คุมตัวสอบพระวัดเมืองจันท์ โดนครูแจ้งจับ ทารุณแมวเลือดอาบ หลังเห็นคาตากำลังใช้รองเท้าตีแมวพอยกมือถือขึ้นถ่ายคลิป หลวงพี่เห็นพอดีจับทุ่มใส่พื้นก่อนเดินหนี ด้านพระรับทำจริง เพราะแมวไปฉี่ใส่เพาเวอร์แบงก์จนพัง เลยเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เผยเป็นคนรักสัตว์และยังให้ข้าวเจ้าเหมียวเองเป็นประจำ วอนสังคมเข้าใจด้วย ขณะที่ ตร.รอแจ้งข้อหาทารุณสัตว์ ชี้ยังไม่สึกรอความเห็นคณะสงฆ์ ขณะที่พ่อค้า กทม.ใจบุญ หลังรู้ข่าวรีบขับรถมารับไปดูแลแล้ว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ก.ย. นาย ณัฐพล จงกลกลาง อายุ 28 ปี ครูโรงเรียนวัดตากวน ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ชัยหาญ พิมจันทร์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับพระไพบูลย์ นันก้อน พระลูกวัด ตากวน ที่ทำร้ายแมวเพศเมีย อายุประมาณ 1 ปี ทั้งตบตี จับทุ่ม และใช้รองเท้าตีที่ใบหน้าแมวจนปากแตกมีเลือดไหลออกมา โดยนำคลิปที่ถ่ายเหตุการณ์ตอนกำลังทำร้ายมามอบไว้เป็นหลักฐาน รวมถึงใบรับรองของสัตวแพทย์ ที่ระบุว่าพบบาดแผลที่ใบหน้าฉีกขาดที่ปากด้านซ้าย และอาการมึนงงหวาดผวา พร้อมทั้งนำตัวแมวที่ถูกทำร้ายมาด้วย

นายณัฐพลให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนและครูได้มองลงมาจากหน้าในอาคารเรียน เห็นว่าพระสงฆ์กำลังทำร้ายแมวอย่างรุนแรง ด้วยการทุบตี และใช้รองเท้าตีที่ตัวแมว จึงพยายามตะโกนเรียกให้หยุด เป็นจังหวะเดียวกับที่นายบุญเพิ่ม น้อยคำมี นักการภารโรงของโรงเรียนอยู่ใกล้ ได้เรียกตนลงมาห้าม ตนจึงรีบวิ่งลงไปและถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน พอพระเห็นตนถ่ายคลิปจึงรีบโยนแมวทิ้งไปด้วยความแรง ก่อนจะเดินหายเข้าไปในกุฏิ ซึ่งตนก็รีบไปอุ้มแมวขึ้นมาพบที่ปากแมวมีเลือดไหล ร้องด้วยความเจ็บปวดและหวาดผวา จึงรีบพาไปรักษาเบื้องต้นที่ห้องภารโรงเพื่อรอดูอาการจนกระทั่งในตอนเช้าจึงพาไปตรวจรักษาที่คลินิกรักษาสัตว์แห่งหนึ่งในตัวเมืองระยอง และ เข้ามาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับพระสงฆ์รูปดังกล่าว เพราะถือเป็นการกระทำที่โหดร้าย

หลังรับแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยนายณัฐพล ได้เดินทางไปยังวัดตากวน ซึ่งเป็นช่วงที่มีการทำบุญภายในวัดพอดี พอเสร็จพิธีตำรวจจึงได้ให้นายณัฐพล ชี้ตัวพระสงฆ์ที่พบว่าเป็นผู้ทำร้ายแมว เมื่อเข้าไปก็ได้ชี้ไปที่พระไพบูลย์ นันก้อน อายุ 23 ปี พระลูกวัดตากวน ที่เพิ่งบวชเมื่อก่อนเข้าพรรษา ตำรวจจึงเข้าไปชี้แจงข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวมถึงการถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทารุณกรรมสัตว์

ขณะเดียวกันพระไพบูลย์ก็ถึงกับหน้าถอดสี ก่อนจะกล่าวยอมรับว่าเป็นผู้กระทำจริงตามคลิปภาพที่ปรากฏ แต่ไม่ได้กระทำรุนแรงไม่ได้ใช้รองเท้าตี ยอมรับว่าทุ่มและโยนแมวจริง ตามที่ปรากฏในคลิป สาเหตุที่ทำไปเพราะเกิดความโมโหที่แมวตัวดังกล่าวได้ปัสสาวะใส่เพาเวอร์แบงก์จนเสียหาย ก็เลยเกิดความโกรธจึงกระทำลงไปด้วยอารมณ์โมโห

“ก็ยอมรับผิดเพราะอาตมาเพิ่งบวช จึงยังไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ แต่ความจริงแล้วอาตมาเองเป็นคนรักสัตว์เมตตาสัตว์และก็เป็นคนให้ข้าวมันกินตลอด ก็วอนสังคมเข้าใจกับเรื่องที่ทำลงไป ส่วนเรื่องของคดีก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย หากจำเป็นต้องสึกก็ยอม และขอเวลาเตรียมความพร้อมและแจ้งให้ทาง ผู้ปกครองทราบเรื่องก่อนจะเดินทางไปพบตำรวจเอง” พระไพบูลย์กล่าว

จากนั้นนายณัฐพล ได้พาไปดูสถานที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ข้างกำแพงในเขตโรงเรียน โดยมีนายบุญเพิ่ม นักการภารโรง ได้แสดงท่าทางขณะที่พระไพบูลย์ลงมือทำร้ายแมวให้ทางตำรวจดู เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปและเก็บพยานแวดล้อมไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป

นายณัฐพลกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแมวตัวดังกล่าวเป็นแมวหลงมาอยู่ในวัด ที่ยื่นมือเข้าช่วยเพราะสงสารและเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมแถมยังเป็นพระสงฆ์ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก สำหรับแมวตัวดังกล่าวเป็นแมวเพศเมีย อายุประมาณ 1 ปี หลังได้แชร์ไปบนโลกออนไลน์ ก็มีการตั้งชื่อให้ว่า “เจ้า ลีโอ” และได้มีผู้ใจบุญมาขอไปเลี้ยงดูแล้ว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาพระไพบูลย์ ว่าทารุณกรรมสัตว์ ตามพ.ร.บ. คุ้มครองสัตว์ มีอัตราโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนเรื่องของการจำเป็นต้องสึกหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับทางคณะสงฆ์ว่าผิดทางวินัยหรือไม่

ต่อมา ร.ต.อ.ชัยหาญ ได้สอบสวนพระไพบูลย์ เป็นการสอบสวนเพิ่มเติมในข้อกล่าวหา ซึ่งได้ปล่อยตัวไปก่อน และจะเรียกตัวมา สอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง พร้อมทั้งสอบพยานแวดล้อมเพิ่มเติม และพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์อีก 2-3 คน จึงต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดก่อน จึงจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป เพราะเบื้องต้นพระที่ถูกกล่าวหาก็ยอมรับว่าทำร้ายแมวจริง จึงต้องสอบสวนพยานหลักฐานให้ครบถ้วนก่อนจะแจ้งข้อหาต่อไป ส่วนเรื่องการสึกนั้นต้องขึ้นอยู่กับทางฝ่ายสงฆ์ที่จะดำเนินการต่อไปหลังจากที่มีการดำเนินคดีแล้ว

ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น.วันเดียวกัน นายณัฐพล ครูโรงเรียนตากวน ได้เปิดเผยว่า “เจ้าลีโอ” ได้มีผู้ใจบุญได้เดินทางมาจาก กทม. โดยติดต่อกันทางโทรศัพท์หลังมีการนำเสนอข่าวออกไป ได้เดินทางมายังบ้านพักครูโรงเรียนตากวน ที่อยู่ภายในรั้วเดียวกับวัด ตากวน คือนายสุรศักดิ์ คชเสนีย์ อายุ 58 ปี อาชีพค้าขายชาว กทม. ได้ขับรถมาเพื่อรับ เจ้าลีโอไปเลี้ยง

นายสุรศักดิ์เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวกรณีแมวถูกทำร้ายและยังไม่มีเจ้าของ เมื่อเห็นภาพแมวตัวนี้แล้วรู้สึกถูกชะตาและชอบทันที จึงรีบหาเบอร์โทรศัพท์ติดต่อทางครูณัฐพล โดยยินดีที่จะให้ตนนำกลับไปเลี้ยง เพราะปกติก็เป็นคนรักแมวและสุนัขอยู่แล้ว ที่บ้านก็มีทั้งแมวและสุนัขที่เลี้ยงไว้เช่นกันเป็นสุนัข 3 ตัว และแมวอีก 3 ตัว โดยจะนำ “เจ้าลีโอ” ไปเลี้ยงดูแล เพราะสงสารกับชะตากรรมที่ต้องมาถูกทำร้ายอย่างรุนแรง ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ขอพูดถึงและให้เป็นไปตามตัวบทกฎหมายดำเนินการไปตามหลักฐานข้อเท็จจริงที่ปรากฏ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน