เปิดประวัติ “บ้านสี่เสาเทเวศร์” ที่ซึ่งเคยเป็นที่พักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ หลังจากที่มีรายงานข่าวว่าบ้านนั้นได้ถูกรื้อถอนจนเหลือเพียงแค่เศษปูน

วันนี้เราจะพาทุกคนรู้จัก “บ้านสี่เสาเทเวศร์” กันว่าบ้านหลังนี้มีประวัติความเป็นมาเป็นไปอย่างไรบ้าง

บ้านสี่เสาเทเวศร์ ตั้งอยู่บนที่ดินกองทัพบก ถนนศรีอยุธยา เขตดุสิต กรุงเทพฯ อดีตเป็นบ้านพักของ “จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์” อดีตผู้บัญชาการทหารบก และนายกรัฐมนตรีคนที่ 11

ที่มาของ “สี่เสาเทเวศร์” นอกจากเป็นที่ตั้งของบ้านพักรับรอง ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ที่สร้างขึ้นสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์แล้ว เดิมบริเวณนี้ เคยเป็นที่ตั้งของเสาไฟฟ้า 4 ต้น รองรับหม้อแปลงจ่ายไฟให้กับรถรางสายเทเวศร์-ท่าเตียน ผู้คนจึงเรียกขานว่า “สี่เสา”

ส่วน “เทเวศร์” มีที่มาจากชื่อของวังเทเวศร์ ที่ตั้งอยู่ถนนกรุงเกษม ปากคลองผดุงกรุงเกษม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ

ทั้งนี้ พล.อ.เปรม ใช้บ้านพักหลังดังกล่าวมาตั้งแต่สมัยเป็น ผบ.ทบ. และอาศัยอยู่ยาวจนได้รับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 16 บ้านสี่เสาเทเวศร์ เลยถูกเรียกว่า “บ้านป๋าเปรม” หรือ “บ้านป๋า”

โดยบ้านหลังนี้มักใช้เป็นสถานที่ต้อนรับนายกรัฐมนตรี ผบ.เหล่าทัพ นักธุรกิจ หัวหน้าส่วนราชการ เอกชน ผู้มีชื่อเสียงในโอกาสสำคัญต่างๆ อาทิ ปีใหม่ สงกรานต์ และวันคล้ายวันเกิดในวันที่ 26 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะเหล่าบรรดา บิ๊กทหาร ตำรวจ ก็ล้วนจะเข้ามาให้ป๋าทักทาย และอยากได้พรวิเศษจากป๋า

ทั้งนี้ หากมองจากถนนด้านหน้าเข้าไป จะมีประตูทางเข้าออก 2 ด้านซ้ายและขวา ตรงกลางปลูกต้นไม้สูงคล้ายกำแพง เมื่อก้าวเท้าผ่านประตูเข้าไปจะพบสนามหญ้าและสวน พร้อมกับบ่อน้ำขนาดใหญ่ เบื้องหลังเป็นบ้านปูนสีขาว ซึ่งเป็นสถานที่พัก

บ้านสี่เสาเทเวศร์ มีหลังคาทรงหน้าจั่ว ปูกระเบื้องสีน้ำเงิน ปีกซ้ายตัวบ้านเป็นห้องรับรอง ด้านขวาเป็นที่พักของทหารประจำบ้าน ด้านหลังเป็นห้องนั่งเล่น มีเปียโนของพล.อ.เปรมตั้งอยู่ ผนังบ้านหรือมุมต่างๆ ภายในห้อง จะมีรูปถ่ายของป๋าเปรม

ห้องที่ป๋าเปรมชอบมากที่สุดคือ ห้องรับแขกเล็ก ซึ่งเป็นห้องดนตรีเก่าอยู่โซนด้านหน้าของตัวบ้าน ป๋าเปรมจะมาร้องเพลง เล่นเปียโน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงต่อวัน ห้องนี้เปรียบเสมือนห้องแห่งความสุขของป๋าเปรมเลยก็ว่าได้

บ้านหลังนี้ยังเป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์สำคัญต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะประตูข้าง
ประตูข้างนี้ เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งอดีต ที่ผู้คนมักใช้ประตูข้างบานนี้เข้าออกบ้านของป๋าเปรม ในยามบ้านเมืองเกิดปัญหา หรือวิกฤตการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น

