แห่ถล่มเพจ ประกันสังคม หลังออกมาชี้แจงปมถือหุ้น ศรีพันวา ถามบอร์ดใช้เกณฑ์ไหนตัดสินใจลงทุน บอกเวลาประชาชนขอความช่วยเหลือสุดยากเย็น
ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง หลังจากแฮชแท็ก #แบนศรีพันวา ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ เพราะหลายคนไม่พอใจที่ ปลาวาฬ ไฮโซหนุ่ม เจ้าของรีสอร์ตศรีพันวา โพสต์ต่อว่า รุ้ง ปนัสยา ขณะขึ้นเวทีปราศรัยที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19 ก.ย.
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มคนสนับสนุน ศรีพันวา ออกมาโต้ตอบกลุ่มแบนศรีพันวา ด้วยเช่นกัน โดยบอกว่าส่วนใหญ่คนที่แบนนั้น ไม่มีความสามารถพอจะเข้าพักรีสอร์ตศรีพันวา เนื่องจากราคาห้องสูงเกินกว่าจะจ่ายได้
ต่อมา ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นด้วยกับแกนนำที่ขึ้นไปปราศรัยบนเวที พร้อมทั้งยืนยันตนไม่ได้สนับสนุนฝ่ายใดเป็นพิเศษ สนับสนุนเพียงแค่ตัวเองเท่านั้น แต่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม ทั้งไม่ได้สนใจกลุ่มชาวเน็ตที่แบนรีสอร์ตของตน เพราะชาวเน็ตเหล่านี้ ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าของตน
- “ปลาวาฬ” เมินกระแสแบน เพราะคนที่แบนไม่ใช่ลูกค้า ธุรกิจยังไปต่อได้
- ความในใจ‘ปลาวาฬ’ ถึงม็อบ 19 กันยา เกินขอบเขตรับได้ ลั่นคุณคืออนาคตใหม่ประเทศ
จากนั้น โซเชียลตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของศรีพันวา ลำดับที่ 1 คือ สำนักงานประกันสังคม จำนวน 63,072,615 หุ้น คิดเป็น 22.60 เปอร์เซ็นต์ ทำให้คนในโลกทวิตเตอร์ และโซเชียลมีเดีย ต่างตั้งคำถาม และ ถกเถียงประเด็นนี้กันอย่างกว้างขวาง
กระทั่ง วันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคม ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กระบุตอนหนึ่งว่า “สำนักงานประกันสังคมมีการลงทุนในกองทรัสต์ SRIPANWA ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนในปี 2556 มีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยรายปีอยู่ที่ 6% และได้รับเงินปันผลจากการลงทุนแล้ว จำนวน 229 ล้านบาท และตั้งแต่เดือนมกราคม-เดือนสิงหาคม 2563 กองทุนประกันสังคมมีการลงทุน และมีผลตอบแทนที่รับรู้แล้วจำนวนกว่า 33,000 ล้านบาท”
- ประกันสังคม ชี้แจงปมถือหุ้น ‘ศรีพันวา’ ชี้บอร์ดไม่มีอำนาจตัดสินใจ
- ชาวเน็ตตะลึง! “ประกันสังคม” ถือหุ้นอันดับ 1 “ศรีพันวา” เปิดรายชื่อถัดมา
ทั้งนี้ วันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ออกมาชี้แจงกรณีการถือหุ้น ศรีพันวา ไปแล้วนั้น พบมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ในโพสต์ที่สำนักงานประกันสังคมชี้แจงไว้เป็นจำนวนมาก เช่น
“Fund Manager จะรับผิดชอบยังไง บอร์ดใช้เกณฑ์ไหนตัดสินใจในการลงทุน ธุรกิจขาดทุนต่อเนื่อง หลายร้อยล้านบาท มาตลอดแบบนี้ ก่อนคุณจะลงทุน คุณมองกำไรสุทธิ ย้อนกลับไป 3-5 ปี คุณก็น่าจะรู้ระดับความเสี่ยงอยู่แล้ว แต่คุณช้อนซื้อต่อในช่วงวิกฤตโควิดที่ ปชช ต้องการความช่วยเหลือจากเงินกองทุน ปกส การลงของเงินกองทุนมหาศาล ในช่วงโควิดนี้… คุณคิดยังไง? คุณจะบอกว่าซื้อตอนร่วงไว้ทำกำไร
คุณก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่ามันขาดทุนมาตลอด หลายร้อยล้านบาท แล้วที่สำคัญควรเอาเงินมาลงทุนซื้อในช่วงโควิดที่ต้องเอาเงินมาช่วยเหลือ ปชช ไหม? แล้วทำไมถึงกล้าเสี่ยงกับธุรกิจที่มีเพียง นส.3 ก. และยังสร้างบนที่ดินที่มีความลาดเอียงเกิน 35 องศาได้อีก? #ทำอะไรควรมีมาตรฐานและรัดกุมมากกว่านี้เพราะนี่คือเงินของประชาชน
นอกจากนี้ ยังถามถึงมาตรการดูแลผู้ที่ตกงาน ซึ่งได้ลงทะเบียนไปแล้ว แต่เวลาผ่านไป 4-5 เดือนก็ยังไม่รับการดูแล เวลาจ่ายคืนก็มีความล่าช้า ฯลฯ