ยูทูบเบอร์ ปิ๊งรักสาวทินเดอร์ คดีพลิกกลายเป็นฆาตกรรมขุดปมสู่ฆ่าต่อเนื่อง
เทคโนโลยีในยุคปัจจุบันนั้นทำให้เราติดต่อสื่อสารได้ง่ายมาก แม้ว่าระยะทางจะไกลแค่ไหนเราก็สามารถติดต่อกันได้เพียงเวลาไม่กี่วินาที การรู้จักกับใครใหม่ๆ หรือปฏิสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าก็ดูเหมือนจะดูเป็นเรื่องที่ง่ายไปซะหมด รวบไปถึงการหาคู่ก็คงไม่ใช่เรื่องยากและแปลกอีกต่อไป
“เรน” หนุ่มชาวอินโดนีเซีย วัย 32 ปี หนุ่มโชคร้ายที่ตกเป็นเหยื่อหญิงสาวแปลกหน้าที่เขานัดเจอผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่ “ทินเดอร์” เขาเรียนจบปริญญาตรี สาขาวรรณกรรมญี่ปุ่น จากมหาลัย จาห์มาดา ประเทศอินโดนีเซีย
จากนั้นเขาก็ได้เดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น จนจบปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยโตเกียว ขณะที่เขาเรียนอยู่ที่นั่น “เรน” ได้เปิดช่องยูทูบที่มีชื่อว่า “テレビIVS ” ซึ่งมีผู้คนติดตามเกือบ 2 หมื่นคนเลยทีเดียว
จุดเริ่มต้นของเหตุฆาตกรรม
เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากที่ “เรน” ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเกิดประเทศอินโดนีเซียในปี พ.ศ. 2562 หลังจากนั้น เขาได้พบผู้หญิงคนหนึ่งผ่านโปรแกรมแชทที่ชื่อว่า ทินเดอร์ โดยหญิงสาวคนนั้นมีชื่อว่า “เลลี่” เธออายุ 27 ปี ทั้งคู่ได้มีการพูดคุยกันผ่านแอพดังกล่าว หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้ทำการนัดเจอกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
ระหว่างที่ 2 คนกำลังเดตอยู่นั่นเอง “เรน” ดันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอปธนาคารในโทรศัพท์ ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่า “เลลี่” บังเอิญไปเห็นยอดเงินในโทรศัพท์ของเขาเข้าเธอจึงพยายามจำรหัสผ่านโทรศัพท์ของเขาไว้ และหลังจากนั้น “เลลี่” ได้ทำการตีสนิท จนทั้ง 2 คนก็เริ่มมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง และสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งที่เรนไม่รู้เลยก็คือ “เลลี่” กำลังหลอกเขาอยู่ เธอ และแฟนหนุ่มที่เธอซ่อนไว้ชื่อ “จูมาดิล” อายุ 26 ปี ได้ก็สมรู้ร่วมคิดกับแฟนสาวใช้ทินเดอร์ เพื่อเป็นเครื่องมือในการหลอกล่อผู้คนที่พวกเขาเจอตามอินเตอร์เน็ต
แผนฆาตกรรม
“เลลี่” และ “จูมาดิล” ได้วางแผนปล้นโดยทั้งคู่ได้ทำการเช่าห้องพักไว้ที่กลางใจเมืองจาร์กาต้า
ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน ถึง วันที่ 12 กันยายน และหลอกให้เรน มาเข้าพักในวันที่ 9 เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่โรงแรมสงสัย “จูมาดิล” ผู้เป็นแฟนหนุ่มมีหน้าที่รออยู่ในห้องน้ำ ส่วนเลลี่ก็มีหน้าที่ยั่วให้เรนตายใจ โดยระหว่างที่ “เรน” ไม่ทันระวังด้วยอยู่นั่นเอง “จูมาดิล” ที่แอบอยู่ในห้องน้ำ ก็ได้เข้ามาโจมตีโดยใช้ก้อนอิฐทุบที่หัวอย่างแรง 3 ครั้ง แต่เหยื่อยังไม่เสียชีวิต “จูมาดิล” จึงใช้กรรไกรแทงไปอีก 7 แผล
หลังจากที่ทั้งคู่ได้ทำการช่วยกันสังหาร “เรน” เรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ได้ออกไปจับจ่ายซื้อของเพื่ออำพรางศพ เช่น กระเป๋า ถุงพลาสติด ผ้าปูเตียง สีทาบ้าน มีด และเลื่อย หลังจากนั้นทั้งคู่ได้ทำการหั่นเรน ออกเป็น 11 ชิ้นส่วนและ แบ่งเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางอีก 2 ใบ ต่อมาทั้งคู่ก็ได้แบกกระเป๋าเดินทางไป
คาลิบาทา เพื่อนำศพไปทิ้ง
เลลี่ และ จูมาดิล พวกเขาได้นำเงินของเรนไปใช้กับการซื้อทองทั้งหมด 11.5 กรัม แล็ปท็อป 2 เครื่อง
และมอเตอร์ไซค์คันใหม่ เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 97 ล้านรูปี หรือประมาณ 2 แสนบาท
ขั้นตอนการจับกุม
หลังจากที่ “เรน” หายไป 3 วัน ครอบครัวและเพื่อนของเขาก็ได้ทำการแจ้งความและทำการตามหากันให้จ้าละหวั่น จนวันที่ 16 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนเจอกระเป๋าเดินทางที่บรรจุอวัยวะของเรนทิ้งที่อยู่ในห้องพักแล้ว ตำรวจจึงได้สืบหาข้อมูลและพบ 2 ฆาตกรที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง โดยทั้งสองได้สารภาพว่ามีปัญหาเรื่องเงิน ซึ่งตำรวจก็ไม่ปักใจเชื่อมากนัก เนื่องจากมีคดีฆาตกรรมแบบเดียวกันอีก 13 คดีที่เกิดขึ้นเมืองจาร์กาต้า เลลี่ และ จูมาดิล จึงต้องสอบปากคำเพิ่มเติมกันเป็นการใหญ่
เรื่องราวที่น่าตกใจของ “เลลี่”
หลังจากเป็นข่าวใหญ่ในประเทศอินโดนีเซีย ชาวเน็ตอินโดนีนเซียได้ทำการสืบประวัติสาว “เลลี่” พวกเขาก็ต้องเจอกับผลลัพธ์ที่น่าตกใจที่ว่า “เลลี่” สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในอินโดนีเซีย และยังเป็นนักศึกษาดีเด่นที่เก่งทั้งด้านวิชาการ และด้านกิจกรรม แถมยังเป็นนักเคลื่อนไหวสังคมอีกด้วย
“เลลี่” มีบล็อกเป็นของตัวเองด้วย ชาวเน็ตได้ขุดบล็อกของเธอเมื่อปี 2562 ซึ่งเธอได้เขียนข้อความประมาณว่า เธอตกเป็นข่าวฉาวเนื่องจากผู้หญิงที่มีชื่อว่า”บุหงา” ได้กล่าวหาว่า “เลลี่” แย่งสามีของเธอไป สามีของเธอก็คือ “จูมาดิล” นั่นเอง เธอและจูมาดิลมีลูกด้วยกันแล้วถึง 3 คน แต่สุดท้าย “จูมาดิล” ก็ได้เลิกกับ “บุหงา” เพื่อมาอยู่กับ “เลลี่” ตามที่เห็น โดยทั้งคู่โดนข้อหาฆ่าคนโดยทำการไตร่ตรองไว้ก่อนซึ่งโทษหนักถึงประหารชีวิตเลยทีเดียว
ขอขอบคุณที่มา worldintrouble.com
