ทนายตั้ม เผยหมัดเด็ดน็อก ครูปรีชา ปิดคดีหวย 30 ล้าน ลุงจรูญกร้าวขอโทษก็ไม่อภัย

ทนายตั้ม เผยหมัดเด็ดน็อก ครูปรีชา ปิดคดีหวย 30 ล้านอลเวง ลุงจรูญกร้าวขอโทษก็ไม่อภัย ลั่นมัดรวมฟ้องกลับทุกคน

จากกรณีศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในคดียักยอกทรัพย์และรับของโจรที่ “ครูปรีชา ใคร่ครวญ” เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล” ระบุว่าลุงจรูญเป็นผู้ครอบครอง ไม่เกี่ยวข้องกับทางครูปรีชา จบคดีหวย 30 ล้านอลเวงที่ยืดเยื้อมานานถึง 3 ปี

รายการโหนกระแสวันที่ 21 ต.ค. “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจสัมภาษณ์ ลุงจรูญ, ป้าลาวัลย์ วิมูล รวมทั้ง ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

คุณหายจากวงการสื่อไปเลย?
ทนายตั้ม : “ครับผม (หัวเราะ)”

กับพี่ชายสุดที่รัก?
ทนายตั้ม : “ผมไม่รู้เขาสบายดีหรือเปล่า แต่ผมสบายดี”

ล่าสุดไปศาลมา เป็นเรื่องอะไร?
ทนายตั้ม : “พี่ชายผมฟ้องผมหมิ่นประมาท ก็ยืนคำยกฟ้อง”

มีอีกหลายคดีมั้ย?
ทนายตั้ม : “เยอะครับ ของเขายกฟ้อง 5 คดี ไม่มีแล้ว แต่ที่ผมฟ้องเขาเยอะ เกือบ 20 คดีได้ มีมูลไปแล้วบ้าง มีวางกำหนดโทษไปแล้ว อย่างที่เขาบอกว่าผมวิ่งเต้นศาล แล้วก็บอกว่าล็อกศาลได้ เขาก็ไปไลฟ์สดแบบนั้น ปรากฎว่าพอขึ้นศาลเขาก็รับสารภาพว่าไม่ใช่เรื่องจริงเป็นการใส่ร้าย ตอนนี้ก็ดำเนินคดีกลับเรื่องการดูหมิ่นศาล”

คดีหวย 30 ล้านร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว?
ลุงจรูญ : “ยังไม่เต็มร้อยดี ยังจบไม่สมบูรณ์”

เพราะอะไร เมื่อวานศาลอุทธรณ์บอกหวยเป็นของลุงจรูญ?
ทนายตั้ม : “คือหวยเป็นของลุงจรูญอยู่แล้ว ครูปรีชาที่เขาฟ้อง ตัวเขาเกี่ยวข้องอะไรกับหวยมั้ย ตอนแรกศาลชั้นต้นบอกว่าไม่มีอำนาจฟ้องเพราะไม่เกี่ยวข้องกับล็อตเตอรี่ 30 ล้าน ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืน”

มีโอกาสที่เขาจะไปฎีกาอีกได้มั้ย?
ทนายตั้ม : “ต้องบอกก่อนว่าคดีที่ศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง เป็นคดีต้องห้ามฎีกา ถ้าจะฎีกาทำได้ต้องขอรับรองและศาลอนุญาตให้ฎีกา ศาลที่พิจารณาคดีนี้มาเขาต้องมองแล้วว่าเรื่องนี้สมควรขึ้นไปศาลฎีกามั้ย ถ้าดูแล้วไม่ได้มีหลักฐานสู้กันมากมาย เขาอาจไม่ให้ขึ้นไปที่ศาบ เพราะไม่ใช่ประเด็นสำคัญควรต้องขึ้นศาลฎีกา รกศาล”

แล้วยังติดเรื่องอะไรอยู่?
ลุงจรูญ : “สิทธิ์ของเขาที่ยังพอมีหลงเหลือ”

ทนายตั้ม : “ผมว่าน้อยมาก ไม่ถึงศาลฎีกาแน่ๆ แต่เขาก็ทำแแหละครับ เขาคงขอขยาย และขออนุญาตรับรองให้รับฎีกา แต่คิดว่าท้ายที่สุดคงไม่ได้”

