จากที่ชาวเน็ตแชร์ภาพคนขับรถแท็กซี่ที่มีสายออกซิเจนมัดติดเบาะ พร้อมเสียบสายใช้หายใจเอาไว้ด้วย โดยต่อมาพบว่า คนขับแท็กซี่รายดังกล่าวป่วยโรคไต ต้องล้างทุก 4 ชั่วโมง เบาหวาน ตาต้อ แต่จำเป็นต้องออกมาขับรถหาเลี้ยงชีพ ด้วยความจำเป็น ทำให้มีประชาชนใจดีโอนเงินบริจาคไปจำนวนมาก มีผู้บริจาค 1 วัน ยอดบริจาค 1,189,486.91 บาท และล่าสุดได้มีการปิดบัญชีเปิดรับบริจาคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อ่าน แท็กซี่สู้ชีวิตเปิดใจ โรครุมต้องขับรถหาเงินล้างไต เบาหวานขึ้นตามองเลือน

โดย ลุงกล้า บอกว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้รับความช่วยเหลือและกำลังใจจากคนไทยมากมายขนาดนี้ พร้อมทั้งขอบคุณผู้โดยสารใจบุญที่นำเรื่องราวตนเองไปแชร์ในโลกออนไลน์ทำให้ชีวิตของตนดีขึ้น ตอนนี้อยากติดต่อไปยังผู้โดยสารคนดังกล่าวแต่เนื่องวันนั้นมีคนโทรศัพท์ตนเยอะมากจึงจำเบอร์ผู้โดยสารใจบุญไม่ได้

ส่วนเรื่องเงินบริจาคตั้งใจว่าจะเก็บไว้รักษาตัว และคงจะไม่นำไปซื้อแท็กซี่ตามความตั้งใจเดิมแล้ว เพราะหลวงพ่อขอบิณฑบาตรไว้เนื่องจากกลัวจะเป็นอันตรายตนเองจึงรับปาก ส่วนหลังจากนี้จะไปทำอาชีพอะไรนั้นคงต้องรอพูดคุยกับภรรยาก่อน เพราะภรรยาพาลูกสาววัย 9 ขวบ กลับไปอยู่ต่างจังหวัดในช่วงโควิด-19 แต่ตอนนี้ตนได้ตามให้กลับมาแล้ว

นายสุเมธ ได้กล่าวถึงประเด็นดราม่าเรื่องลูกชายที่ยืนยันว่าดูแลพอมาตลอดนั้น ว่า ยืนยันที่ผ่านมาลูกชายวัย 18 ปี ให้ความช่วยเหลือตนเองตามกำลังที่มีมาตลอด แต่เนื่องจากทำงานอยู่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จึงไม่สามารถเดินทางมาดูแลได้ จึงขอสังคมอย่าต่อว่าลูกชายตนเลย ที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของบ้านเช่า เจ้าของอู่แท็กซี่หน้าเรือจำปทุมฯ โดยตลอด โดยเฉพาะเจ้าของอู่รถที่ยอมให้ตนเช่ารถแท็กซี่และผ่อนผันค่าเช่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน