เปิดบทความ‘ทนายดัง’ถึงบทบาท‘วิชา’ กับขบวนการยุติธรรม ถ้ารื้อคดี‘บอส อยู่วิทยา’ใหม่ได้ เท่ากับการรื้อคำพิพากษาฎีกาได้ด้วยหรือไม่

วันที่ 3 ก.ย. นายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความ และนักวิชาการทางด้านกฏหมาย โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับกรณีศึกษาคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ว่าถูกแทรกแซงโดยนักการเมืองหรือไม่ว่า

คดีนี้พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงถึงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ท่านวิชา มหาคุณ กับคณะในคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ว่าทราบผลแล้ว

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

โดยนายวิชาฯ เสนอแนะนายกฯ ให้ดำเนินการทางวินัยและอาญาต่อเจ้าหน้าที่รัฐและบุคคลอื่นที่ร่วมขบวนการให้นายวรยุทธ หลุดพ้นจากคดี โดยอ้างคำพิพากษาศาลฎีกา คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9334/2538 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6446/2547 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3509/2549 และ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 646/2510

แต่ฟังจากน้ำเสียงที่ท่านนายกแถลงนั้น สำนักงานอัยการเป็นองค์กรอิสระ ไม่ก้าวล่วง ในส่วนของตำรวจนั้น “ท่านคุมตำรวจสั่งการให้ตำรวจดำเนินคดีใหม่ได้แน่นอนในคดีที่ยังไม่ขาดอายุความ ส่วนความเห็นอื่นที่ท่านวิชา มหาคุณ เสนอนั้น เช่น สมาชิกสภานิติแห่งรัฐและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่แทรกแซง การปฎิบัติหน้าที่ท่านไม่ได้พูดถึงนั้น แสดงว่าท่านไม่เห็นด้วยกับท่านวิชาฯ เสนอแนะหรือไม่

ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3509/2549 เรื่องที่อัยการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบนั้น ความผิดฐานขับรถประมาท ที่รองอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดไปแล้ว การที่ท่านโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ผมไม่ใช่คนที่จะตัดสินได้ว่า นายวรยุทธ หรือ บอส มีความผิดหรือไม่ คนที่จะตัดสินคือศาล ตามพยานหลักฐานอย่างถูกต้อง และสิ่งที่นายกฯ จะทำได้คือ ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาภายในอายุความนั้น ไม่สามารถทำได้ในเหตุเดียวกันอีก แม้คดีอาญาไม่ระงับตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 39(4) ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6446/2547 และตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9334/2538 ตามที่นายวิชา เสนอแนะนั้นเป็นกรณี “ไม่ตัดสิทธิที่ทายาทดาบวิเชียร กลั่นประเสริฐ (ผู้ตาย) ไปฟ้องคดีเอง แต่ทายาทผู้ตายก็ออกมายืนยันว่าได้รับการช่วยเหลือเรื่องมนุษย์ธรรมจนเป็นที่พอใจแล้ว อันนี้ทายาทบอกว่าไม่ฟ้องแล้ว

ผลของการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ หรือบอส นั้น เจตนาของกฎหมายบัญญัติว่า ห้ามมิให้สอบสวนเกี่ยวกับบุคคลนั้นในเรื่องเดียวกันนั้นอีก เว้นแต่จะได้มีพยานหลักฐานใหม่อันสำคัญแก่คดี ซึ่งน่าจะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหานั้นได้นั้น ตำรวจไม่สามารถที่จะรื้อคดีมาสั่งฟ้องอีกได้ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2557

ท่านนายกฯ ก็บอกว่า ไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ แต่ท่านมีอำนาจสั่งให้รื้อคดีใหม่ทั้งหมด ท่านนายกฯ คงชินกับการใช้อำนาจ ม.44 ถึงได้พูดเช่นนั้นหรือไม่

“หากคดีนี้สามารถรื้อฟื้นคดีได้ดังที่ท่านนายกรัฐมนตรีจะออกคำสั่ง อีกหน่อยถ้าศาลฎีกา “ยกฟ้อง” กระแสสังคมไม่พอใจ นักการเมืองแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมได้ ก็ต้องกลับมาตั้งต้นใหม่อย่างนั้นหรือ ความเป็นอิสระในการวินิจฉัยขององค์กรอิสระ ที่มีกฏหมายรองรับถูกสังคมกดดันได้อย่างนั้นหรือ”นายสุกิจกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน