เป็นเรื่องราวที่ได้รับการแชร์ในโลกออนไลน์ด้วยความเห็นใจ เมื่อ สมาชิกหมายเลข 3212250 ได้โพสต์ถึงเรื่องราวขนลุก หลังจากได้กลิ่นเหม็นโชยมาจากข้างบ้าน ถึง 5 วัน ในที่สุดก็ทราบว่า กลิ่นที่ว่านั้นเป็นกลิ่้นศพของคนข้างบ้านที่เสียชีวิตมาแล้ว 5 วัน แถมห้องนอนยังตำแหน่งตรงกันมีเพียงกำแพงคั้นเอาไว้เท่านั้น ทำเอาเธอสติแตกและถามชาวเน็ตว่าควรทำอย่างไรดี
โดยโพสต์ระบุว่า “ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่าบ้านที่เราเช่าอยู่เป็นบ้านแฝดชั้นเดียวกำแพงเดียวกับข้างบ้าน มาเข้าเรื่องเลยคือข้างบ้านเราจะมี ผญ อายุ 50+ แกอาศัยอยู่บ้านคนเดียวนานๆทีแกจะกลับบ้านแกก็ไปๆมาๆแบบนี้ตั้งแต่เราย้ายมาอยู่ก็เกือบ2ปีแต่เราเป็นคนที่จะอยู่แต่ในบ้านไม่วุ่นวายหรือออกไปคุยกับคนข้างบ้านเราไม่ได้รู้จักเพื่อนบ้านของเราเลยแค่เวลาออกไปเจอแค่ส่งยิ้มให้ น่าจะช่วงวันอาทิตย์เราเริ่มได้กลิ่นเหม็นๆตอนแรกก็คิดว่ากลิ่นน้ำเน่าจากคูน้ำหลังบ้าน แต่ว่ามันเริ่มเหม็นขึ้นเรื่อยๆ
จนวันอังคารแถวๆห้องนอนเราเหม็นหนักมากเราเลยคิดว่านะจะมีหนูตายแน่ๆแต่ก็หาไม่เจอ พอมาวันพุธเรานั่งเล่นอยู่กลางบ้านก็ได้มี ผญ 2 คนมาหาคนข้างบ้านก็ได้ยินว่าตระโกนเรียกกันอยู่นานเสียงดังมากเราก็เลยออกไปดูเค้าก็ถามเราว่าเห็นคนข้างบ้านบ้างหรือป่าว เราก็ตอบว่าไม่เห็นหลายวันแล้ว เพื่อนเค้าก็มองๆ ไปในบ้านเห็นกุนแจตกอยู่เลยเอาไม้เขี่ยออกมาแล้วเปิดประตูรั้วเข้าไป
เราก็เดินเข้าบ้านสักพักก็ได้ยินเสียงกรีดดังมากก เราตกใจเลยวิ่งออกไปดูเพื่อนเค้า2คนก็ร้องให้แทบเป็นลมพูดแต่ว่าเพื่อนเค้าตายแล้วตายในบ้าน เราแทบช็อกสั่นทำอะไรไม่ถูกเลยตั้งสติโทรเรียกกู้ภัย พอโทรเรียกแล้วเราก็ให้พี่สาวเข้ามารับเราออกไปทันที นาทีนั้นคือเราสั่นไปหมดไม่รู้จะรู้สึกยังไงดี เราไม่เข้าไปในบ้านอีกเลยวันนั้นเราตัดสินใจย้ายบ้านทันที พอตอนเช้าเราก็เข้าไปเก็บของย้ายคือกลิ่นเเรงกว่าเดิม เราเลยรีบยัดของลงกล่องแบบไม่จัดอะไรเลยแล้วออกจากบ้านนั้นทันทีแล้วเราก็จ้างคนเข้าไปขนให้
**ทุกคนกำแพงห้องนอนเราตรงที่นอนเราคือจุดเดียวกับอีกฝั่งของกำแพงที่เค้านอนตายมาไม่ต่ำกว่า5วัน ตั้งแต่วันนั้นเราเป็นคนละคนเลย จิตใจเราแย่มากๆคือเรานอนดมกลิ่นศพมาตั้งหลายวัน นอนข้างศพที่มีแค่กำแพงกั้นตั้งหลายวันตั้งแต่วันนั้นเรานอนไม่หลับกินอะไรไม่ลงหายใจไม่ทั่วท้องไม่มีความสุขมันแย่มากจนตอนนี้เราไม่รู้จะทำยังไงเราไม่อยากเป็นแบบนี้เราพยายามไม่คิดแต่ภาพมันก็แวบขึ้นมาเราต้องทำยังไง ต้อนนี้เราแย่มากจริงๆ เราก็ไปใส่บาตรให้เค้าแล้วแต่ความรู้สึกเราก็ไม่ดีขึ้นเลย”
