ญี่ปุ่นเผย จีน ไทย ตุรกี ติดสามอันดับแรกที่ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากต้องสงสัยในการใช้วีซ่าผิดประเภท ยืนยันจะคัดกรองอย่างเข้มงวด

The Japan Times

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2563 สำนักข่าว เอ็นเอชเคเวิล์ดเจแปน รายงานว่า มีคนต่างชาติมากกว่า 1 หมื่นคน ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าญี่ปุ่นในปีที่แล้ว นับเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีที่มีผู้ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศเป็นจำนวนเกิน 1 หมื่นราย

สำนักงานบริการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศญี่ปุ่นระบุว่า มีผู้ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศจำนวนทั้งหมด 10,647 คน เพิ่มขึ้น 1,468 คน หรือคิดเป็น 16 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับปี พ.ศ.2562

โดยจากจำนวนที่ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศทั้งหมด 10,647 คน มีคนที่ต้องสงสัยเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการเข้าประเทศโดยใช้วีซ่าผิดประเภท ทำให้ถูกปฏิเสธจำนวน 8,890 คน หรือคิดเป็นประมาณ ร้อยละ 80 จากทั้งหมด

มีรายงานว่าผู้คนที่ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศญี่ปุ่น ได้แจ้งว่าจะเข้าประเทศญี่ปุ่นเพื่อจุดประสงค์ในการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ แต่ในความเป็นจริงคนกลุ่มดังกล่าววางแผนที่จะทำงานอย่างผิดกฎหมายในประเทศ

โดยคนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวน 3,765 คน คิดเป็น 1.8 เท่าของปีที่แล้ว คนจากราชอาณาจักรไทยเป็นจำนวน 1,398 คน และ คนจากสาธารณรัฐตุรกี จำนวน 925 คน หากรวมผู้ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศญี่ปุ่น จากคนทั้งสามประเทศ จะคิดเป็นประมาณ ร้อยละ 60 จากกรณีที่ถูกปฏิเสธทั้งหมด

สำนักงานบริการตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นกล่าวว่า มีจำนวนผู้ขอเข้าประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับจำนวนผู้ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้ สำนักงานบริการตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นระบุว่าจะทำการคัดกรองอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้คนต่างชาติเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมายในญี่ปุ่น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน