เฌอเอม ร่ำไห้เปิดใจ! แจงดราม่านางงาม ลั่นไม่สละสิทธิ์ เคลียร์ชัดปมผู้จัดการ

เฌอเอม ร่ำไห้เปิดใจ! แจงดราม่านางงาม ลั่นไม่สละสิทธิ์ เคลียร์ชัดปมผู้จัดการ แค่พี่ช่วยดูแลงานโฆษณา ลั่นสิ่งสำคัญไม่ใช่มงกุฎ ให้กองประกวดตัดสินอนาคต

วันที่ 29 ก.ย. “เฌอเอม ชยาธนุส” ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 พร้อม “เคน สิทธิชัย” แถลงเปิดใจถึงประเด็นดราม่ากองประกวดและนางงาม

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

เฌอเอม เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ขอแยกเรื่องนี้เป็น 4 ประเด็น 1.โบรกเกอร์ ที่ดูแลเรื่องงานเท่านั้น 2.กัลยาณมิตร เป็นเพื่อนพี่น้องที่ช่วยเหลือ 3.พี่เเลี้ยง จะดูแลเรื่องทุกอย่างให้นางงาม ทั้งเรื่องชีวิตและภาพลักษณ์ บางครั้งจบเวทีต่อเวที 4.ผู้จัดการ ที่เข้ามาดูแลในงานและชีวิตส่วนตัว ไม่ว่าเราทำอะไรอยู่

ส่วนของพี่เคนสิทธิชัย เป็นโบรกเกอร์และไม่มีสัญญาต่อกัน แต่อาจมีความคลุมเครือ เพราะบางอย่างทับซ้อนกัน จึงต้องขอโทษด้านการสื่อสารที่ต้องการอธิบายให้รวดเร็ว

เมื่อถามถึงเรื่องมีการนำข้อมูลในกองประกวดมาบอก เฌอเอม กล่าวว่า ไม่ได้บอกอะไรเป็นพิเศษ พี่เคนเป็นเพียงโบรกเกอร์ เพราะก่อนหน้านี้เราอยู่ต่างประเทศตลอด พี่เคนแค่หางานเท่านั้น ไม่มีแนะนำงานประกวด

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวถึงพฤติกรรมดูสนิทกันในกองประกวดช่วงเก็บตัว เฌอเอม กล่าวว่า ส่วนตัวคุยกับทุกคนด้วยความเป็นมิตร เราไม่ทำเพื่อคะแนน ขอให้ถามกรรรมการด้วยว่าส่งคำตอบมาให้เราหรือไม่ เราไม่มีสิทธิพิเศษ เราทำพร้อมเพื่อน แล้วสิทธิพิเศษคืออะไร อาจมีความเข้าใจผิดเกิดขึ้น

เมื่อถามว่ากองประกวดให้ตัดสินใจเองเรื่องการสละสิทธิ์ เฌอเอม กล่าวว่า รู้สึกตกใจ เพราะไม่ได้คุยไว้ก่อน เราขอแค่ว่าอยากเดินในรอบสุดท้าย เพราะเราเริ่มพร้อมกัน สิ่งสำคัญไม่ใช่มงกุฎ แต่คือเป้าหมายพร้อมทุกคน ดังนั้นไม่ขอสละสิทธิ์ที่ไม่ชอบธรรม และขอบคุณกองประกวด ขอให้กองประกวดพิจารณาเรื่องการสละสิทธิ์ เพราะกองประกวดรับทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และอยากให้สังคมตัดสิน

เมื่อถามว่าได้เข้ากองไปเก็บตัวอีกหรือไม่ เฌอเอม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากกองประกวดเพื่อไปทำกิจกรรม ตอนนี้ยังไม่รู้เพื่อนไปไหนกัน โดยกองอยากให้เราตัดสินใจเอง แต่ส่วนตัวขอพูดเลยว่าจะไม่สละสิทธิ์

“เราไม่ต้องการเข้ารอบหรือตอบคำถาม ไม่ต้องการชนะ แค่ต้องการเดินในรอบสุดท้าย และเป็นจุดสิ้นสุดของการเดินทาง ปีหน้ายังไม่แน่ใจ เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ไม่รู้จะไปต่ออย่างไร ดังนั้นการประกวดขอจบในปีนี้ ปีหน้าไม่รู้จะมีความคาดหวังอะไรหรือไม่ เพราะเราใส่ไปหมดแล้ว”

“หลังจากนี้คิดว่าต้องเคลียร์กับทางกอง เฌอเอมจะขอเป็นฝ่ายที่ไม่ถือสาหาความ และต้องขอโทษกองประกวดก่อนกับสิ่งที่เกิดขึ้น การที่เขาชกหน้าเราแล้วเราชกกลับ ไม่สามารถยุติความรุนแรงได้ ต้องมีฝ่ายที่หยุดก่อนเสมอ”

ด้านเคน สิทธิชัย กล่าวว่า ส่วนตัวเป็นแค่ฟรีแลนซ์เท่านั้น ไม่ได้เป็นมิจฉาชีพ ไม่เคยไปหลอกลวงใคร ทุกอย่างตอนนี้มีผลกระทบมาถึงน้อง ซึ่งไม่แฟร์กับทางเรา โดยถูกคลื่นถาโถมเข้ามา ไม่มีการเซ็นสัญญาการทำงาน

เมื่อถามว่ามีกระแสว่าพี่เคนร่วมการประชุมกับกองประกวดตลอด เคน กล่าวว่า ได้เข้าร่วมประชุมแค่ 3 ครั้งเท่านั้น และเกี่ยวกับเรื่องงานขาย ไม่มีเรื่องการคัดเด็กและเรื่องชุด โดยเราดูเพียงเรื่องขายสปอนเซอร์เท่านั้น

“เราไม่ได้มาบอกน้อง ซึ่งเราไม่ได้ดูแลน้อง แค่ดูคิวและขายงานให้น้องเท่านั้น ในฐานะคนขายงานให้น้องเท่านั้น แต่ตอนนั้นไม่ได้แจ้งกองประกวดก่อน ถามว่าต้องการปกปิดอะไรหรือไม่ ถ้าปกปิดจะไม่ใส่เบอร์มือถือในไอจี และไม่เดินไปหาน้องหรอก ถ้าจะปกปิดเรื่อง เหตุการณ์คงไม่เกิดแบบนี้”

เมื่อถามว่าได้คุยกับกองประกวดหรือไม่ เคน กล่าวว่า ในฐานะที่เราดูแลสปอนเซอร์ให้น้อง จึงมาคุยกันน้องและบอกว่าเราทำงานให้กอง ก่อนตัดสินใจไปคุยกับผู้ใหญ่ แต่เราไม่ได้รับคำตอบอะไร ตอนนั้นพี่เขาไม่ได้พูดอะไร

ส่วนทนายนิด้า กล่าวว่า เบื้องต้นอาจแก้ไขและหาทางออกที่ดีต่อกัน แต่เมื่อทั้ง 2 คนออกมาแถลงข่าว และอยากปกป้องตัวเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องของการเป็นมิจฉาชีพ โดยเรายอมรับได้ในคำวิจารณ์ แม้เป็นคำหยาบคาย แต่ถ้าเลยเถิดไปมาก ก็ต้องตัดสินใจอีกครั้ง โดยตอนนี้ยังไม่ฟ้อง แต่ต้องดูสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้ยังไม่ได้เก็บข้อมูลจะฟ้องใคร แต่ใครเบาได้เบา หยุดได้หยุด

เมื่อถามว่าจะฟ้องกองประกวดหรือไม่ ถ้าน้องโดนบีบให้สละสิทธิ์ ทนายนิด้า กล่าวว่า ยังไม่ดูกฎหมายฟ้องได้หรือไม่ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ดูเรื่องฟ้อง