ป้าสบายใจขึ้นมั้ย?
ป้าลาวัลย์ : “สบายใจ”

ได้เจอเขามั้ย?
ป้าลาวัลย์ : “เจอแต่ไม่ได้คุยกัน”

ลุงจรูญ : “เจอในบัลลังก์ ก็ไม่ได้คุยอะไรกัน”

เรื่องนี้ที่มาที่ไป สุดท้ายในการต่อสู้ในชั้นศาลเหมือนขาดหายไป เราไม่รู้ตรงนั้นเลย สรุปข้อเท็จจริงคืออะไร ทำไมข้อบ่งชี้ว่าครูปรีชาไม่ใช่เจ้าของและอะไรคือข้อบ่งชี้ว่าลุงจรูญเป็นเจ้าของ?
ทนายตั้ม : “สัญญาณการใช้โทรศัพท์ซีดีอาร์ และอีกเรื่องคือคลิปเสียงครูปรีชา วันที่ 31 ต.ค. ครูปรีชาแนวทางการต่อสู้ของเขา เขาบอกเขาไปตลาดเรดซิตี้วันที่ 31 แต่เรามีข้อมูลการใช้โทรศัพท์ว่าเขาไม่ได้ไปตลาดเรดซิตี้ แต่เขามุ่งหน้าออกจากโรงเรียนไปที่โรงเรียนลูก แล้วกลับบ้าน แต่ครูปรีชาเขาสู้ในชั้นอุทธรณ์ ว่าตอน 31 ต.ค ตอน 16.46 น. เขาได้ไปที่ตลาดซิตี้ เขายอมรับว่าจริงตามสัญญาณโทรศัพท์ เขาไปตลาดเริดซิตี้ตอนตอน 16.46 น. แต่ว่าข้อมูลกาารใช้โทรศัพท์จริงๆ ตอน 16.56 เขาไปถึงโรงเรียนลูกแล้ว น่าจะจำได้ที่กองปราบเขาเคยทำแผน โดยให้ครูปรีชามาเดินตลาดในช่วงเวลาที่เขาอ้างว่าไปตลาดเรดซิตี้ และดูระยะเวลาว่าทำอะไรบ้าง ถ้าวันนั้นใครติดตามข่าวจะรู้ว่าครูปรีชาแวะหาคนที่ชื่อประทินก่อนคนขายหวยก่อน แล้วไปหาเจ๊บ้าบิ่น และบอกว่าไปตู้เอทีเอ็ม และซื้อผักบุ้ง ปลาเค็ม พริกแห้ง เขาใช้เวลาตรงนี้ร่วม 20 นาที แต่ตามแนวทางที่เขาสู้ในชั้นอุทธรณ์ จาก 16.56 บอกอยู่ตลาดเรดซิตี้ แต่ว่าข้อมูลการใช้โทรศัพท์ ตอน 16.56 เขาอยู่โรงเรียนลูกเขาแล้ว ด้วยไทม์ไลน์ไม่น่าอยู่ตลาดได้ เพราะปกติขับรถจากตลาดไปโรงเรียนลูกใช้เวลา 9 นาที แต่ระยะเวลาเมื่อกี้ 10 นาที แสดงว่าเขาใช้เวลาอยู่ตลาด 1 นาที ไม่รวมลงรถ ไปเดินหาพรรคพวกซื้อผักบุ้งปลาเค็ม ศาลเลยมองว่าแนวทางการต่อสู้ของครูปรีชา ขัดกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และขัดกับสิ่งที่ตัวเองไปทำแผนของกองปราบในตอนนั้นด้วย”

ลุงได้ใช้เงินมั้ย?
ลุงจรูญ : “ใช้มาหลายเดือนแล้ว”

ลุงประกาศหน้าศาลจะฟ้องกลับ?
ลุงจรูญ : “แน่นอนครับ ความเดือดร้อนที่ได้รับ สมควรต้องทำให้คนที่ทำให้เดือดร้อนได้รับรู้บ้าง”

โดนอะไรบ้างตลอด 3 ปี?
ลุงจรูญ : “ทำให้ครอบครัว ญาติพี่น้องเดือดร้อนไปหมด ทั้งที่เริ่มแรกไม่น่าเกิดขึ้นกับผม ถ้าไม่มีเรื่องคนพวกนี้ร่วมมือร่วมใจกันแต่งเรื่องราวมาหลอกศาล ใช้ศาลเป็นเครื่องมือในการหลอก เรื่องทั้งหมดที่เกิดเป็นเรื่องเท็จทั้งนั้น”

เรื่องเริ่มจากครูปรีชาบอกว่าถูกหวย ตอนแรกหาไม่เจอ ปรากฎว่าเจ๊บ้าบิ่นโทรศัพท์ไปบอกแกว่าถูก ซื้อไปจากฉัน หลังจากนั้นก็เป็นประเด็นขึ้นมา มีการตกลงในขั้นแรกที่โรงพัก แต่ตกลงไม่ได้ แล้วก็ขึ้นศาล ในมุมป้า 3 ปีได้รับผลกระทบอะไรบ้าง?
ป้าลาวัลย์ : “มันก็กระทบเยอะ จะไปไหนก็ต้องห่วงมาขึ้นศาล จากที่ใช้ชีวิตปกติก็ต้องมีห่วง ทั้งครอบครัวก็ห่วง พี่เราจะป็นยังไง ลูกเราจะป็นยังไง พ่อแม่ น้องๆ ที่ทำงานก็ห่วง ต้องมาเฝ้าบ้านให้ กระทบหมด ชีวิตเปลี่ยนมาก”

ตอนนั้นลุงน้อยใจตร.มาก ตอนนี้เป็นยังไง?
ลุงจรูญ : “ยังรู้สึกอยู่ ถ้าไม่ไปร่วมมือกับเขาเรื่องนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นมา”

ร่วมมือกันจริงๆ เหรอ?
ทนายตั้ม : “ภาค 7 ในตอนนั้นเขาเชื่อไปทางครูปรีชา โดยเฉพาะผู้การสุทธิ เขาเชื่อทางครูปรีชา ตอนนั้นการแสวงหาหลักฐานอะไรต่างๆ เลยโน้มเอียงไปทางนั้น ทั้งที่มีคลิปเสียงแล้ว ภาค 7 ก็มีแล้วแต่ไม่สนใจตรงนี้ จนตอนหลังเราต้องไปขอความเป็นธรรมกับสำนักงานตร.แห่งชาติ ผบ.ตร.ก็โอนคดีให้สอบสวนกลาง กองปราบทำ กองปราบเน้นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพราะเขาเชื่อว่าคนสามารถพูดพลิกลิ้นยังไงก็ได้ ยิ่งครูปรีชาเขาบอกสนิทสนมคุ้นเคยกับคนในตลาดเป็นอย่างดี แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าเขาจะให้การเพื่อช่วยกันหรือเปล่า ทางกองปราบถึงเชื่อหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากว่าพยานบุคคล”

หลักฐานอะไรใช้น็อกครูปรีชา?
ทนายตั้ม : “ผมว่าซีดีอาร์ ข้อมูลการใช้โทรศัพท์เขาสามารถบอกได้เลยว่าคุณอยู่ตำแหน่งไหน กองปราบต้องชื่นชมเขาทำละเอียดมากเขาลงพื้นที่ไปดูเสาสัญญาณจริงๆ ว่าเสานี้แผ่รัศมีไปได้กี่ร้อยเมตร ทำให้เขาสรุปมาว่าครูปรีชาไม่ได้ไปโผล่ตลาดซิตี้เลยในวันที่ 31 คือวิ่งเส้นทางจากโรงเรียนตัวเองไปโรงเรียนลูกเลย ละเอียดถึงขนาดโทรครั้งนึง มีสองเสาสัญญาณ แสดงว่ารถกำลังเคลื่อนตัว ถ้าอยู่ตรงไหนนานๆ แสดงว่าตรงนั้นรถติดอยู่ เขาทำสรุปมาแบบนี้ ผมก็ขอสำนวนสอบสวนเขามาใช้ในศาล”

ประเด็นนี้เขาสู้ยังไง?
ทนายตั้ม : “ครูปรีชาเรียกว่าพลาดเลยดีกว่าในชั้นอุทธรณ์ เพราะเขาดันไปรับคลิปของตร. ในชั้นอุทธรณ์ว่าเขามีการโทรจริงในเวลาเท่าไหร่ เสียงเขาจริง แต่เขาวาร์ปไปตลาดเรดซิตี้ทัน ศาลเลยมองว่าคุณก็รับแล้วว่าคลิปเสียง หลักฐานซีดีอาร์เป็นเรื่องจริง แล้วเจ้าหน้าที่ตร.เขาไม่รู้จะมากลั่นแกล้งครูปรีชาทำไม เขาถึงเชื่อแบบนี้ ศาลท่านก็บอกด้วยว่าครูปรีชารับมาเองในประเด็นพวกนี้ ฉะนั้นศาลไม่ต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นแล้วว่าคลิปมีความน่าเชื่อถือมั้ย เพราะครูปรีชาไม่ได้สู้มาว่าคลิปไม่น่าเชื่อถือ ข้อเท็จจริงก็เสร็จแล้ว”

ที่เขาบอกว่ามีคลิปกล้องวงจรปิดว่าเห็นลุงก้มเก็บล็อตเตอรี่ มีพยานหลักฐานแวดล้อมว่าลุงหยิบมา ที่สำคัญลุงชี้ผิดที่ พวกนี้ไปแก้กันยังไง?
ทนายตั้ม : “ครูปรีชา ทนายวรายุทธบอกใช่มั้ยว่าเดี๋ยวจะมีหลักฐานเด็ดไปใช้ในศาล แต่ไม่มีคลิปดังกล่าวมาใช้ในศาลเลย ที่มาพูดออกรายการหรือให้สัมภาษณ์อย่างนึง แต่เวลาในศาลอีกแบบนึงเลย คนไม่รู้สำนวนอาจเข้าใจผิดไปได้”

สรุปคือคลิปที่บอกว่าหมัดเด็ด โดนแน่ลุงจรูญ ไม่มี?
ทนายตั้ม : “ไม่มีใช้ในชั้นศาลเลย”

พยานที่บอกว่าเห็นล่ะ?
ทนายตั้ม : “พยานมีนายแผนขึ้น แล้วบอกว่าเห็นคุณลุงก้มเก็บ ถ้าจำไม่ผิดเขาเบิกความนานแล้ว นายแผนบอกกว่าวันที่ 31 เขาเห็นคุณลุงก้มเก็บ ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเรื่องเท็จ เดี๋ยวจะอยู่ที่ดุลยพินิจคุณลุงจะเอายังไงกับนายแผนต่อไป”

เมื่อวานประกาศจะฟ้องมัดรวม ฟ้องอะไรบ้าง?
ทนายตั้ม : “ก่อนหน้านี้ที่คดีหวย 30 ล้านคดีหลักจะตัดสิน ผมกับลุงโดนฝ่ายครูปรีชากับเจ๊บ้าบิ่นฟ้องหลายคดีมาก สัก 4-5 คดีได้ แต่น่าจะถึงที่สุดแล้ว เพราะชั้นต้นและอุทธรณ์ยกฟ้องหมดแล้ว แต่คราวนี้ที่เราฟ้องไปมีที่ฟ้องไปแล้ว 2 คดี คดีแรกเป็นตอนที่เขาไปเบิกความอายัดเงินในคดีแพ่ง เราเห็นว่ากการเบิกความเขาน่าจะเป็นเท็จ เราก็ฟ้องเบิกความเท็จไปหนึ่งคดี ซึ่งคดีนี้เราฟ้องครูปรีชา เจ๊บ้าบิ่น เจ๊พัช 3 คน ซึ่งศาลรอให้คดีหลักถึงที่สุดก่อนเขาถึงจะยกคดีมาพิจารณา”

“คดีที่สองลุงจรูญฟ้องครูปรีชาและทนายวรายุทธ ข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จคดีที่ศาลตัดสินไปเมื่อวานนี้ มาฟ้องลุงว่ายักยอกหรือรับของโจร เราดูแล้วว่าเป็นเท็จ เพราะครูปรีชาไม่ได้ไปตลาด แล้วมาฟ้องได้ยังไง แล้วทนายรู้ข้อเท็จจริงนี้ดีเพราะให้สัมภาษณ์ในรายการช่องนึงว่าตัวเองเป็นคนบอกให้ครูปรีชาฟ้องเอง ผมเลยฟ้องไปทั้งสองคน แต่คดีนี้เพิ่งขึ้นศาลไปไม่นาน เขาขอเลื่อนอีกครั้งเพื่อรอฟังคดีหวย 30 ล้านคดีหลักก่อน เพื่อศาลจะได้พิพากษาง่ายขึ้น ส่วนอีกคดีคือเรื่องเบิกความเท็จยังไม่ได้ฟ้อง อยู่ที่ดุลยพินิจคุณลุงว่าจะฟ้องใครบ้าง”

ลุงบอกจะมัดรวมเลย มีใครบ้าง พี่ๆ ป้าๆ เจ๊ๆ ที่ดูอยู่จะได้เตรียมตัวรับหมาย?
ลุงจรูญ : “อันดับแรกคือครูปรีชา พยานคนแรก เจ๊พัช บ้าบิ่น แม่ค้า แต่จำชื่อไม่ได้หมดทุกคน”

แม่ค้าเขาเกี่ยวอะไร?
ลุงจรูญ : “เขามาเป็นพยานให้”

ทนายตั้ม : “แม่ค้านี่โห มากันครึ่งตลาดได้ 10 คน มีทั้งขายไก่ ขายพริกหอม นายแผน เขาเป็นพยานว่าเห็นครูปรีชาในวันที่ 31ต.ค.ไปซื้อล็อตเตอรี่ ไปคุยกับแม่ค้าคนโน้นคนนี้ เห็นครูปรีชาไปตลาด ซึ่งตรงข้ามกับสัญญาณโทรศัพท์ที่บอกว่าครูไม่ได้ไป”

นายแผนโดนมั้ย?
ลุงจรูญ : “โดน”

เจ๊เกียว?
ลุงจรูญ : “มาเป็นพยานให้เขาหรือเปล่าล่ะ”

ทนายตั้ม : “เจ๊เกียวพยานปากสำคัญ เห็นเขาส่งล็อตเตอรี่เลยครับ (หัวเราะ)”

เอาหมดทุกคน แล้ว อ.เทอดศักดิ์ ฟ้า น้ำเต้าหู้ ทนายสุกิจ?
ทนายตั้ม : “คนพวกนี้เขามาเหมือนเป็นสีสันแต่ไม่ได้ขึ้นศาล อย่างดร.เทอดศักดิ์ ทฤษฎีอะไรเขาสักอย่างที่บอกว่าหวยเป็นของครูปรีชา ของฟ้าตอนหลังฟ้าไม่ได้ไปทางครูปรีชา เขาทะเลาะไปแล้ว เขาไม่ได้เป็นพยานในศาล เป็นตัวละครที่เข้ามาในคดีหวย 30 ล้าน”

เหมือนมังกรหยก หลายส่วน หลายภาค เยอะแยะ?
ทนายตั้ม : “ท้ายที่สุดเขาบอกว่าเข้ามาในคดีหวย 30 ล้านมาดูสืบผม (หัวเราะ)”

ที่ผ่านมาหนักหนาสาหัสมาก?
ทนายตั้ม : “หนักจริงๆ คดีนี ตอนที่สืบคดี เข้ามาทั้งผมและลุงจรูญ ผมโดนแจ้งความโดนฟ้อง ก่อนขึ้นศาลทุกครั้งต้องมีคนไลฟ์สดด่าผม ใส่ร้ายต่างๆ นานา ทำให้ผมไม่มีสมาธิในคดีหวย ทำให้ผมจับมือลุงกับป้าเรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ มุ่งมั่นเอาเรื่องคดีให้สำเร็จ ตอนแรกๆ ทางภาค 7 เขาแถลงข่าวว่าจะแจ้งข้อหาลุงจรูญ แล้วผมไปซื้อตั๋วไว้ก่อนแล้วจะไปเที่ยวกับครอบครัว คนก็หาว่าผมหนี แต่หนีอะไร ผมจองตั๋วเป็นเดือนๆ แล้ว ตอนนั้นให้สัมภาษณ์กับคุณหนุ่ม”

ลุงเคยฟ้องทนายวรายุทธ เพราะเขาพูดว่าลุงเป็นอาชญากร?
ทนายตั้ม : “ใช่ครบ เรื่องนี้ลุงจรูญฟ้องทนายวรายุทธไว้ ศาลน่าจะมีมูลไปแล้วด้วย เขาให้สัมภาษณ์ว่าวิธีการของลุงที่บอกว่าจำใครไม่ได้ เป็นวิธีการของอาชญากร และให้สัมภาษณ์ว่าลุงไปเบิกเงินด้วยวิธีไม่ถูกต้อง สองเรื่องนี้เราก็ฟัองไป ศาลก็รับมีมูล แต่ท้ายที่สุดลุงจรูญสงสารทนาย เพราะเขากราบขอโทษบนบัลลังก์ศาลบอกว่าสำนึกผิดแล้ว ไม่ทำแล้ว ลุงจรูญเลยเมตตาถอนคดีให้ แต่ล่าสุดเขาไม่ได้มาคดีหลักนะ (หัวเราะ) เป็นทนายอีกคนมา ผมก็งงว่าเป็นคดีใหญ่ ผมว่าเขาไม่มีเฉยๆ มากกว่า แต่ตัวเขาน่าจะยังอยู่”

เจรจากันได้มั้ย ถ้าเขาเจรจา ขอโทษ?
ลุงจรูญ : “หมดเวลาไปแล้ว เอาเวลาที่เหลือไปทำอย่างอื่น เห็นยังดิ้นอยู่ไม่ใช่เหรอ”

คดีผู้การสุทธิยังไง?
ทนายตั้ม : “ตอนนั้นกองปราบเขาจะดำเนินคดีกับผู้การสุทธิ ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่ท้ายที่สุดเท่าที่ทราบกองปราบมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้การ และเรื่องอยู่ที่อัยการ เราก็ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อ แต่ครูปรีชาเรารอไม่ได้ มันช้า เราก็เลยดำเนินคดีเอง”

เขาเคยขอเจรจามั้ย?
ทนายตั้ม : “มีตอนก่อนศาลอุทธรณ์ภาค 7 ตัดสิน เขาเรียกสองฝั่งไปว่าจะเจรจาอะไรยังไง ครูปรีชาตอนนั้นเขาเป็นโจทก์ เขาก็อยากจบ แต่ลุงบอกว่าไม่เอา อยากให้เรื่องนี้มีคำพิาพากษาของศาลมายืนยันดีกว่าว่าตัวลุงเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆ ไม่ใช่ไกล่เกลี่ยแล้วมาถอนฟ้อน”

ถ้าทุกคนมากราบขออภัย อย่างเจ๊เกียวเจ๊บ้าบิ่น?
ลุงจรูญ : “มันหมดเวลาแล้ว”

แม่ค้าขายอาหาร ขายผัก?
ลุงจรูญ : “คนที่เข้ามาเป็นพยานทั้งหมดเป็นพยานเท็จอยู่แล้ว ส่วนจะมารับว่าผิดไปแล้วก็เลยขั้นตอนนั้นไปแล้ว สายไปแล้ว”

ถ้ามีการฟ้องแบบนี้ ครูปรีชาจะถูกถอดจากการเป็นครูมั้ย?
ทนายตั้ม : “ตอนนี้เริ่มฟ้องแล้ว ถ้าศาลพิพากษาว่าผิดจริงต้องออกจากการเป็นครู แต่ต้องรอคดีสิ้นสุดก่อน เพราะเป็นคดีมีโทษจำคุกไม่ 5 ปี ก็ 7 ปี แล้วถ้าเขาสู้คดี โอกาสศาลไม่รอลงอาญามีน้อย ถ้าติดคุกติดตะรางเขาก็ต้องสิ้นสุดการเป็นครู”

สุดท้ายหรือยัง ?
ทนายตั้ม : “ผมคิดว่าคงจบภายในไม่กี่เดือน”

คิดว่าจะมีคนติดคุกมั้ย?
ทนายตั้ม : “มีครับ มั่นใจว่ามีคนติดคุก เผลอๆ คนมีอาชีพทนายความด้วย ส่วนอาชีพครูเบอร์หนึ่งเลย ไม่มีไม่ได้”

ต่อไปจะเป็นมหากาพย์ชุดใหญ่ ลุงจรูญฟ้องพยานเท็จทั้งหลาย ใช้คำนี้ได้มั้ย?
ทนาย : “ได้ครับ”

เรื่องคุณกับคุณอัจฉริยะ?
ทนายตั้ม : “มาเจอกันเลยมั้ย”

คุณอัจเอาทนายเดชามาได้มั้ย?
ทนายตั้ม : “งั้นผมขอทนายรณณรงค์ ถ้าทนายรณณรงค์มา ผมก็มา (หัวเราะ)”