กบฏยังเติร์ก หรือ เมษาฮาวาย
ซึ่งกลุ่มทหารยังเติร์ก หรือกลุ่มทหารที่จบจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 7 นำกำลังทหารพร้อมอาวุธ ปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ยื่นคำขาดกับป๋าเปรมว่าจะปฏิวัติ และมาที่บ้านหลังนี้เพื่อขอให้ป๋าเปรมมาเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ ซึ่งป๋าเปรมไม่ยอม ทั้งยังบอกว่าหากไม่คิดที่จะเลิกปฏิวัติก็ยิงผมให้ตายแล้วปฏิวัติไป ก่อนที่จะขอลงมาโทรศัพท์ แล้วหนีออกทางประตูข้าง ก่อนทูลเชิญเสด็จฯ ไป ประทับที่นครราชสีมา จนทำให้มีชัยชนะ และฝ่ายยังเติร์กกลายเป็นกบฏ

เหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ 2535
ที่ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวประท้วงรัฐบาล ตอนที่พลเอกสุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรี และต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาตินำไปสู่เหตุการณ์ปราบปรามและปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกับประชาชนผู้ชุมนุม มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งพลเอกสุจินดาก็เข้ามาหาป๋าเปรมทางประตูนี้ ก่อนที่จะออกไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อยุติปัญหา หลังจากนั้นอีก 4 วัน จึงได้ประกาศลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี

เมื่อป๋าเปรมถึงแก่อสัญกรรม เนื่องจากระบบหัวใจล้มเหลว ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2562 เวลา 9 นาฬิกา 9 นาที สิริอายุรวม 99 ปี บ้านสี่เสาเทเวศร์ที่ไม่มี ป๋าเปรม นั้นก็เงียบเหงาลงทันตา

ทั้งยังมีเรื่องลี้ลับเกิดขึ้น เรื่องเล่านี้มาจากนายทหารที่ดูแลบ้านนั้นมักจะได้กลิ่นน้ำหอม และกลิ่นสบู่ก้อนที่ป๋าใช้อยู่ตลอด ทั้งมักจะเห็นไฟห้องนอนป๋าที่ชั้น 2 เปิด ซึ่งโดยปกติแล้วป๋าจะเป็นคนที่ประหยัดไฟมาก ถ้ามีใครเปิดไฟ หรือเปิดแอร์ ป๋าจะถามเลยว่า เปิดทำไม มีแขกหรือ เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเปิดเฉพาะห้องรับแขกเท่านั้น

แต่เรื่องที่พูดถึงเป็นอย่างมากเลยนั่นก็คือ ตอนที่ขนของออกจากบ้าน โดยที่บ้านนั้นจะมีลิฟต์ที่ป๋าใช้ในการขึ้นชั้น 2 เมื่อพอถึงวันที่ต้องขนของออก ลิฟต์ได้เกิดปัญหาโดยลิฟต์วิ่งขึ้นวิ่งลงเองหลายครั้ง จึงทำให้คิดกันเอาเอง และเข้าใจตรงว่า ป๋าเปรม คงไม่อยากให้ขนของไปไหน ท่านผูกพันกับบ้านสี่เสาเทเวศร์มาก

บ้านสี่เสาเทเวศร์นั้นจะส่งคืนให้กับกรมสวัสดิการทหารบก และกองทัพบก ส่งคืนให้ที่ราชพัสดุ ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงแต่เศษหิน เศษปูนเป็นกองๆ บริเวณส่วนหลังบ้านมีเครื่องจักรขนาดใหญ่กำลังทำงาน บริเวณหน้าบ้านพักที่มีต้นไม้ใหญ่ยังไม่มีการตัด หรือรื้อถอนกำแพงบ้านออก

บ้านสี่เสาเทเวศร์นั้นเป็นบ้านที่ทรงพลัง ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ป๋าเปรมเริ่มมีอำนาจยาวจนเป็นองคมนตรี เป็นประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เรียกได้ว่าเป็นขั้วอำนาจทั้งการเมือง และกองทัพ ที่บรรดานายทหาร “ลูกป๋า” ต่างดำรงตำแหน่งสำคัญ คุมอำนาจในกองทัพมาอย่างยาวนาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน