ผบ.ทบ.สั่งสอบเหตุพลทหาร ทาโร่ ทหารสังกัด มทบ.45 ค่ายวิภาวดีรังสิตอ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ที่เสียชีวิตปริศนา หลังญาติสงสัยถูกซ่อมหนักจนตาย ขณะที่ตร.ส่งชันสูตรที่นิติเวช ตร. เพื่อหาสาเหตุอะไรทำให้ลิ้นหัวใจฉีกขาดจนเสียชีวิต คาดใช้เวลา 2 อาทิตย์ ขณะที่ ผบ.มทบ.45 เปิดหลักฐานภาพวงจรปิด ยันไม่มีการซ้อมทำร้าย แต่เป็นการทำโทษ โดยให้วิดพื้นทั้งกองร้อยราว 20 นาที จากนั้นปล่อยให้ไปอาบน้ำ ก่อนมีภาพพลทหารทาโร่กับรุ่นพี่นั่งอยู่ที่คลังอาวุธและลุกเดินออกไปด้วยท่าทางปกติ โดยเชิญญาติพูดคุยชี้แจงทำความเข้าใจ สั่งสอบว่าช่วงที่ออกไปนอกค่ายมีเหตุการณ์อะไรบ้าง แม่บุญธรรมเผยรู้สึกสบายใจขึ้น แต่ยังขอรอผลการชันสูตรจากนิติเวชก่อน

จากกรณีญาติของพลทหารนพดล วรกิจพันธ์ หรือพลทหารทาโร่ อายุ 21 ทหารกองประจำการ มทบ.45 ค่ายวิภาวดีรังสิต อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตปริศนา โดยก่อนเสียชีวิตมี 2 พลทหารพากลับมาที่บ้านและแจ้งให้พี่สาวทราบว่าถูกซ่อม (ลงโทษทางวินัย) มา ก่อนน้องทาโร่แจ้งกับพี่สาวว่ารู้สึกเพลียและขอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนอน หลังจากนั้นไม่ถึง 20 นาที ก็พบว่านอนเสียชีวิตอยู่ในห้อง ในสภาพมีเลือดออกตามปากและจมูก จึงนำร่างพลทหารทาโร่ ส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี แพทย์ชันสูตรเบื้องต้นพบว่าลิ้นหัวใจฉีกขาดและมีเลือดคั่งภายในจำนวนมาก ทำให้ญาติเชื่อว่าจะถูกซ่อมหรือการลงโทษทางวินัยจนเสียชีวิต จึงออกมาร้องขอความเป็นธรรม ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ลิขิต ชุมช่วย สว.สส. สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมชุดสืบสวน เดินทางไปที่กองร้อย มทบ.45 ค่ายวิภาวดีรังสิต เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพลทหาร 2 นายที่นำตัวพลทหารทาโร่มาส่งที่บ้านพักในเวลาว่าประมาณ 21.00 น. ซึ่งจากการตรวจสอบเมื่อเวลา 20.45 น. (เวลาจริง 20.58 น.) ของคืนวันที่ 19 ส.ค. ปรากฏภาพวงจรปิดจับภาพขณะพลทหารทาโร่สวมชุดลำลองทหาร กับพลทหารรุ่นพี่ คือ พลทหารชัยฤกษ์ อัครกุล นั่งอยู่ที่เวรยามประจำคลังอาวุธ โดยทั้งคู่นั่งอยู่นาน 14 นาที หลังจากนั้นพากันเดินออกไปจากบริเวณดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับการสอบปากคำ พลทหารชัยฤกษ์ อัครกุล และ พลทหารปริญญา ราชจินต์ ว่าได้ชวนกันออกจากค่ายจริง โดยพลทหารปริญญา เป็นผู้ไปรับรถจักรยานยนต์จากพี่สาวที่นำมาจอดทิ้งไว้ข้างค่ายทหาร แล้วกลับมารับทั้ง 2 ออกจากจุดเวรยามประจำคลังอาวุธ ก่อนพากันไปที่บ้านพักของพลทหารทาโร่ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและจะไปเที่ยวงานโชว์รถจักรยานยนต์ที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี

ด้านพล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนกำลังสอบสวนข้อเท็จจริงอยู่ เบื้องต้นทราบว่า พลทหารนภดลหนีไปจากกองร้อย เมื่อเวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง ของคืนวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา กับเพื่อนอีก 2 คน กลับไปบ้านและเสียชีวิตที่บ้าน ซึ่งตนกำลังสอบสวนถึงข้อเท็จจริงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งสาเหตุการหนีออกจากกองร้อย และการเสียชีวิตของพลทหารคนดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เมื่อปีที่แล้วเคยเกิดเหตุการณ์ซ้อมพลทหารยุทธภินันท์ บุญเนียม จนเสียชีวิตใน มทบ.45 และ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสารท ผู้บัญชาการทหารบก เน้นย้ำไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าวว่า ขอตรวจสอบข้อมูลก่อนว่าพลทหารนภดล ถูกซ้อม โดนซ่อม หรือเป็นอะไรเสียชีวิต ยืนยันว่าต้องตามให้ถึงที่สุด และหากมีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตก็ต้องถูกดำเนินการทุกคน

“กรณีของพลทหารยุทธภินันท์ ขณะนี้ในส่วนของขั้นตอนทหารจบไปแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินคดีของตำรวจ หากคดีถึงที่สุดแล้วมีความผิด ก็ต้องปลดจากทหาร ในส่วนของทหารที่เกี่ยวข้องก็ยอมรับผิดหมด ก็ดำเนินการไป ยืนยันเราไม่ช่วยใครอยู่แล้ว ทุกอย่างทำตามกฎหมาย ใครผิดว่าไปตามผิด เมื่อเป็นทหารทำผิดก็ต้องปลดและติดคุกไป ส่วน ผู้บังคับบัญชา ต้องรับผิดชอบตามวินัยอยู่แล้ว เป็นตามระเบียบของกองทัพบก ขณะนี้ ผบ.ทบ.คงจะทราบข้อมูลคร่าวๆ เหมือนกับที่ผมทราบ ซึ่งผมยังไม่ได้รายงาน ผบ.ทบ. เพราะต้องรอข้อมูลการตรวจสอบทั้งหมด คาดว่าประมาณช่วงบ่ายของวันนี้ ผมจะนำข้อมูลไปรายงาน ผบ.ทบ.ให้ทราบ” พล.ท. ปิยวัฒน์กล่าว

วันเดียวกัน ที่สถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ ร.ต.อ.ทะนงศิลป์ ขนายน้อย รองสารวัตร (สอบสวน)สภ.เมืองสุราษฎร์ นำศพพลทหารทาโร่ ส่งชันสูตร โดยรายงานผลการชันสูตรเบื้องต้นพบว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากระบบเลือดและหัวใจล้มเหลว แต่ยังไม่ทราบว่าล้มเหลวจากสาเหตุใด ต้องนำชิ้นเนื้อและอวัยวะภายในส่งไปตรวจพิสูจน์ในห้องแล็บ เนื่องจากศพมีการฉีดฟอร์มาลีนและมีการผ่ามาก่อนหน้านี้แล้ว คาดว่าประมาณ 2 สัปดาห์จึงจะทราบผลการตรวจจากห้องแล็บ

ต่อมา 10.00 น. ที่ มทบ.ที่ 45 พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผบ.มทบ.45 ได้เชิญทางญาติของพลทหารทาโร่ ที่เสียชีวิต เข้าพบเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และรับฟังข้อคิดเห็นซึ่งนางมาลัยภรณ์ วรกิจพันธ์ อายุ 53 ปี แม่บุญธรรมของพลทหารทาโร่ได้เดินทางมาพร้อมญาติรวม 6 คน ซึ่งมีพี่สาวที่อยู่ในเหตุการณ์คืนที่เกิดเหตุมาร่วมพูดคุยกันด้วยพร้อมเรียกพลทหารบัดดี้ร่วมฝึกของพลทหารทาโร่มาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมด้วย

หลังใช้เวลาพูดคุยกันนานกว่า 2 ช.ม. ทั้งหมดลงมาแถลงต่อสื่อ พร้อมเปิดภาพกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ การสั่งซ่อมวินัยทหารหมู่ ช่วงเวลา 19.00 น. โดยใช้เวลาสั่งซ่อมนาน 20 นาที ก่อนจะปล่อยพลทหารทั้งหมดอาบน้ำเพื่อเตรียมขึ้นนอน และเวลา 20.45 น. (เวลาจริง 20.58 น.) ปรากฏภาพวงจรปิดที่จับภาพ ขณะพลทหารทาโร่ ซึ่งสวมชุดลำลองทหาร กับพลทหารรุ่นพี่ คือ พลทหารชัยฤกษ์ อัครกุล นั่งอยู่ที่เวรยามประจำคลังอาวุธ

พล.ต.วิชัยเผยว่า ข้อมูลภาพวงจรปิดขณะที่พลทหารทั้งกองร้อยถูกทำโทษด้วยการยึดพื้นจำนวน 20 ยก และขณะที่ออกมานั่งรอเพื่อน 2 คนที่มารับ เมื่อเพื่อนมาก็ลุกขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งในภาพจะเห็นว่าพลทหาร ทาโร่ยังคงมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ทุกอย่างไม่มีอาการอ่อนแรง อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสอบสวนให้เกิดความกระจ่าง ส่วนของห้วงเวลาที่ทางญาติยังสงสัย จะสั่งให้สอบสวนพลทหารที่อยู่ภายในกองร้อย กว่า 60 ชีวิต เพื่อให้ทราบว่าในช่วงเวลา 19.30-20.45 น. พลทหารนพดลผู้ตายทำอะไรอยู่เนื่องจากไม่มีภาพปรากฏในวงจรปิด ทั้งนี้ในส่วนของการลงโทษทางวินัยหรือที่เรียกว่าการซ่อมนั้น ก็เป็นไปตามกฎระเบียบ คือการให้ยึดพื้น หรือดันพื้น และอื่นๆ โดยใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น ก่อนจะให้อาบน้ำขึ้นเรือนนอน และเกิดเหตุการณ์จนเสียชีวิต ทั้งนี้ยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือและให้ความเป็นธรรมต่อญาติผู้เสียชีวิตมากที่สุด

นางมาลัยภรณ์เผยว่า หลังจากได้ดูภาพวงจรปิดก็รู้สึกสบายใจขึ้น แต่ยังติดใจในช่วงเวลาที่พลทหารนพดลเข้าไปอาบน้ำว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง อย่างไรก็ตามต้องรอผลการชันสูตรของแพทย์อย่างเป็นทางการของแพทย์ทั้ง ร.พ.สุราษฎร์ธานีและร.พ.ตำรวจ ที่จะส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำสำนวนชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ต่อไป

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ในเบื้องต้นหน่วยงานต้นสังกัดให้ข้อมูลมาว่า คดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างดำเนินการชั้นพนักงานสอบสวน ล่าสุดยังไม่พบข้อมูลว่ามีการกระทำนอกกฎระเบียบราชการ โดยเฉพาะการทำโทษที่รุนแรงแบบถูกเนื้อต้องตัวกันแต่อย่างใด

“ทางหน่วยต้นสังกัดอยู่ระหว่างการต้องไปเจาะลึกรายละเอียดเพิ่ม ไปในช่วงเวลาสั้นๆ ว่าหลังทางสิบเวรปล่อยให้ทหารได้ไปอาบน้ำและพักผ่อนกันตามอัธยาศัยนั้น มีการกระทำอะไรที่ไม่เหมาะสมของสิบเวร หรือเพื่อนพลทหารด้วยกันเองหรือไม่ ทั้งนี้รวมไปถึงช่วงเวลาที่พลทหารนพดลไปใช้เวลาอยู่ภายนอกพื้นที่ของหน่วยอย่างละเอียดควบคู่ไปด้วย” พ.อ.วินธัยกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน