสารทันทีที่เช็กอินกับสายการบิน ลดความแออัดของผู้โดยสาร

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 ส.ค. พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม., นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล และนายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมพิธีเปิดใช้งานช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (ออโตเกต) สำหรับชาวต่างชาติ บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 2 โซนตะวันตก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเปิดให้สิงคโปร์ใช้งานเป็นประเทศแรก จากนั้นสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จะร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เปิดให้ผู้โดยสารจากประเทศอื่นใช้งาน ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายประเทศ โดยคำนึงถึงเหตุผลด้านความมั่นคงเป็นหลัก

พล.ต.ท.ณัฐธรกล่าวว่า สตม.หารือร่วมกับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ นายธงชัย ชาสวัสดิ์ เอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ และนายคลาเรนซ์ เหียว ผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมือง และด่านพรมแดนประเทศสิงคโปร์ (ไอซีเอ) ในการเปิดให้ประชาชนสามารถใช้ช่องตรวจอัตโนมัติได้ ทำให้ ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง ด้วยการนำนวัตกรรมมาเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แก้ไขปัญหาผู้โดยสารหนาแน่นในสนามบิน เนื่องจากข้อจำกัดด้านกายภาพ ทั้งพื้นที่ให้บริการผู้โดยสาร และจำนวนเคาน์เตอร์ช่องตรวจ เน้นการให้บริการด้วยความสะดวก รวดเร็ว ลดปริมาณผู้โดยสารที่เข้าตรวจกับเจ้าหน้าที่ ถือเป็นการนำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหาผู้โดยสารหนาแน่นในสนามบินอย่างเป็นรูปธรรม

ระยะแรกเปิดให้ผู้โดยสารจากประเทศสิงคโปร์ใช้งานเป็นประเทศแรก ตามความตกลงในลักษณะแลกเปลี่ยน ซึ่งสิงคโปร์กำลังพิจารณาเปิดให้คนไทยใช้ช่องตรวจหนังสือ เดินทางอัตโนมัติของสิงคโปร์เช่นกัน สำหรับระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติจะจัดเก็บข้อมูลของผู้โดยสาร ภาพถ่าย และลายพิมพ์นิ้วมือ เพื่อใช้ในการตรวจสอบยืนยันตัวตนในการเดินทางครั้งถัดไป และทำงานร่วมกับระบบตรวจสอบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (เอพีพีเอส) ตรวจสอบผู้โดยสารทันทีที่เช็กอินกับสายการบิน ทำให้ระบบมีความปลอดภัยสูงเชื่อถือได้ เสริมสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ

“ขณะนี้เปิดทดลองให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นจะขยายไป ถึงสนามบินนานาชาติทั่วประเทศ อาทิ ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานอู่ตะเภา พร้อมทั้งเปิดให้ ชาติอื่นๆ มาลงทะเบียน โดยจะพิจารณาเป็นรายประเทศ เน้นประเทศที่นักท่องเที่ยวมีศักยภาพสูง แต่ละปีมีประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยจะคำนึงถึงเหตุผลด้านความมั่นคงเป็นหลัก” ผบช.สตม.กล่าว

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน