ร.อ.-รายงานตัว คดี ผอ.สาวหาย พบเลือดในเก๋ง ผู้กองหนุ่มยังให้การวกวนไปมา

นายทหารพระธรรมนูญคุมตัวผู้กองเหน่ง ทหารที่สนิทสนม กับผอ.อ้อย สาวผอ.กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัวไปปริศนาเข้ารายงานตัวพนักงานสอบสวนสภ.กันทรลักษ์ รองผู้การศรีสะเกษเผยคดีคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ผู้กองหนุ่มยังให้การวกวนไปมาไม่เหมือนเดิม เผยผลตรวจรถเก๋งผอ.อ้อย พบคราบเลือดกระจายเต็มเบาะหลัง อยู่ระหว่างตรวจทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็นเลือดอะไร

จากกรณีน.ส.จุฑาภรณ์ หรือผอ.อ้อย อุ่นอ่อน ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ ก่อนพ่อแม่ของน.ส.จุฑาภรณ์จะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยติดตาม กระทั่งพบเบาะแสเป็นรถยนต์ที่ถูกนำไปขายหลายทอด จึงนำมาสู่การสอบและแจ้งข้อหา ร.อ.ศุภชัย ภาโส นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 จ.อุบลราชธานี ที่สนิทสนม กับน.ส.จุฑาภรณ์ ฐานปลอมแปลงเอกสาร พร้อมเร่งติดตามหาตัวน.ส.จุฑาภรณ์ ทั้งใน จ.ศรีสะเกษ และจ.อุบลราชธานี ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้ว

ความคืบหน้าคดีผอ.สาวหายตัวปริศนา เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ส.ค. พ.ท.สุวิทย์ ขำคม นายทหารพระธรรมนูญ และพ.ท. วันชัย ปรีวัน เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 ควบคุมตัว ร.อ.ศุภชัย หรือเหน่ง ภาโส ผบ.ร้อยอาวุธเบาที่ 2 ร.6 พัน.2 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เข้าพบพ.ต.อ.ชัย ไชยพันธ์นา ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ภ.จว.ศรีสะเกษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวตามนัด เป็นการรายงานตัวครั้งที่ 1 ในรอบ 12 วัน

พนักงานสอบสวนจึงคุมตัวพิมพ์ลายนิ้วมือส่งกองพิสูจน์หลักฐานตรวจเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือแฝงกับวัตถุพยานสำคัญ และรถยนต์โตโยต้า วีออส ทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ของน.ส.จุฑาภรณ์ที่เป็นของกลางในคดี จากนั้นร.อ.ศุภชัยและคณะเดินทางกลับไปทันที โดยใช้เวลาในการเข้าพบพนักงานสอบสวนประมาณ 20 นาที โดยยังไม่ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมจากเดิมที่แจ้งไว้ 4 ข้อหา ประกอบด้วย 1.หน่วงเหนี่ยว หรือ กักขัง ผู้อื่น, 2.ลักทรัพย์ของผู้อื่น หรือ รับของโจร, 3.ปลอมหรือใช้อ้างเอกสารปลอม, 4.ทำให้ เสียหาย ทําลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทําให้สูญหายหรือ ไร้ประโยชน์ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

ด้านพ.ต.อ.นิพล บุญเกิด รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีให้สัมภาษณ์ที่ สภ.กันทรลักษ์ ว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก สอบปากคำพยานไปแล้วหลายคน ส่วนการสอบปากคำร.อ.ศุภชัยผู้ต้องหาในหลายประเด็น พบว่า ให้ปากคำวกไปวนมาไม่เหมือนเดิม พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานว่า ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า พบศพหญิงผมยาว ที่ชายแดนไทย-ลาว ด้านผานางอิง เขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.นาจะหลวย จ.อุบล ราชธานี เป็นเพียงเล่าว่า มีการพบศพ บางคนเล่าว่าศพที่พบแต่งกายเหมือนนายพราน เจ้าหน้าที่ยังติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยประสานงานระหว่างหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ระหว่าง 2 ประเทศเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง แต่ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากประเทศลาวแต่อย่างใด

ส่วนรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ที่น.ส.จุฑาภรณ์ขับก่อนหายตัวไป เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีตรวจยึดไว้เป็นของกลาง สภาพรถถูกถอดชิ้นส่วนทำสีใหม่ทั้งคัน ต้องดูว่ามีร่องรอยอะไรบ้างคงจะไม่พบ เจ้าหน้าที่เร่งตรวจพิสูจน์รถและเก็บหลักฐานภายในรถแล้ว ขณะนี้เพียงรอการตรวจพิสูจน์ยืนยันว่าในรถมีหลักฐานอะไรบ้าง สำหรับข้อหาทั้ง 4 ข้อกล่าวหาที่แจ้งกับ ร.อ.ศุภชัย นั้น แต่ละข้อหาหนักเท่าๆ กัน โทษ 3-5 ปี และ บางข้อหา 5 ปีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล

รายงานข่าวจากกองพิสูจน์หลักฐาน บก.ภ. จว.ศรีสะเกษ แจ้งว่า ผลตรวจรถยนต์คัน ดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา พบคราบเลือดกระจายอยู่ที่บริเวณเบาะหลัง ล่าสุดอยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์หาข้อเท็จจริงว่า เป็นคราบเลือดใครหรือไม่อย่างไร พนักงานสอบสวนได้ส่งรถยนต์ของกลางไปที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน บช.ภาค 3 เพื่อตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดแล้ว

ด้านนายบัวกัน อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ อาของน.ส. จุฑาภรณ์ กล่าวว่า จนถึงบัดนี้บรรดาญาติ พี่น้องยังตามหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดไปค้นหาบริเวณห้วยผึ้ง ทิศตะวันตกของฐานปฏิบัติการชายชาญ และที่บริเวณสำนักสงฆ์เก่า ซึ่งเป็นบริเวณที่ตำรวจแจ้งว่าเป็นจุดสุดท้ายก่อนที่สัญญาณโทรศัพท์ของน.ส.จุฑาภรณ์จะขาดหายไป และจากคำทำนายตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ของญาติ แต่ไม่พบร่องรอยและหลักฐานของผู้สูญหายแต่อย่างใด