พิตบูลกัดเจ้าของ องค์กร SOS เผยแนวทางช่วย-ทำหมันก่อนปรับพฤติกรรม
พิตบูลกัดเจ้าของ – จากกรณี นางวรัณรัชช์ จันทมร อายุ 41 ปี แจ้งขอความช่วยเหลือว่าลูกสาว อายุ 21 ปีและลูกเขย อายุ 37 ปี ถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด จนบาดเจ็บสาหัส ไม่รู้จะหาทางออกทางไหน และอยากจะให้คนมารับไปดูแลต่อ
ทาง SOS Animal Thailand องค์กรเพื่อสวัสดิภาพสัตว์แห่งประเทศไทย ที่รับเรื่องช่วยเหลือ ได้ให้ข้อมูลเบี้ยงต้นกับข่าวสดว่า จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดู วันที่ 22 ก.ย. โดยหลักปฏิบัติจะนำสุนัขมาทำหมัน และส่งปรับพฤติกรรม หรือนำมาส่งฝึกต่อไป
ส่วนในการส่งต่อบ้านอาจจะต้องประเมินพฤติกรรมกันอีกครั้ง หลังจากรับการฝึกและปรับพฤติกรรมเรียบร้อยแล้ว โดย SOS Animal Thailand องค์กรเพื่อสวัสดิภาพสัตว์แห่งประเทศไทย จะเข้ามาดูและให้คำปรึกษา
องค์กร SOS Animal Thailand ยังให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับคดีสุนัขพันธุ์พิตบูล ตามคำพิพากษาศาลฏีกา ที่ 162/2523 วินิจฉัยว่า สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ก็อาจเป็นสัตว์ที่ดุได้โดยธรรมชาติของสัตว์นั้นเอง ทั้งนี้ต้องดูพฤติการณ์เป็นเรื่องๆ ไป
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 377 กำหนดให้ ผู้ที่ควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย แต่ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้น “เที่ยวไปโดยลำพัง” ในประการที่ “อาจทำอันตราย” แก่บุคลหรือทรัพย์ ต้องรับโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ซึ่งตามมาตรา 377 กำหนดให้ผู้ที่ควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้ายมีความผิดตามกฎหมายทันที แม้สัตว์ดุหรือสัตว์ร้ายจะยังไม่ได้ไปทำอันตรายแก่บุคลหรือทรัพย์สินก็ตาม
ทั้งนี้ คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 151/2505 ที่ให้ความหมายของสัตว์ 2 จำพวก
“สัตว์ดุ” หมายความว่า โดยธรรมชาติของสัตว์นั้นเองมิใช่สัตว์ร้าย แต่อาจเป็นสัตว์ดุซึ่งเจ้าของจะต้องมีความควบคุมดูแลเป็นพิเศษ ผิดจากปกติธรรมดา โดยล่ามโซ่หรือขังกรงไว้ เช่น สุนัข เป็นต้น
“สัตว์ร้าย” หมายความว่า โดยธรรมชาติของสัตว์นั้นเองเป็นสัตว์ที่มีนิสัยทั้งดุและร้ายกาจเป็นปกติอยู่ในตัว และเป็นสัตว์ที่เป็นภยันตรายอันน่าสะพรึงกลัวต่อบุคลผู้ได้พบเห็น เช่น เสือ จระเข้ หรืองูพิษเป็นต้น
…………..
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พิตบูลขย้ำเจ้าของสาหัส กัดท้ายทอยเย็บ 30 เข็ม แขนเหวอะ วอนช่วย
