เรื่องราวของครู กับเด็กนักเรียน กลายเป็นประเด็นร้อน เพราะโรงเรียนเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ครูต้องดูแลเด็กๆ เป็นจำนวนมากตลอดเวลา ซึ่งการทำร้ายร่างกายถือว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ แต่นอกจากการทำร้ายร่างกาย ก็ยังมีการใช้ถ้อยคำทำร้ายจิตใจ และการกระทำอนาจารทางเพศ ก็ถือเป็นเรื่องร้ายแรงเช่นเดียวกัน
สมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของตนเอง ซึ่งเธอระบุว่า เรื่องเล่าและขอเรียกร้องจากเด็กที่เคยถูกครูทำอนาจาร โดยระบุว่า เธอเรียนโรงเรียนเอกชนชื่อดังย่านฝั่งธน เมื่อ 5 ปีก่อนหนูถูกครูทำอานาจารพยายามเอามือจับหน้าอก จับด้านในตัว และระบุว่า ที่ทำไปเพราะเธอสมยอม
ทั้งที่เธอระบุว่า เธอเชื่อใจครูเพราะคิดว่าครูย่อมเป็นคนดี เป็นคนที่เชื่อถือได้ แต่ปรากฏว่า ครูมักจะหาโอกาสทำอนาจารเธอโดยที่เธอไม่รู้ เพราะด้วยความเป็นเด็กจึงไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่ครูทำ เมื่อเธอทราบว่ามันคือการอนาจารและไม่ใช่พฤติกรรมปกติ หรือความเอ็นดู เธอเอาเรื่องเข้าไปคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ถูกปฏิเสธว่า ”โรงเรียนมีมาตราการอยู่แล้ว แต่อยากให้ตระหนักว่า #ในหมู่คนดีย่อมมีคนไม่ดี แม้จะป้องกันแล้ว ย่อมมีคนฝ่าฝืน” และ ”เราไม่สามารถออกมาตราการเฉพาะเพื่อใช้ภายในโรงเรียนได้เพราะเป็นสถานศึกษาใต้การควบคุมกระทรวงศึกษาธิการ”
ข้อหนึ่ง ขอให้ทุกโรงเรียนมีนโยบายอบรมคุณครูเรื่องการรู้จักสิทธิในร่างกายนักเรียนอย่างเป็นรูปธรรม
ข้อสอง ขอให้ทุกโรงเรียนมีหลักสูตรอบรมนักเรียนในสิทธิในร่างกาย และรู้วิธีการป้องกันตัว รวมถึงการปกป้องตัวเองหลังจากเจอเหตุการณ์การถูกคุกคามทางเพศ การทำอนาจาร และการข่มขืน
ข้อสาม เพื่อให้โรงเรียนเอกชนมีความรับผิดชอบและความโปร่งใสมากขึ้นในการสอบจริยธรรมคุณครูผู้กระทำผิด หนูเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโรงเรียนเอกชนที่ครอบคลุมถึงเรื่องของการละเมิดทางเพศของเด็กนักเรียนทุกคน ไม่ว่าจะมาจากโรงเรียนภายใต้การกำกับของรัฐบาลหรือของเอกชนก็ตาม และให้อำนาจเต็มกับคณะกรรมการดังกล่าวในการฟ้องร้องให้บุคคล กลุ่มบุคคล หรือสถานศึกษามีความผิดได้ตามกฎหมาย
โดยเธอได้ระบุว่า มีภาวะทางจิตเวช [PTSD] เอินวิ่งหนีผู้ชายแปลกหน้าที่เข้ามาคุยด้วย เริ่มกลัวเสียงมอไซต์ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า (วันนั้นมีเหตุการณ์ฝนตกด้วย) อาการกลัวของเอินถูกพัฒนาจนกลายเป็นโรค panic disorder โรคที่เกิดอาการหวาดกลัวตื่นตระหนกจนหัวใจเต้นเร็ว บางคนหนักถึงมีอาการคล้ายอาการชัก (หนูเป็นแบบหนัก เพราะ ได้รับการรักษาช้า)
สูญเสียชีวิตที่จะได้ใช้แบบคนอื่น…
เอินสูญเสียโอกาสในการทำงาน…
เอินสูญเสียความฝันที่อยากทำ เพราะมีโรคนี้เป็นเงื่อนไขในการใช้ชีวิต…
นี่จึงเป็นเหตุผลที่หนูออกมาขอร้องทางผู้ใหญ่ให้มีการสอนเรื่องนี้แบบจริงจัง หนูไม่อยากให้เด็กคนไหนต้องเป็นแบบหนูแล้ว….